Categories
focus on travel

ทะเลหมอก ใกล้กรุงเทพ

จุดชมทะเลหมอกสุดฟิน เช็กอินใกล้กรุงเทพ

ช่วงสถานการณ์โคโรน่าไวรัส-2019 แบบนี้ใครหลายๆคนอาจยังไม่อยากที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไกลๆกัน แต่ในใจก็อยากจะไปเที่ยว เพื่อเป็นการผ่อนคลายหลังจากล็อกดาวน์มานาน วันนี้เราจึงมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวชมทะเลหมอกแบบฟินๆใกล้กรุงเทพกัน รับรองว่านอกจากเดินทางสะดวกแล้ว วิวธรรมชาติและทะเลหมอกก็สุดปังไม่แพ้ทะเลหมอกของภาคเหนือเลยทีเดียว

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

1.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

คนส่วนใหญ่นิยมมาเที่ยวที่นี่ช่วงฤดูหนาวเพราะที่นี่ใกล้กรุงเทพมาก เดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็มาถึง และยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้กับอีกมากมาย เช่น กางเต้นท์ ส่องสัตว์กลางคืน ชมวิวทะเลหมอก ชมดวงอาทิตย์ทอแสงยามเช้า ชมดอกไม้ แถมอากาศงดงาม สดชื่นเย็นสบายสุดๆ เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับการมาทำกิจกรรมผ่อนคลายกันทั้งครอบครัว

หรืออาจจะเป็นกลุ่มเพื่อนหรือคู่รัก แฟน ก็ฟินได้ไม่แพ้กัน ค่าเข้าก็ไม่แพงเพราะราคาผู้ใหญ่แค่ 40 บาทเท่านั้นเอง ส่วนเด็กก็ถูกยิ่งไปอีกเพียง 20 บาท เท่านั้น บรรยากาศดีๆแถมมีกิจกรรมให้ทำเยอะพร้อมชมทะเลหมอกแสนตระการตาแบบนี้พูดได้คำเดียวเลยว่าต้องลองมาเที่ยวดูสักครั้งในชีวิตแล้วจะไม่ผิดหวัง

อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว
อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว

2.อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว

ช่วงกลางๆปีประมาณเดือนมิถุนายนของทุกปี อุทยานแห่งชาติปางสีดาจะมีกิจกรรมการชมผีเสื้อ300กว่าชนิด ประกวดหุ่นผีเสื้อ แห่หุ่นผีเสื้อ ทำโป่งเทียมให้ผีเสื้อ และใครที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจที่นี่มีแนะนำการถ่ายภาพผีเสื้อจากนักดูผีเสื้อและนักถ่ายภาพตัวจริงเสียงจริง ที่นี่ถือเป็นแหล่งการเรียนรู้ชั้นดีเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีน้ำตกที่แสนงดงามให้ได้ชมกัน เช่น น้ำตกปางสีดา น้ำตกผาตะเคียน เป็นต้น ที่สำคัญพลาดไม่ได้กับจุดชมวิวโขดหินตามลำน้ำ น้ำตกผาหิน 3 ชั้น รับรองอากาศสดชื่น เย็นสบายฟินกลับบ้านไปตามๆกัน

สะพานมอญ จ.กาญจนบุรี
สะพานมอญ จ.กาญจนบุรี

3.สะพานมอญ จ.กาญจนบุรี

เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จักที่นี่กันอยู่แล้ว เพราะถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮอตฮิตที่หนึ่งของไทยเลย  รับรองว่ามาที่นี่คุณจะได้รูปกลับไปแบบลงโซเซียลไปได้เป็นปีเพราะบรรยากาศหมอกจาง ๆ ที่ลอยอยู่เหนือน้ำ มีการใส่บาตรและมีวิถีชีวิตของชาวไทยเชื้อสายมอญให้ได้สัมผัสกัน และยังมีเด็กๆที่รอถ่ายรูปและปะแป้งให้กับนักท่องเที่ยวอีก ซึ่งจะน่ารักขนาดไหนต้องลองไปสัมผัสกันเองสักครั้งในชีวิต

หมู่บ้านอีต่อง จ.กาญจนบุรี
หมู่บ้านอีต่อง จ.กาญจนบุรี

4.หมู่บ้านอีต่อง จ.กาญจนบุรี

หมู่บ้านเล็กอีต่อง เป็นหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขาที่แสนเงียบสงบ ควรมาสักครั้งในชีวิตแต่ระยะทางอาจไม่สะดวกมากนักแต่รับรองว่ามาแล้วจะไม่ผิดหวังกับวิวธรรมชาติและบรรยากาศรอบๆหมู่บ้านแน่นอน ที่เที่ยวมีทั้งในตัวหมู่บ้านเองและธรรมชาติรอบๆรับรองว่าคุณจะหลงรักในความธรรมดาของที่นี่ ที่สำคัญต้องไม่ลืมมาผูกป้ายตรงสะพานเป็นที่ระลึกก่อนกลับกันว่าครั้งหนึ่งคุณเป็นหนึ่งคนที่มาเยือนที่นี่ถือเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านอีต่องเลยเลยทีเดียว

เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

5.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

ไฮไลท์ที่นี่คือความสวยงามของทะเลหมอกแบบขั้นสุด ถือว่าเป็นปลายทางของใครหลายๆคนเลยทีเดียว ที่ท่องเที่ยวใกล้ๆนั้นก็มีมากมาย เช่น สวนดอกไฮเดรนเยียขนาดใหญ่ที่นี่คนนิยมมาเที่ยวชมและแชะภาพลงโซเซียลกัน ทุ่งกังหันลม วัดต่างๆ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์  พระตำหนักเขาค้อ น้ำตก คาเฟ่น่ารักๆมากมาย และขอแอบกระซิบบอกว่าใครที่เป็นสายแอดเวนเจอร์ห้ามพลาดที่นี่ “ภูแก้ว แอดเวนเจอร์ ปาร์ค” รวมเครื่องเล่นมากมายครบจบในที่เดียว

               เรียกได้ว่าทั้ง 5 สถานที่ชมทะเลหมอกใกล้กรุงเทพที่เราได้คัดมานั้นรับรองว่าวิวธรรมชาติ บรรยากาศสวยงามไม่แพ้ภาคเหนือเลยทีเดียว บอกได้คำเดียวเลยว่าฟินขั้นสุด แถมไม่ต้องเหนื่อยในการเดินทางไกล ใครที่สนใจเที่ยวที่ไหนก็สามารถไปตามรอยกันได้เลย รับรองว่าคุณจะได้ฮีลตัวเองและได้พลังกลับมาเต็มเปี่ยมแน่นอน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

unseen ภาคใต้

เช็กอินเกาะ unseen ภาคใต้

ปลดล็อกดาวน์แล้ว ถ้าใครกำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวอยากจะไปเที่ยวพักผ่อนชาร์จพลังให้กับร่างกาย เราขอแนะนำ 5 เกาะ unseen ของภาคใต้ เรียกได้ว่าบรรยากาศและท้องทะเลสวยใสราวกับเเก้วมรกตไม่แพ้ที่ไหนในโลกเลยทีเดียว ขอแอบกระซิบบอกว่าควรค่าแก่การไปเที่ยวสักครั้งในชีวิตและเราจะพาไปชมที่ไหนกันบ้าง ตามเรามาดูเลยรับรองว่ามาแล้วไม่ผิดหวัง

หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตนธารา
หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตนธารา

1.หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตนธารา จังหวัดกระบี่ บริเวณใต้ท้องทะเลเต็มไปด้วยปะการังเรียกได้ว่ามีความสวยงามตระการตามากๆ บริเวณรอบเกาะบรรยากาศดี อุดมสมบูรณ์ และที่พลากไม่ได้เอกลักษณ์เกาะนี้ก็คือ ภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้นๆ

มีถ้ำที่สวยงามอยู่ใต้ท้องทะเล และเราขอแนะนำที่เที่ยวที่ห้ามพลาดในหมู่เกาะพีพีก็คือ เกาะพีพีดอน เรียกได้ว่ามาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีทั้งท่าเรือ ที่พัก ร้านอาหาร ของกินมากมาย รอบๆบรรยากาศดีมากแถมทรายละเอียดนุ่มสุดๆ อยากให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสสักครั้ง รับรองว่าจะเป็น nuture therapy ที่ดีที่สุดที่หนึ่งอย่างแน่นอน

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์

2.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา เป็นหมู่เกาะหนึ่งในทะเลอันดามัน อยู่ติดชายแดนประเทศเมียนมา ชายหาดที่นี่มีความงดงามมาก น้ำทะเลขาวใส ไฮไลต์คือการดำน้ำชมปะการังอันสวยงาม อุดมสมบูรณ์และปลาหลากชนิดใต้ทะเล และอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวมากที่สุดก็คือ “หมู่บ้านมอแกน” ที่อยู่บริเวณอ่าวบอนของเกาะสุรินทร์ใต้ คุณสามารถมาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวมอแกน ปละซื้อของที่ระลึกกลับไปเป็นของฝากกันได้ บอกได้เลยว่าคุ้มค่ามากต้องลองมาสัมผัสสักครั้ง

เกาะนางยวน
เกาะนางยวน

3.เกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะนี้สวยงามมากเปรียบดั่งเกาะสวรรค์ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 ของโลกบริเวณนั้นจะมีเกาะ 3 เกาะที่ถูกเชื่อมต่อด้วยชายหาดเดียวกัน เป็นสันทรายสีขาว ทำให้เกิดเป็นทะเลแหวกและชายหาดจำนวน 3 แห่ง เรียกได้ว่า unseen มาก!

จนคุณต้องร้องว้าว แถมยังมีจุดดำน้ำชมปะการัง อีกทั้งคุณยังสามารถชมวิวของทะเลได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว ที่สำคัญคู่รักต้องไม่พลาดกับความโรแมนติกของหาดที่นี่เพราะเป็นหาดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตกได้จากบริเวณเดียวกัน มาแล้วรับรองว่าคุณจะมีทั้งความทรงจำที่ไม่มีวันลืมและภาพสวยๆไปลงโซเชี่ยลอีกมากมาย

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพ
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพ

4.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร อาณาเขตของหมู่เกาะชุมพรนั้นเรียกได้ว่ามีทั้งหมด 40 เกาะด้วยกัน กิจกรรมส่วนใหญ่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาทำกันก็คือ ดำน้ำดูปะการังใต้ท้องทะเล ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ อาบแดด และนั่งปิกนิกชิลๆบนหาด

และที่ท่องเที่ยวที่เราอยากแนะนำก็คือ อ่าวทุ่งมะขาม หาดอรุโณทัย และเกาะมาตรา ทั้งหมดเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำดูปะการังกัน รับรองว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำเลยก็ว่าได้ ใครที่ชอบดำน้ำและรักในท้องทะเลไม่ควรพลาดที่นี่เลย

เกาะรอก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
เกาะรอก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

5. เกาะรอก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ แบ่งออกเป็นเกาะรอกนอก และเกาะรอกใน ที่สำคัญยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งอันดามัน” แค่ฟังชื่อก็สุดปังแล้วใช่ไหมล่ะ ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นเกาะสีเขียว ธรรมชาติสวยงามมาก มีความเงียบสงบ อากาศบริสุทธิ์ รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลที่ใสดังแก้ว รอบๆ เกาะมีจุดดำน้ำตื้นหลายจุด มีปะการังที่สวยงามอุดมสมบูรณ์มากและฝูงปลานานาพันธุ์ จุดนี้ก็สวยไม่แพ้ไปกว่าจุดอื่นๆเลยคนรักการดำน้ำควรมา!

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 สถานที่เช็กอินภาคใต้ที่แสน unseen ใครกำลังหาสถานที่ท่องเที่ยว บรรยากาศดีๆ วิวทะเลอยู่ ต้องไม่พลาดกับ 5 เกาะนี้เลย รับรองได้ว่าทุกคนจะเพลิดเพลินไปกับไอทะเล ไอแดด และบรรยากาศสวยๆสุดฟิน วิวหลักล้าน ที่ไม่ต้องไปไกลที่ไหน อยู่แค่ภาคใต้ของประเทศไทยเท่านี้เอง ทะเลเมืองไทยก็สวยไม่แพ้ที่ใดในโลก ที่สำคัญเหมาะกับการเที่ยวแบบ social distancing ในตอนนี้เป็นอย่างมาก มาแล้วรับรองไม่มีผิดหวัง

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

ทุ่งดอกไม้@เชียงใหม่

5 พิกัดทุ่งดอกไม้ เชียงใหม่

สำหรับใครที่หลงใหลในดอกไม้ หรือชอบเที่ยวสถานที่ที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้ ขุนเขา และอากาศที่บริสุทธิ์ต้องพลาดไม่ได้กับจังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทยเรานั่นเอง ซึ่งเรารับรองว่าไม่ว่าคุณจะมากี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อเลยทีเดียว เพราะที่เที่ยวธรรมชาตินั้นมีมากมายระรานตา ในวันนี้เรามีพิกัดทุ่งดอกไม้สวยๆ 5 ทุ่งดอกไม้เชียงใหม่มาแชร์กัน รับรองว่ามาแล้วต้องติดใจแน่นอน ที่สำคัญถ่ายรูปลงโซเชี่ยลได้แบบปังๆ ยอด like พุ่งพรวดอย่างแน่นอน ใครชอบที่ไหนก็ตามไปโดนกันได้เลย

ไอเลิฟฟลาวเวอร์ฟาร์ม
ไอเลิฟฟลาวเวอร์ฟาร์ม

1.ไอเลิฟฟลาวเวอร์ฟาร์ม (I Love Flower Farm) เรียกได้ว่าเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตที่ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ จะต้องไปเยือนทุ่งดอกไม้แห่งนี้ I Love Flower Farm เพราะช่วงที่ผ่านมามีดารา ไอดอลมากมายได้ไปเยือนสถานที่แห่งนี้แล้วถ่ายรูปลงโซเชี่ยลทำให้คนตามไปกันเป็นจำนวนมาก และมีอยู่ช่วงหนึ่งถึงกับต้องจองคิวล่วงหน้าเลยทีเดียว

เเละนอกจากจะเป็นทุ่งดอกไม้ที่ตกแต่งสวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีการจัดโต๊ะพร้อมพร็อพกลางสวนให้ถ่ายกันแบบปังๆ ดอกไม้ของที่นี่มี 2 ชนิด คือ ดอกคัตเตอร์และดอกมากาเร็ต ซึ่งจะปลูกตลอดทั้งปีโดยการสลับสับเปลี่ยนตามระยะเวลาของดอกไม้ และสำหรับใครอยากซื้อดอกไม้สำหรับถ่ายรูปเพิ่มเติมหรือว่าจะซื้อกลับไปเป็นของฝาก ที่นี่ก็มีดอกไม้ขายแยกราคาเพียงช่อละ 20 บาทเท่านั้นเอง ส่วนค่าเข้าชม 70 บาท/คน ถือว่าราคาคุ้มค่ากับวิวหลักล้านแบบนี้มากเลยทีเดียว พลาดไม่ได้

บ้านนาฟลาวเวอร์
บ้านนาฟลาวเวอร์

2.บ้านนาฟลาวเวอร์ (Bannaflowers) ที่นี่เป็นทุ่งดอกคัตเตอร์สีขาว ถ้ามาเห็นกับตาต้องร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า OMG !! เพราะสวยงามตระการตามาก เรียกได้ว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งทุ่งดอกไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และที่สำคัญคุณไม่ต้องเตรียมพร๊อพหรือแบกรุงรังมาจากบ้านเลยเพราะสถานที่แห่งนี้มีการจัดที่นั่ง

เตรียมพร๊อพต่างๆ ให้เลือกใช้อย่างเต็มที่เรียบร้อยแล้ว รับประกันว่าดอกคัตเตอร์สีขาวที่ล้อมรอบพร้อมวิวที่สวยงามจะเป็นความทรงจำที่ดีมากๆสำหรับทุกคนที่มาท่องเที่ยว และใครที่เป็นสายแชะภาพต้องไม่พลาดกับดอกไม้โทนคลีนๆขาวๆแบบนี้ รับรองสบายตา สวยงาม ปังสุดๆ และค่าเข้าเพียงคนละ50บาท/คน เท่านั้นเอง!

ไร่ดอกลมหนาว
ไร่ดอกลมหนาว

3.ไร่ดอกลมหนาว ไร่ลมหนาวเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินสถานที่ยอดฮิตที่อยู่บนดอยม่อนแจ่ม หรือหมู่บ้านม่อนแจ่มนั่นเอง สำหรับใครที่ได้มาเยือนเชียงใหม่จะต้องแวะขึ้นมาชมวิวด้านบนนี้เพราะการเดินทางมีเส้นทางที่สะดวกและระยะทางที่ไม่ไกลจากตัวเมือง

แถมมีบรรยากาศธรรมชาติความสวยงามหลักล้านขนาดนี้จึงทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมากันโดยเฉพาะจะฮิตมากในช่วงฤดูหนาว ที่สำคัญไร่ดอกลมหนาวนั้นมีทุ่งดอกไม้ให้เข้าชมเกือบทั้งปีเลย ซึ่งมีทั้งดอกเวอร์บีน่า ดอกสแตติสและดอกทานตะวัน เรียกได้ว่าไม่ต้องไปถึงต่างประเทศก็ฟินได้

สุรชัยฟาร์ม
สุรชัยฟาร์ม

4.สุรชัยฟาร์ม ทุ่งดอกมากาเร็ต ทุ่งดอกไม้แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ทำเลดีมากเพราะตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาวิวธรรมชาติสวยงามตระการตา เหมาะแก่การมาเดินเล่นตอนเช้ารับอากาศที่บริสุทธิ์และหนาวเย็น หรือจะมาถ่ายรูปตอนเย็นก็จะภาพที่สวยไปอีกแบบกับแสงยามเย็นอบอุ่นถือเป็นเวลาที่แสงสวยที่สุดสำหรับการถ่ายภาพเลยทีเดียว

ซึ่งการปลูกดอกไม้ของที่นี่จะหมุนเวียนปลูก 4 สวนในเวลา 1 เดือน เพื่อนักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกไม้ที่สวยงามอยู่เสมอ และที่พลาดไม่ได้ที่นี่เอาใจสำหรับสาวๆที่ชอบถ่ายภาพมากเพราะมีพร็อพให้ใช้ประกอบการถ่ายภาพเยอะมาก สามารถเลือกใช้กันได้เลย ส่วนค่าเข้าชมนั้นเพียงเเค่ 50บาท/คน เท่านั้นเอง บอกเลยว่าไม่มีอะไรคุ้มกว่านี้อีกแล้ว

ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย
ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย

5.ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงขุนแปะ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะตั้งอยู่ในตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ตามพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อช่วยเหลือชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและม้งทำให้ชาวเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

และทุ่งดอกไฮเดรนเยียถือเป็นหนึ่งในแปลงปลูกพืชทดลองของโครงการหลวงขุนแปะ(เริ่มบานตั้งแต่เดือนตุลาคม บานเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์) ซึ่งมีความสวยงามหลากสีสันมาก ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศก็ชมทุ่งดอกไม้ วิวธรรมชาติที่อลังการแบบนี้ได้ ที่สำคัญที่นี่สามารถชมวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งและชาวกะเหรี่ยงได้อีกด้วย วิถีชีวิตนั้นค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์มากเลยทีเดียว ซึ่งควรค่ากับการมาสักครั้งในชีวิต

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 พิกัดทุ่งดอกไม้ ใครที่ชื่นชอบหรือโดนใจสถานที่ไหนก็สามารถตามไปเที่ยวเช็กอินแบบฟินๆกันได้เลย รับรองว่าราคาค่าเข้าหลักสิบหลักร้อยแต่วิว ธรรมชาติและบรรยากาศนั้นหลักล้านแน่นอน ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศก็สามารถชมบรรยากาศ feel like

ต่างแดนได้ แถมเดินทางสะดวก ยิ่งใครสายถ่ายภาพต้องไม่พลาดควรค่าแก่การไปท่องเที่ยวสักครั้งในชีวิต ยิ่งช่วงนี้ปลดล็อกดาวน์แล้วถือเป็นช่วงเวลาที่ดีในปลายปีที่จะไปพักผ่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมดูแลตัวเอง ใส่แมสก์ พกเจลแอลกอฮอล์เพื่อความปลอดภัยกันด้วยน้า

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

ปราสาทหินพนมรุ้ง

เที่ยวปราสาทหินพนมรุ้งเขาไกรลาสเมืองไทย

ปราสาทหินพนมรุ้ง ได้ชื่อว่าเป็นเขาไกรลาสของเมืองไทย ซึ่งพนมรุ้ง แปลมาจากภาษาเขมรอีกทีแปลว่า ภูเขาที่กว้างใหญ่  จะสวยงามและลึกลับขนาดไหนตามเข้าไปชมตัวปราสาทกันเลย แต่การไปเที่ยวครั้งนี้จะไม่เที่ยวเฉยจะเที่ยวไปรับสาระสนุกๆไปพร้อมๆกัน กับสาวน้อย POINT OE VIEW ซึ่งเป็นไกด์นำเที่ยวเขาพนมรุ้งครั้งนี้ รับรองสนุก

ปราสาทหินพนมรุ้งเขาไกรลาส
ปราสาทหินพนมรุ้งเขาไกรลาส

          เขาพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเทวลัยของพระศิวะ และเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นเทวลัยของพระศิวะ หรือพระอิศวร แปลว่าคือการสร้างเพื่อจำลองเขาไกรลาสมา และเขาไกรลาสเป็นเขาที่มีอยู่จริง เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดในลำดับที่ 19 ในบรรดายอดเขาในหิมาลัย และคำว่าไกรลาส เป็นคำวิเศษณ์ในภาษาสันสกฤตแปลว่า “ สีเงินยวง” เพราะภูเขาลูกนี้ปกคลุมไปด้วยหิมะ

ส่วนตามความเชื่อเขาไกรลาสก็เป็นที่ประทับของพระอิศร หรือพระศิวะ หนึ่งใน 3 เทพเจ้าสูงสุดของศาสนาฮินดู ซึ่งถ้าใครคุ้นเคยละครเรื่องรามเกียรติ์กันดีก็คงจะคุ้นเคยกับที่ตัวละครหลายๆตัวไปเข้าเฝ้าพระอิศวรในเขาไกรลาส

          วันนี้เราจะพาคุณปีนขึ้นไปดูว่าเขาลำลองเขาไกรลาสที่เขาพนมรุ้งนี้มีอะไรบ้างที่จะทำให้ภูเขาที่ห่างไกลอินเดียแห่งนี้ กลายเป็นเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ประทับแห่งเทพเจ้า

          เมื่อเขาไปในสถานที่ สิ่งที่จะเจอแห่งแรกคือทางเดินยาวๆ ซึ่งเขาเรียกว่า ทางดำเนิน ซึ่งเป็นทางเดินที่เจ้านายสมัยก่อนจะเดินขึ้นไปเพื่อบูชา ทำพิธีต่างๆบนเทวลัยนั้น ส่วนเสาด้านข้างจะเรียกว่า เสานางจรัล เป็นเสาที่วางประดับอยู่รอบๆตลอดเส้นทาง

ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นปราสาทเนื่องในอารยะธรรมขอม หรือ เขมรโบราณ ยุคเมืองพระนคร สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระศิวะ โดยแต่ละส่วนจะสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย พุทธศตวรรษที่15 และ 18  ตัวปราสาทเมื่อเดินผ่านทางดำเนินไปจนสุดสิ่งแรกที่จะพบก็คือ สะพานนาคราช ซึ่งมีรูปปั้นของพญานาค 5 เศียร ตั้งอยู่ เป็นศิลปะลักษณะแบบขอม แต่บางแห่งก็จะเรียกสะพานแห่งนี้ว่า สะพานสายรุ้ง เพระเชื่อว่าเป็นสะพานที่เชื่อมต่อเพื่อให้คนข้ามมาจากโลกมนุษย์ไปสู่ฝั่งดินแดนของเทพเจ้า และที่นี่ก็ไม่ใช่ภูเขาธรรมดา เพราะเป็นภูเขาไฟที่ดับมา 9 แสนปีมาแล้วตอนที่สร้างปราสาทบนภูเขาไฟแห่งนี้ก็มีการดัดแปลงให้ปล่องภูเขาไฟกลายเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อีกด้วย

ปราสาทหินพนมรุ้งเขาไกรลาส
ปราสาทหินพนมรุ้งเขาไกรลาส

          และเมื่อเดินทางผ่านสะพานสายรุ้งแล้วก็จะต้องพบกับบันไดที่ต้องเดินขึ้นไปอีก 5 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นก็จะมีแท่นอยู่ และมีการสันนิษฐานว่าจะมีสิงโตเป็นคู่เฝ้าอยู่ในทุกๆชั้น และเมื่อเดินข้นไปก็จะพบลานกว้าง ซึ่งจริงๆแล้วคือที่ตั้งอาการด้ายหน้าปราสาท เมื่อเดินผ่านไปก็จะเจอ บาราย ที่อยู่ด้านหน้าปราสาท ก็คือสระน้ำ ซึ่งถ้าเราไปปราสาทขอมทุกแห่งก็ต้องเจอ เพราะสมัยก่อนคนที่จะเข้าไปบนปราสาทเพื่อทำพิธีจะต้องชำระร่างกายก่อนขึ้นไป

          ที่ปราสาทหินพนมรุ่ง สิ่งท่จะเห็นโยรอบปราสาทก็จะเป้นสัญลักษณ์ของพระศิวะเต็มไปหมด เช่น ภาพปั้นที่เป็นพระศิวะมหาโยคีผู้ยิ่งใหญ่

ปราสาทหินพนมรุ้งเขาไกรลาส
ปราสาทหินพนมรุ้งเขาไกรลาส

          ความพอเศษของปราสาทหินพนมรุ้งคือ จะมี 2 ครั้งในรอบปีที่พระอาทิพย์จะขึ้นและตก โดยลอดผ่านช่องประตูทั้งหมด 15 ประตูทั้งหมดของเขาพนมรุ้งแห่งนี้แบบเห็นตรงๆกันทุกประตู เพราะที่นี่สร้างตามหลักดาราศาสตร์ โดยตอนที่มาพบปราสาทแห่งนี้ตอนแรกค่อนข้างเป็นซากปลักหักพัง จนกรมศิลป์มาซ่อมแซมและก่อขึ้นเป็นปราสาทขึ้นมาอีกครั้ง ถึงจะมาเจอมาเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ โดยตัวปราสาทหินพนมรุ้งสร้างด้วยหินทรายสีชมพูซึ่งปราสาทประธานของปราสาทหินพนมรุ้ง สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 17 โดยนเรนทราทิตย์ แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ ซึ่งก็ไม่เคยเป็นชื่อที่ปรากฏที่ไหนมาก่อนเลยนอกจากจารึกที่เขาพนมรุ้ง แต่เราก็จะเจอภาพประวัติต่างๆของนเรนทราทิตย์ อยู่ในจุดต่างๆของปราสาทเต็มไปหมด ทั้งตอน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตอนออกรบ จนกระทั่งตอนสุดท้ายที่ท่านตัดสินใจออกบวช

ปราสาทหินพนมรุ้งเขาไกรลาส
ปราสาทหินพนมรุ้งเขาไกรลาส

          และสิ่งสำคัญอีกจุดหนึ่งที่ต้องไปชมกับตาให้ได้ก็คือ ทัพหลังนารายณ์บรรทมศิลป์ ที่เคยเป็นกรณีข่าวดังไปทั่วโลก ส่วนด้านบนที่เป็นหน้าบรรณก็จะเป็นรูประศิวะที่กำลังร่ายรำในท่าต่างๆที่เป้ฯกำเนิดของนาฏศิลป์ทั้งโลก

          จากทัพหลังนารายบรรทมสินธุ แล้วเดินมารอบๆในตัวอาคารเดียวกันสัญลักษณ์ต่างๆก็เกี่ยวข้องกับพระอิศวรทั้งหมด และเมื่อมองเข้าไปข้างในก็จะเห็นรูปปั้นวัว ชื่อ พระโคนนทิ ซึ่งเป็นพาหนะของพระอิศวรที่กำลังมองตรงไปในส่วนกลางของปราสาทที่ตั้งรูปปั้นของพระศิวลึงค์ ซึ่งเป้นจุดศูนย์กลางของปราสาทแห่งนี้ที่เค้ามาบูชากันนั่นเอง

          ปราสาทหินพนมรุ้งยังมีอะไรที่สนใจมากมาย เพราะว่าแทบทุกรายละเอียดของปราสาทยังทีสัญลักษณ์อะไรที่ซ่อนอยู่มากมาย ทั้งเรื่องของเทพเจ้า เรื่องของพิธีกรรมแปลก เช่น พิธีเบิกเนตร พรหมจรรย์ ยังไม่นับตำนานชาวบ้านของไทยที่อธิบายไม่ตรงกับประวัติศาสตร์อีก

          เชื่อเถอะว่าถ้าอยากจะสัมผัสความมหัศจรรย์ ความสวยงาม และความอลังการให้มากกว่านี้ สถานที่เที่ยวแบบนี้คุณต้องมาสัมผัสเอง

ปราสาทหินพนมรุ้งเขาไกรลาส
ปราสาทหินพนมรุ้งเขาไกรลาส

          แต่ถ้ามาแล้วอย่าลืมถ่ายรูปตรงหน้าบรรณที่ลิซ่านำไปถ่ายเปฯฉากหลังใน MV ด้วยล่ะ จะได้ไม่ตกกระแสเหมือนคนอื่นเขา

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

นาข้าวขั้นบันไดที่เชียงใหม่

นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่

เมื่อพูดถึงจังหวัดเชียงใหม่หลายๆคนอาจนึกไปถึงแม่กำปอง ดอยอินทนนท์ ถนนนิมมาน คาเฟ่ หรือที่เที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่กันใช่ไหมล่ะ แต่ในวันนี้เรามีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่แสนโรแมนติกและบรรยากาศที่หาได้ยากมาแนะนำให้ทุกคนกัน นั่นก็คือ นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่ นั่นเองจะเรียกว่าเป็นที่ Unseen เลยก็ว่าได้เพราะไม่สามารถหาชมได้ง่ายๆและในแต่ละฤดู แต่ละช่วงเวลาความสวยงามของนาข้าวนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป

นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่
นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่

1.นาข้าวขั้นบันไดป่าบงเปียง 

ที่บ้านป่าปงเปียงที่นี่เรียกได้ว่ามีความเป็นภูเขาที่เรียงอยู่กันแบบสลับซับซ้อน มีความสวยงามตระการตาเป็นอย่างมากและที่นี่เป็นหนึ่งในที่ที่เป็นตัวเลือกแรกๆของนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวชมนาขั้นบันไดอีกด้วย ใครอยากมาสัมผัสวิวทุ่งนาสีเขียว กับหมอกสีขาว อากาศฟินๆ และนั่งดูวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็น รับรองว่าต้องชอบที่แห่งนี้มาก คอนเฟิร์ม

นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่
นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่

2.นาข้าวขั้นบันไดกองกาน

นาข้าวของที่นี่เรียกว่าจะกระจายตัวอยู่บริเวณใกล้เคียงกับวัดกองกาน ไฮไลท์คือนาข้าวขั้นบันไดที่มีความเรียงตัว ไล่ระดับกันลงมาอย่างสวยงามมา บรรยากาศรอบๆก็โอบล้อมไปด้วยภูเขา ยิ่งถ้าเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวรับรองว่าห้ามพลาด รับรองว่าถ้าคุณมาที่นี่จะมีภาพถ่ายลงโซเซียลไปทั้งปีเลยทีเดียว

นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่
นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่

3.นาข้าวขั้นบันไดแม่กลางหลวง

แม่กลางหลวงเป็นชุมชนเล็ก ๆของชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ ที่มีธรรมชาติที่สวยงามมากมีความรายล้อมไปด้วยเขาและทุ่งนาเขียวที่แสนเขียวขจี ไม่ว่าใครมาก็ต้องรู้สึกตะลึงกับวิวนาขั้นบันไดสุดตระการตาที่อยู่ตรงหน้า และที่นี่มีให้ชมแปลงเกษตร แปลงดอกไม้ ผลไม้เมืองหนาว ใครที่มาท่องเที่ยวที่นี่มักจะอุดหนุนงานหัตถกรรมฝีมือชาวปกาเกอะญอกลับไปด้วย ที่สำคัญยังมีการชมการทดลองคั่วและบดกาแฟ และมีให้ชิมกาแฟที่เป็นของกะเหรี่ยงขนานแท้เลยด้วย คุ้มค่ามากๆ

นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่
นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่

4.นาข้าวขั้นบันไดบ้านตีนผา

ไฮไลท์ที่นี่นอกจากจะมีวิวของนาขั้นบันไดที่สวยงามตระการตาสุดๆแล้วยังมีพืชอื่น ๆให้ชมอีกด้วย เช่น ข้าวโพด ที่ชาวบ้านปลูกตามเขาก็สวยไม่แพ้นาข้าวขั้นบันไดเลย และถ้าใครมาที่นี่เมื่อมองไปจะมองเห็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ของชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขาอีกด้วย มาที่นี่คือคุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่ใกล้ชิดขนานแท้

นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่
นาข้าวขั้นบันไดไฮไลท์เชียงใหม่

5.นาข้าวขั้นบันไดโครงการหลวงขุนแปะ

ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีเกษตร มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิด และไลท์ที่นี่นอกจากนาข้าวขั้นบันไดยังมีทุ่งดอกไฮเดรนเยียที่หลากสีสันทั้งสีฟ้า สีชมพู สีม่วง สีขาว (เริ่มบานเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน)เรียกได้ว่าดอกไฮเดรนเฮียนี้เป็นที่ฮอตฮิตของสาวๆมากที่มักจะมาแชะภาพลง IG กัน และยังมีแปลงพลับ อะโวกาโด สมุนไพร พืชไร่ต่างๆของโครงการอีกด้วย ถ้าถามว่าสวยแค่ไหนบอกได้คำเดียวว่าต้องไปเห็นด้วยตาตัวเอง

แนะนำช่วงเวลาการท่องเที่ยวนาข้าวขั้นบันได

-กรกฎาคม-สิงหาคม : ฤดูนาดำ ช่วงที่เริ่มปักข้าว เริ่มปลูกข้าวโดยการที่ชาวบ้านปักข้าวลงท้องนา

-สิงหาคม-ตุลาคม : ฤดูนาเขียว ช่วงต้นข้าวเติบโต มีความเขียวขจีของข้าวและมีหมอกหนา คนนิยมมาเที่ยว

-ตุลาคม-พฤศจิกายน : ฤดูนาทอง ช่วงที่ต้นข้าวออกรวงสีทองเหลืองอร่ามเต็มทุ่ง พร้อมที่จะได้เก็บเกี่ยว

-มกราคม-กุมภาพันธ์ : ช่วงนี้ไม่มีนาข้าวให้ชมแต่บรรยากาศเป็นช่วงหน้าหนาว สามารถมาผ่อนคลายได้

ใกล้จะถึงช่วงหน้าหนาวแล้ว และช่วงนี้ก็ปลดล็อกดาวน์กันแล้วด้วย สำหรับใครที่โหยหาการท่องเที่ยวแบบ Social distancing รับรองว่านาข้าวขั้นบันไดในจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นที่เที่ยวธรรมชาติที่จะเพิ่มพลังและสามารถชาร์จพลังให้กับทุกๆคนได้ในช่วงสถานการ์แบบนี้ และที่สำคัญอย่าลืมดูแลตัวเอง ใส่แมสก์ ล้างเจลแอลกอฮอล์อยู่เสมอเพื่อความปลอดภัย

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว