10จุดเช็คอินหัวหิน กิน เที่ยวแบบครบรส 

ตอนที่ 2

หัวหินได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ไม่เคยหลับใหล และอยู่ไกลจากกรุงเทพไม่มาก ขับรถไม่นานก็ได้ชุ่มชื้นหัวใจกับแบบเต็มๆปอด  ในบทความตอนที่ 1 เราได้พาคุณไปท่องเที่ยวใน 5 สถานที่ไปแล้ว บทความตอนที่ 2 ครั้งนี้ เราจึงพาคุณมาเที่ยวอีก 5 สถานที่ เพื่อให้ครบตามสัญญาไปเที่ยวกันต่อเลยแล้วกัน

6.ร้านเจ๊กเปี๊ยะ เป็นที่กินที่มาหัวหินแล้วต้องห้ามพลาด ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกถนนแนบเคหาสน์ เป็นร้านเก่าแก่ของหัวหินกว่า 70 ปี ภายใต้บรรยากาศที่เรียบง่าย โดยยามเช้า ทางร้านจะมีบริการอาหารตามสั่ง โจ๊ก ต้มเลือดหมู และเครื่องดื่ม ชา กาแฟ โบราณ ส่วนมือเย็นทางร้านจะมีเมนูให้เลือก  ทั้งอาหารตามสั่ง หมูจุ่ม เพราะเชื่อมั่นในความอร่อย นักท่องเที่ยวจึงมักจะแวะมาฝากท้องกันเป็นประจำ

7.kundala  beach  resort เป็นสถานทีที่คุณสามารถนั่ง picnic ริมชายหาดชิวๆ เป็นที่พักสไตล์Boutique สุดหรูระดับ 5 ดาว ติดทะเลและมีความเส่วนตัว ตั้งอยู่ในย่านหมู่บ้านชาวประมงเขาตะเกียบ มีบริเวณชายหาดที่เงียบสงบ ที่ถึงแม้จะไม่ได้เช็คอินน์เข้าพัก ก็สามารถแวะไปนั่งชิวในส่วนของคาเฟ่ หรือ ร้านอาหารก็ได้  และทางที่พักยังมีชุดsetน้ำขายามบ่ายไว้บริการ พร้อมอุปกรณ์จัดเลี้ยงชุดสวยแบบจัดเต็มทั้งอาหารตา อาหารใจ และอาหารกายครบ นอกจากนี้ยังมีเมนูหลากหลายของอาหารไทยและอาหารต่างประเทศ และเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลายให้เลือกรับประทานได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย

8.MEMERY HOUSE CAFÉ HUN HIN เป็นอีกสถานที่ที่ได้รับความนิยมสุดๆอีกแห่งของหัวหิน เพราะเป็นคาเฟ่ สไตล์โรงนา ที่โอบล้อมไปด้วยทุ่งหญ้า สายน้ำ และภูเขา  มุมถ่ายภาพเยอะจนแทบเก็บภาพไม่หมด และที่น่ารักคือ ที่นี้จะมีมุมให้ลูกค้านั่งเขียนโปสการ์ดถึงความรู้สึก โดยมีช่องจดหมายที่ระบุวันเดือนครบทั้ง 365 วัน และเราสามารถเลือกได้ว่าจะส่งไปให้ใครวันไหน เดือนอะไร แค่เอาไปหย่อนไว้ในตู้ ทางร้านก็จะเอาไปส่งให้ตามวันที่เรากำหนด แถมที่นี่ยังเสิร์ฟขนมและเครื่องดื่มเก๋ๆที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย

9.SEENSPACE HUAHIN  communityสไตล์ทันสมัยสุดเก๋ริมทะเล ที่ดีไซน์อย่างทันสมัย เพื่อเอาใจวัยรุ่น เป็นศูนย์ร่วมความชิว เพราะมีทั้ง   Galleryร้านค้า คาเฟ่ ร้านอาหาร และที่พักในตัว ตอบโจทย์ทุกlifestyleของนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย

10.OASIS BEACE FORNT BAR  แต่ที่ฮิตกันสุดๆของหัวหินก็คงจะเป็นที่นี่ เพราะเป็นบาร์ริมสระว่ายน้ำที่ติดทะเล ที่มีอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้เลือกดื่มตามใจชอบ

11.ตลาดโตรุ่งหัวหิน ไม่พูดถึงคงไม่ได้ แลนด์มาร์คสำคัญที่เป็น street food  ยามค่ำคืน ที่ใหญ่ที่สุดในหัวหิน ที่มีอาหารครบทุกประเภท ไปจนถึงแหล่งซื้อของฝากของที่ระลึก ซึ่งเปิดกันให้เดินเล่นตั้งแต่หัวค่ำจนไปถึงตี 1 และทุกร้านราคาไม่แพงด้วย

          เป็นอย่างไรกันบ้างกับพิกัด ดีๆเก๋ๆของหัวหิน ที่เราหยิบมาฝากกันถึง 10 ที่ และปิดท้ายด้วยตลาดโต้รุ่งหัวหินเป็นที่ 11 อิ่มอกอิ่มใจกันบ้างไหม? บอกตรงๆนี่ขนาดยังไม่ได้ไปเที่ยวจริง ยังรู้สึกสนุกสนานประทับใจจนอยากหายตัวไปยังทั้ง 10 สถานที่เลยเชียง ดังนั้น 1 ตุลาคม เปิดเมืองท่องเที่ยวเมื่อไหร่ จะไปในทันใด ไม่รีรอเลยเชียว ไปด้วยกันนะ

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

10 จุดเช็คอินหัวหิน กิน เที่ยวแบบครบรส  

ตอนที่ 1

หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็น 1 ใน 5 สถานที่ที่รัฐบาลจะประกาศเปิดให้ไปท่องเที่ยวได้ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 สายทะเล สายกลางแจ้งที่อัดอั้นตันใจไม่ได้ออกไปสูดอากาศแถวทะเลมานาน โดยเฉพาะทะเลที่หัวหิน ได้เฮสนั่น แต่เมื่อได้มีอิสระได้ไปเที่ยวกันทั้งที ไปหัวหินก็ควรจะเที่ยวให้ครบในจุดสำคัญๆ ที่ไม่ควรพลาด  วันนี้เราจึงจะพาคุณไป10จุดเช็คอิน กินเที่ยวหัวหินแบบครบรส เที่ยวกินกันให้อิ่มจุใจ สมกับที่คิดถึงมานาน  พร้อมไปเที่ยวกันแล้วก็ออกเดินทางได้เลย

          1.สถานีรถไฟหัวหิน แลนด์มาร์คสำคัญที่ควรค่ากับการไปถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เพราะถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ และเป็นสถานีรถไฟที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งในบ้านเมืองเรา ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่ตัวอาคารสร้างด้วยไม้ทำให้ดุขลังและสวยงาม อีกทั้งในบริเวณ สถานีรถไฟยังมีการนำโบกี้เก่าอายุกว่า 50 ปี มาปรับปรุงจัดทำเป็นห้องสมุดรถไฟ ให้ประชาชนมาใช้บริการอีกด้วย

          2.EUREKA  BEACH CAFÉ ใครที่มาเที่ยวหัวหิน สามารถแวะเปลี่ยนบรรยากาศแบบชิวๆ และทานอาหารอร่อยๆริมชาดหาดได้ ที่EUREKA  BEACH CAFÉ  ( ยูเรก้า บีช คาเฟ ) คาเฟชื่อดัง กับเมนู ซิกเนเจอร์ไข่เค็ม ที่เปิดครั้งแรกในกรุงเทพ และขยับขยายเพิ่มที่หัวหิน ตั้งอยู่ที่หัวหินซอย 105 ท่ามกลางบรรยากาศดีๆ มีที่นั่งทั้ง IN DOOR/ OUT DOOR ไว้บริการนักท่องเที่ยว และที่สำคัญยังมีบริการห้องพักในรูปแบบรถบ้านด้วย

         3.VANA NAVA HUA HIN  มาเล่นน้ากันให้ชุ่มฉ่ำใจกันกับ.VANA NAVA HUA HIN   สวนน้ำในหัวหินที่มากับรูปแบบ WATER JUNGLE แห่งแรกในเอเชีย ที่เป็นเสมือนโอเอซียแห่งความสนุกสำหรับนักท่องเที่ยวในทุกรูปแบบที่ชอบความเร้าใจ ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเมืองร้อน โดยมีเครื่องเล่นระดับโลก 19 ชนิด จับเต็มความเสียวให้ไปลองท้าทาย มีสไลเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งสระน้ำคลื่นเทียมขนาดใหญ่ ที่โอบล้อมด้วยทรายจริงบนที่พื้นที่กว่า         1,600 ตารางเมตร มีคลื่นน้ำให้เล่นหลายระดับ บรรยากาศเหมือนอยู่ทะเลจริงๆ

          4.ชายหาดหัวหิน ขึ้นชื่อว่าไปหัวหิน แล้วไม่ไปชายหาดเราขอแนะนำทางลงชายหาดหลัก บริเวณหัวหินซอย 61 ตรงไฟแดงแยกเทศบาลที่ทางหน่วยงานราชการได้ทำป้ายซุ้มประตูทางลงชายหาดหัวหินเอาไว้ให้  ทาตรงนี้ก็สามารถลงไปเดินเล่นริมชายหาดได้ชิวๆแล้ว

5. 1D+ DAY ARTIST  อีกหนึ่งจุดของหัวหินที่น่าปักหมุดว่าต้องไป ร้านคาเฟ บรรยากาศสุดชิว ที่แม้ร้านจะตั้งอยู่ใน อ.ปราณบุรี แต่ไม่ไกลจากหัวหิน ใช้เวลาเดินทางไปเกิน 15 นาที ไฮไลท์ของร้านนี้คืออยู่ติดทะเลย บรรยากาศเออา ฮิปสเตอร์แบบสุดๆ ร้านมีทั้ง indoor /outdoor ยิ่งในยามเย็น บรรยากาศสวยงามโรแมนติกมากๆ ใครที่กลัวร้อนให้มาเวลาก่อนเที่ยง และช่วง 4-5 โมงเย็น และนั่งยาวจิบเครื่องดื่มเย็นๆจนไปถึงค่ำคืนกันได้เลย

          น่าเสียกายเพิ่งพาเที่ยวได้แค่ 5 สถานที่ อย่าติดตามไปเที่ยวกันอีก 5 สถานที่ให้ครบ 10 สถานที่ที่น่าท่องเที่ยวของหัวหินกันต่อในตอนที่ 2 นะ จะได้ไม่พลาดอะไรดีๆของหัวหินกัน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

ที่พักกาญจนบุรี 2021

กาญจนบุรีเรียกได้ว่าเป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศไทยที่มีความหลากหลายและครบครันเลยทีเดียวยิ่งใครที่เป็นสายธรรมชาติหรือสายกิจกรรมต้องไม่พลาด ที่สำคัญยังใกล้กรุงเทพ เดินทางสะดวกเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก และในวันนี้เราจะมาแนะนำ 5 ที่พักกาญจนบุรีสุดชิล แบบ feel good มาฝากกัน รับรองว่าบรรยากาศ และวิวทิวทัศน์ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน

1.ธาราวิลล่า รีสอร์ท เป็นวิลล่าแบบส่วนตัว ที่พักออกแบบในสไตล์โมเดิร์น มีความทันสมัยงดงามมากตั้งอยู่ในอำเภอเมือง ริมแม่น้ำแคว บรรยากาศที่นี่มีความเงียบสงบ มีห้องพักอยู่ 2 แบบ คือ One Bedroom Pool Villa และ Two Bedrooms Pool Villa ซึ่งทุกห้องจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว และยังเห็นวิวแม่น้ำแควที่สวยสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันแถมยังมีบริการรูมเซอร์วิส และที่สำคัญใครที่อยากมาพักผ่อนแบบไม่ออกไปเที่ยวไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเบื่อเพราะในรีสอร์ทมีร้านอาหาร ชื่อ Din Cafe & Restaurant ซึ่งมีมุมถ่ายรูปมากมายรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามประกอบไปด้วยโซน indoor และ outdoor ที่เห็นวิวแม่น้ำ ที่สำคัญอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมาย เรียกได้ว่าสามารถขับรถไปได้ไม่ไกลเลยทีเดียว

2.บินหลา ราฟท์ รีสอร์ต เป็นรีสอร์ทที่อยู่ริมแม่น้ำแควน้อยเช่นเดียวกัน การออกแบบมีความเรียบง่ายไปและเรียบหรู การตกแต่งแบบโค้งมนสื่อถึงภูเขาและคลื่นในแม่น้ำเรียกได้ว่ามาแล้วได้ภาพถ่ายกลับไปลงโซเชี่ยลอย่างแน่นอน และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยของที่นี่คือ การล่องแพ พายเรือคายัค ซับบอร์ด ขี่ช้าง และปั่นจักรยาน มาที่เดียวแต่คุ้มสุดๆ ส่วนที่พักจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนแพ และโซนบก มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอย่างครบครัน เป็นอีกที่พักหนึ่งที่ควรไปเยือน

3.ทรีธารา รีสอร์ต เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่อยู่ริมแม่น้ำแควน้อย บรรยากาศดี มีความร่มรื่น สวยงามและเงียบสงบ ที่พักมาในรูปแบบวิลล่าพร้อมอาหารเช้า ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม กว้างขวาง มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งวิวแม่น้ำ ห้องอาหาร นวดแผนไทย คาราโอเกะ หรือใครที่จะมาจัดเลี้ยงก็มีห้องจัดเลี้ยงให้ ที่พักทั้งรีสอร์ตมีวิลล่า ทั้งหมด 5 หลัง และ บ้านแบบหลังอีก 24 หลัง และยังมีกิจกรรมปั่นจักรยาน ที่สำคัญสามารถมองเห็นช้างออกมาเล่นน้ำฝั่งตรงข้ามอีกด้วย หรือใครที่ชอบช้างเป็นพิเศษก็สามารถข้ามสะพานเดินไปเที่ยวปางช้างได้อีกด้วย

4.บูติค ราฟท์ รีสอร์ท ริเวอร์แคว ท่ามกลางธรรมชาติ ภูเขาริมแม่น้ำแคว ที่พักเป็นแบบสไตล์บูติคเพื่อความกลมกลืนกับธรรมชาติ ถือว่ามีเอกลักษณ์มาก บริการห้องพักพร้อมอาหารเช้า และยังมีห้องพักแบบแพด้วย ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีห้องอาหาร บาร์ รูมเซอร์วิส จักรยานให้เช่า ที่สำคัญคุณยังสามารถลงเล่นน้ำที่สระหน้าที่พักได้ แต่ไม่แนะนำให้เล่นในแม่น้ำเพราะที่นี่น้ำมีความเชี่ยวมากอาจเกิดอันตรายได้ และใครที่อยากไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆก็สามารถขับรถไปน้ำตกไทรโยคน้อยได้ซึ่งอยู่ใกล้ๆที่พักเลย หรือถ้าใครอยากเที่ยวแบบเต็มอิ่มทางที่พักก็ยังมีบริการนำเที่ยวในที่ต่างๆบริเวณใกล้เคียง เช่น สุสานทหารสัมพันธมิตร ทางรถไฟสายมรณะและสะพานข้ามแม่น้ำแคว น้ำพุร้อน อีกด้วย

 5. เดอะ ริเวอร์ ไลฟ์ รีสอร์ต เป็นรีสอร์ทที่อยู่ริมแม่น้ำแควอีกหนึ่งที่ รับรองตอบโจทย์คนรักธรรมชาติเพราะมีทั้งภูเขาและสายน้ำ อากาศดี บรรยากาศเงียบสงบที่พักมีห้องพัก 3 แบบมาพร้อมกับอาหารเช้า มี เรือนแพ   ห้องลอฟต์วิวแม่น้ำและห้องมินิมอล ภายในห้องพักตกแต่งสวยงามมาก เรียกได้ว่าไม่ต้องห่วงเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครัน มีห้องอาหาร บาร์  คาราโอเกะ บริการรูมเซอร์วิส อุปกรณ์ทำบาร์บีคิว และยังสามารถลงเล่นน้ำและล่องแพ ตกปลา ทำกิจกรรมทางน้ำอื่นๆได้ มาที่เดียวสนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 ที่พักกาญจนบุรีสุดชิลแบบฟิลกู้ด รับรองว่าตอบโจทย์ทั้งคู่รัก ครอบครัว หรือแก๊งค์เพื่อน ชอบที่พักสไตล์ไหน แบบใด สามารถจดลิสต์แล้วไปพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดกันได้เลย แล้ววันหยุดที่แสนธรรมดาของคุณจะกลายเป็นวันที่มีแต่ความทรงจำดีๆอย่างแน่นอน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว