“รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์” เมืองกลางน้ำสไตล์ล้านนา

“รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์” เมืองกลางน้ำสไตล์ล้านนา

“รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์” เมืองกลางน้ำสไตล์ล้านนา

              จันทบุรี ถือเป็นจังหวัดหนึ่งที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีทั้งทะเล น้ำตก และโฮมสเตย์พักผ่อนชิลล์ๆ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีที่พักใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเยอะมาก ใครอยากไปพักผ่อน กินปู ดูเหยี่ยว ก็ต้องลองไปเที่ยวเมืองจันท์กันสักครั้ง และถ้าใครยังไม่รู้จะพักที่ไหนดี วันนี้เราจะมาแนะนำ ‘รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์’ ที่พักสวยมาแรงแซงทางโค้ง ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นในรูปแบบของเมืองกลางน้ำ เก็บกระเป๋าแล้วตามเราไปเช็คอินพร้อมกันได้เลย

               รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์ ตั้งอยู่ที่ ต.หนองชิ่ม อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี มีที่จอดรถส่วนตัวอยู่ด้านหน้าที่พักเรียกได้ว่าสะดวกสบายสุดๆ ความโดดเด่นของที่นี่ คือ ตัวที่พักตกแต่งด้วยไม้ สอดรับกับหลังคาสไตล์ล้านนา ได้บรรยากาศแบบศิลปะล้านนาอย่างแท้จริง อีกทั้งยังล้อมรอบด้วยน้ำ มีสะพานไม้เป็นทางเดินทอดไปสู่จุดต่างๆ เหมือนเป็นเมืองกลางน้ำเลยทีเดียว

              เมื่อเช็คอินแล้ว จะได้รับคูปองกาแฟตามจำนวนผู้เข้าพัก สำหรับแลกซื้อเครื่องดื่มได้ฟรีที่ คาเฟ่รัตนะบุรี แถมเขายังเพิ่มความปลอดภัยด้วยสายรัดข้อมือ ที่ใช้เข้าออกไปยังโซนพักผ่อน ซึ่งถ้าใครไม่มีสายรัดข้อมือจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังพื้นที่ด้านใน ภายในคาเฟ่มีโซนนั่งเล่นหลากหลายมุม ท่ามกลางการตกแต่งร้านสไตล์ล้านนา ที่มีตุงหลากสีสัน ได้บรรยากาศแบบเมืองเหนือ รวมถึงการเปิดเพลงบรรเลงคลอๆ ให้ได้เพลิดเพลินระหว่างจิบเครื่องดื่มด้วย

             ในส่วนของห้องพักที่นี่ จะมีทั้งหมด 67 ห้อง แบ่งเป็นหลังๆ เน้นการพักรวมกันแบบโฮมสเตย์ทั่วไป ซึ่งเราสามารถจองเป็นหลังเพื่อพักเป็นส่วนตัวได้ เริ่มต้นตั้งแต่ 3 ไปจนถึง 11 คน มีอาหารให้ 2 มื้อ คือ บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า และอาหารเย็นที่เน้นอาหารทะเลแบบเติมไม่อั้นทุกเมนู

             นอกจากนี้ ก็ยังมีห้องประชุมขนาดใหญ่ ซึ่งรองรับได้ถึง 150 คน ภายในห้องมีอุปกรณ์ทันสมัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ไมโครโฟน โปรเจคเตอร์ และจอมอนิเตอร์ บริษัทไหนอยากมาจัดสัมมนา ที่นี่ก็เป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว

            ไม่ใช่แค่บรรยากาศดี แต่เรื่องกิจกรรม และอาหารการกินของที่นี่ก็จัดว่าเด็ด โดยตอนบ่ายสามโมงของทุกวัน จะมีกิจกรรมล่องแพเปียก ซึ่งจุดลงแพจะอยู่ติดที่พักเลย โดยเส้นทางในการล่องแพ จะเป็นการชมป่าโกงกางอันอุดมสมบูรณ์ ชมเหยี่ยวแดง และวิถีชาวบ้าน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

             เมื่อตะวันลับฟ้า ก็ได้เวลาอาหารเย็น ซึ่งมื้อเย็นที่นี่จะเริ่มกันตั้งแต่ 18.00 – 22.00 น. โดยมีไฮไลท์ คือ อาหารทะเลเติมไม่อั้น!! จัดมาแบบจุกๆ มาในที่บรรยากาศดีๆ แถมยังได้กินของอร่อยด้วย มันเป็นอะไรที่ดีต่อใจมากๆ เลยว่าไหม?

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว 

Facebook
Twitter