
ภูสอยดาว นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่ามีธรรมชาติอันงดงาม ซึ่งผสานความงามของป่าสน ทุ่งหญ้า และทุ่งดอกไม้ที่แข่งกันผลิบานในช่วงฤดูฝนเข้าไว้ด้วยกัน ฉะนั้นในช่วงฤดูฝนจึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้พบกับภาพความงามตามธรรมชาติหลายๆ อย่าง ที่พร้อมใจกันอ้าแขนต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งสายน้ำตกอันเย็นฉ่ำ และทุ่งดอกไม้ที่ผลิบานตามช่วงฤดูกาล

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัดคือ พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ แถมยังคาบเกี่ยวถึง 2 ประเทศคือ ไทย และสปป.ลาว อีกด้วย ซึ่งทางขึ้นภูจะมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ในเขตของป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ก่อนขึ้นจะพบกับ น้ำตกภูสอยดาวชั้นที่ 1 อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ เป็นน้ำตกสูง 5 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนน้ำจะแรงและสวยงามที่สุด เดินเท้าต่อไปจะพบกับ เนินส่งญาติ เป็นเนินเขาที่สูงชันยาวหลายร้อยเมตร
แต่ถ้าใครไม่ถนัดก็มีทางเลี่ยงโดยเดินทวนสายน้ำตกแล้วตัดขึ้นสันเขา ก็จะไม่ชันเท่า พ้นเนินส่งญาติก็มาพบกับ เนินปราบเซียน เป็นเนินเขาสูงชันที่ไต่ไปตามสันเขา และมีหุบทั้ง 2 ฝั่ง ด้านซ้ายเป็น ห้วยน้ำพาย ด้านขวาเป็น ลำน้ำภาค ที่แบ่งรอยต่อระหว่างพิษณุโลกกับอุตรดิตถ์ จากนั้นก็มาถึง เนินเสือโคร่ง และเป้าหมายสำคัญคือ เนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินที่สูงชันมาก พ้นจากจุดนี้แล้ว ก็จะได้พบกับทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ และป่าสนที่สวยงามของ ลานป่าสนภูสอยดาว ซึ่งใช้เวลาเดินเท้ารวมประมาณ 5 ชั่วโมง

จุดตั้งแค้มป์จะถูกกำหนดไว้โดยทางอุทยานฯ ช่วงเย็นสามารถชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกอันสวยงามได้ที่ริมหน้าผา ยิ่งวันไหนถ้าสภาพอากาศเปิด ก็จะได้ชมภาพธรรมชาติที่งดงามสุดตระการตา ทั้งวิวด้านล่าง และวิวป่าสน
ในช่วงฤดูฝน สภาพธรรมชาติที่ภูสอยดาวจะถูกโอบล้อมด้วย ดอกหงอนนาค ที่เบ่งบานเต็มท้องทุ่ง ซึ่งไม่มีทุ่งดอกหงอนนาคที่ไหนสวยงามเท่ากับภูสอยดาวอีกแล้ว และเมื่อเริ่มหมดฝน ก็จะมีดอกไม้อย่างอื่นบานทดแทนขึ้นมา สร้างสีสันและความสวยงามได้อย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวจึงสามารถเที่ยวชมทุ่งดอกไม้ป่านานาพันธุ์ได้ตลอด นอกจากนี้ยังมี น้ำตกสายทิพย์ ที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดเล็ก ที่เราสามารถเดินเที่ยวได้ครบทุกชั้น

ภูสอยดาว จึงถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่อุดมไปด้วยทุ่งดอกไม้หลากชนิด ซึ่งผลัดเปลี่ยนกันผลิบานให้เราสามารถเที่ยวชมกันได้อย่างเต็มอิ่มในทุกฤดูกาล
ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว