พาไปเที่ยวชมพระราชวังหลวง (City Palace) ที่อินเดียกัน
อินเดีย เป็นประเทศหนึ่งที่รับรองได้ว่า ต้องติดอยู่ในลิสต์รายการท่องเที่ยวสำหรับใครที่ชอบการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศเป็นแน่ เหตุน่าจะเป็นจากเอกลักษณ์ของชีวิตความเป็นอยู่ สถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตา และยังเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาอีกด้วย
แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ดูจะค่อนข้างเป็นไปได้ยากยิ่ง ที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่อินเดียได้ คงไม่ต้องบอกกันอีก ว่าคืออะไร พวกเราทุกคนทั่วโลกรู้กันดีอยู่แล้ว ในบทนี้จึงขอนำ พาไปเที่ยวชมพระราชวังหลวง (City Palace) ที่อินเดียกัน มาฝากทุกคนกัน เผื่อจะได้ช่วยคลายความเครียด เหมือนกับพากันไปท่องเที่ยวสัมผัสที่อินเดียกันจริงๆ ใครที่อยากจะไปเที่ยวอินเดียด้วยกันแล้ว เราเดินทางไปพร้อมๆกันเลย
พระราชวังหลวง ตั้งอยู่ทางเหนือของใจกลางเมืองชัยปุระ (Jaipur) ประเทศอินเดีย มีขนาดกว้างขวางครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 ใน 7 ของใจกลางเมืองชัยปุระกันเลยทีเดียว พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยมหาราชาสะหวายจัย สิงห์ที่ 2 (Maharaja Sawai Jai Singh II) เพื่อเป็นที่พักผ่อน และอยู่อาศัยของเหล่าสมาชิกราชวงศ์ชัยปุระซึ่งปัจจุบันก็ยังคงอาศัยอยู่
รูปแบบสถาปัตยกรรมแห่งนี้เป็นแบบราชปุตผสมกับโมกุล เพราะสมัยก่อสร้างแรกๆ ขณะนั้นราชวงศ์โมกุลได้เข้ามามีอิทธิพลในรัฐราชสถานแล้วนั่นเอง ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องความงามของจิตรกรรมฝาผนัง การแกะสลัก งานตกแต่งด้วยแก้ว หรือแม้แต่กระเบื้องสวยๆ ประตูหลักของที่นี่มีอยู่สามจุดด้วยกันได้แก่ ประตูวิเลนดร้า พอล (Virendra Pol) ประตูอุได พอล (Udai Pol) ที่คนทั่วไปสามารถเข้าออกได้ แต่สำหรับประตูตริโปเลีย (Tripolia Gate) จะมีไว้สำหรับสมาชิกราชวงศ์เท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีกิมมิคเป็นประตูเล็กๆ อีกสี่ประตูที่แสดงออกถึงฤดูกาลทั้งสี่นั่นเอง ได้แก่นกยูงหรือ มอร์เกท (Mor Gate) หมายถึงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งมีลวดลายของนกยูงสวยงามที่ซุ้มประตู ประตูดอกบัว (Lotus Gate) ที่เป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อน ประตูเลเรีย (Leheriya gate) เป็นฤดูใบไม้ผลิ และประตูกุหลาบ (Rose Gate) หมายถึง ฤดูหนาว ทั้งสี่ประตูถูกตกแต่งอย่างสวยสดงดงามอลังการ
ภายในพระราชวังหลวงมีพระตำหนัก สวน พื้นที่พักอาศัยของราชวงศ์ และส่วนที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์สะหวายมาน สิงห์ (Sawai Man Singh Museum) จัดแสดงสมบัติราชวงศ์มากมายอย่างภาพวาด ของใช้ หรือเสื้อผ้า นอกจากนี้ไม่ใกล้ไม่ไกลก็มีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2010
โดยองค์การยูเนสโก อย่างหอดูดาวจันตาร์มันตาร์ (Jantar Mantar) ที่ถูกสร้างในยุคมหาราชาสะหวายจัย สิงห์ที่ 2 เช่นกัน เพื่อเอาไว้คำนวณฤกษ์ และเวลาสำหรับการออกรบ ที่นี่เปิดทุกวันเวลา 09.30 – 17.00 น. ค่าเข้าชมพระราชวัง 500 รูปี และค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 900 รูปี
นี่ก็คือ พาไปเที่ยวชมพระราชวังหลวง (City Palace) ที่อินเดียกัน ที่นำมาฝากกัน ลองจินตนาการกันดูว่าเราเดินเที่ยวชม พระราชวังหลวง City Palace ที่อินเดียกันอยู่ก็แล้วกัน แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่สถานการณ์ต่างๆทั่วโลกของเราดีขึ้น เราคงได้มีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวที่นี่กันจริงๆ แล้วในบทหน้าเรามาพบกันใหม่กับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจจากทั่วทุกมุมโลกที่จะไปสรรหามาฝากทุกคนกันอีกได้ในทุกสัปดาห์ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้าง เราต้องมาติดตามกันต่อ
ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว