Categories
focus on travel

เที่ยวชมพระราชวังหลวง (City Palace) ที่อินเดีย

พาไปเที่ยวชมพระราชวังหลวง (City Palace) ที่อินเดียกัน

อินเดีย เป็นประเทศหนึ่งที่รับรองได้ว่า ต้องติดอยู่ในลิสต์รายการท่องเที่ยวสำหรับใครที่ชอบการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศเป็นแน่ เหตุน่าจะเป็นจากเอกลักษณ์ของชีวิตความเป็นอยู่ สถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตา และยังเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาอีกด้วย

แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ดูจะค่อนข้างเป็นไปได้ยากยิ่ง ที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่อินเดียได้ คงไม่ต้องบอกกันอีก ว่าคืออะไร พวกเราทุกคนทั่วโลกรู้กันดีอยู่แล้ว ในบทนี้จึงขอนำ พาไปเที่ยวชมพระราชวังหลวง (City Palace) ที่อินเดียกัน มาฝากทุกคนกัน  เผื่อจะได้ช่วยคลายความเครียด เหมือนกับพากันไปท่องเที่ยวสัมผัสที่อินเดียกันจริงๆ ใครที่อยากจะไปเที่ยวอินเดียด้วยกันแล้ว เราเดินทางไปพร้อมๆกันเลย

อินเดีย
อินเดีย

พระราชวังหลวง ตั้งอยู่ทางเหนือของใจกลางเมืองชัยปุระ (Jaipur) ประเทศอินเดีย มีขนาดกว้างขวางครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 ใน 7 ของใจกลางเมืองชัยปุระกันเลยทีเดียว พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยมหาราชาสะหวายจัย สิงห์ที่ 2 (Maharaja Sawai Jai Singh II) เพื่อเป็นที่พักผ่อน และอยู่อาศัยของเหล่าสมาชิกราชวงศ์ชัยปุระซึ่งปัจจุบันก็ยังคงอาศัยอยู่

อินเดีย
อินเดีย

รูปแบบสถาปัตยกรรมแห่งนี้เป็นแบบราชปุตผสมกับโมกุล เพราะสมัยก่อสร้างแรกๆ ขณะนั้นราชวงศ์โมกุลได้เข้ามามีอิทธิพลในรัฐราชสถานแล้วนั่นเอง ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องความงามของจิตรกรรมฝาผนัง การแกะสลัก งานตกแต่งด้วยแก้ว หรือแม้แต่กระเบื้องสวยๆ ประตูหลักของที่นี่มีอยู่สามจุดด้วยกันได้แก่ ประตูวิเลนดร้า พอล (Virendra Pol) ประตูอุได พอล (Udai Pol) ที่คนทั่วไปสามารถเข้าออกได้ แต่สำหรับประตูตริโปเลีย (Tripolia Gate) จะมีไว้สำหรับสมาชิกราชวงศ์เท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีกิมมิคเป็นประตูเล็กๆ อีกสี่ประตูที่แสดงออกถึงฤดูกาลทั้งสี่นั่นเอง ได้แก่นกยูงหรือ มอร์เกท (Mor Gate) หมายถึงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งมีลวดลายของนกยูงสวยงามที่ซุ้มประตู ประตูดอกบัว (Lotus Gate) ที่เป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อน ประตูเลเรีย (Leheriya gate) เป็นฤดูใบไม้ผลิ และประตูกุหลาบ (Rose Gate) หมายถึง  ฤดูหนาว ทั้งสี่ประตูถูกตกแต่งอย่างสวยสดงดงามอลังการ

อินเดีย
อินเดีย

ภายในพระราชวังหลวงมีพระตำหนัก สวน พื้นที่พักอาศัยของราชวงศ์ และส่วนที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์สะหวายมาน สิงห์ (Sawai Man Singh Museum) จัดแสดงสมบัติราชวงศ์มากมายอย่างภาพวาด ของใช้ หรือเสื้อผ้า นอกจากนี้ไม่ใกล้ไม่ไกลก็มีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2010

โดยองค์การยูเนสโก อย่างหอดูดาวจันตาร์มันตาร์ (Jantar Mantar) ที่ถูกสร้างในยุคมหาราชาสะหวายจัย สิงห์ที่ 2 เช่นกัน เพื่อเอาไว้คำนวณฤกษ์ และเวลาสำหรับการออกรบ ที่นี่เปิดทุกวันเวลา 09.30 – 17.00 น. ค่าเข้าชมพระราชวัง 500 รูปี และค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 900 รูปี

อินเดีย
อินเดีย

นี่ก็คือ พาไปเที่ยวชมพระราชวังหลวง (City Palace) ที่อินเดียกัน ที่นำมาฝากกัน ลองจินตนาการกันดูว่าเราเดินเที่ยวชม พระราชวังหลวง City Palace ที่อินเดียกันอยู่ก็แล้วกัน แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่สถานการณ์ต่างๆทั่วโลกของเราดีขึ้น เราคงได้มีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวที่นี่กันจริงๆ แล้วในบทหน้าเรามาพบกันใหม่กับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจจากทั่วทุกมุมโลกที่จะไปสรรหามาฝากทุกคนกันอีกได้ในทุกสัปดาห์ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้าง เราต้องมาติดตามกันต่อ

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

เที่ยวเวนิส เมืองแห่งสายน้ำ มนต์เสน่ห์

เที่ยวเวนิส เมืองแห่งสายน้ำ มนต์เสน่ห์ แห่งอิตาลี

เวนิส หรือ เวเนเซีย จุดหมายปลางทางสุดโรแมนติก แห่งแคว้นเวเนโต ประเทศ อิตาลี ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวน 118 เกาะ เข้าด้วยกันในบริเวณ ทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริกในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ด้วยความสวยงามและความน่าอยู่ของบ้านเมืองทำให้ เวนิส เป็นสถานที่ซึ่งได้รับฉายามากมาย

ตั้งแต่ เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน เมืองแห่งแสงสว่าง ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก และที่สำคัญ ยูเนสโก ยกย่องให้ เวนิส เป็นหนึ่งในเมือง มรดกโลกด้วย ในบทนี้จึงขอนำ ไปเที่ยวเวนิส เมืองแห่งสายน้ำ มนต์เสน่ห์ แห่งอิตาลี มาฝากทุกคนกัน ตอนนี้เราเดินทางไปเที่ยวที่ไหนกันยังไม่ได้ โดยเฉพาะต่างประเทศ บทนี้เราจะพาไปเที่ยวที่เวนิสกัน ด้วยจินตนาการ แต่ก็ยังช่วยให้เราสบายใจขึ้นได้ ในตอนนี้ ใครพร้อมแล้ว เราไปเวนิส อิตาลี ด้วยกันเลย

อิตาลี
อิตาลี

ลำคลอง เรือกอนโดลา มหาวิหารซานมาร์โค (St.Mark’s Basilica) ถือเป็นสัญลักษณ์แห่ง เวนิส เมืองที่มีการใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด ที่อยู่อาศัยก็ปลูกสร้างลัดเลาะตามสายน้ำ เดินทางโดยเรือบริการไปยังที่ต่างๆ ชมทิวทัศน์ธรรมชาติ 2 ฝั่งคลอง นับเป็นเมืองหนึ่งที่มีคลองมากกว่าถนน

ในแวดวงทางวรรณกรรม เวนิส เป็นที่รู้จักจาก เรื่อง พ่อค้าแห่งเวนิส บทประพันธ์ของ วิลเลียม เชคสเปียร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงนำมาประพันธ์เป็นบทละครชื่อ เวนิสวานิช แต่บทประพันธ์ที่มีชื่อเสียงก้องโลกที่สุด คือ Romeo and Juliet เชื่อกันว่า เวนิส เป็นถิ่นกำเนิดของทั้งคู่ ทั้งเส้นทางแห่งสายน้ำ สถาปัตยกรรมอันคลาสสิก ประกอบกับตำนานรักอมตะ เวนิสจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โรแมนติกที่สุดในโลก

อิตาลี
อิตาลี

คลองหลักแห่งเวนิสแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่สำคัญของเวนิสมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยที่นี่เป็นเส้นทางสำคัญในการคมนาคมและการค้าของเมืองเวนิสมาช้านานแล้ว  และในปัจจุบันนั้นก็ยังเป็นเส้นทางคมนาคมหลักของเมืองที่เพียบพร้อมไปด้วยระบบขนส่งมวลชนทางน้ำไว้บริการทั้งเรือโดยสารวาโปเรตตี หรือเรือโดยสาร water taxi และที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบมากและได้รับความนิยมมากที่สุดคือบริการเรือท้องถิ่นสำหรับล่องชมเมืองอย่างเรือกอนโดล่านั่นเอง สำหรับสถาปัตยกรรมของอาคารริมสองฝั่งคลองที่พบเห็นตลอดเส้นทางการเดินเรือนั้นเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามที่เป็นมรดกที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในยุคสาธารณรัฐเวนิสเรืองอำนาจเลยทีเดียว

อิตาลี
อิตาลี

การเดินชมบริเวณคลองหลักนั้นไม่มีค่าบริการ แต่หากคุณสนใจที่จะล่องเรือกอนโดร่า(Gondola) หรือใช้บริการล่องเรือหรือขนส่งมวลชนทางน้ำสามารถติดต่อได้ที่ทัวร์โดยตรง โดยค่าบริการนั้นมีทั้งแบบเหมาลำ หรือแชร์ ส่วนการขนส่งทางน้ำก็มีทั้งการจ่ายเป็นเที่ยวหรือทั้งวันซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ออฟฟิศ หรือในเว็บของทัวร์หรือบริษัทขนส่งมวลชน

อิตาลี
อิตาลี

นี่ก็คือ ไปเที่ยวเวนิส เมืองแห่งสายน้ำ มนต์เสน่ห์ แห่งอิตาลี ที่นำมาฝากกัน ใครที่อยากจะไปเที่ยวที่อิตาลี ก็คงต้องรอให้สถานการณ์ต่างๆทั่วโลกของเราดีขึ้นมากกว่านี้ก่อน แล้วเราก็คงได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ใจเราอยากจะไปกันได้มากขึ้น แล้วบทหน้าเรามาพบกันใหม่กับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจจากทั่วทุกมุมโลก ที่จะไปสรรหามาฝากกันอีกได้ในทุกสัปดาห์ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้าง ต้องมาติดตามกันต่อ

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

5 สถานที่เที่ยวเมื่อไปญี่ปุ่น

5 สถานที่เที่ยวเมื่อไปญี่ปุ่นต้องห้ามพลาด

ที่เที่ยว ในประเทศญี่ปุ่น มีอยู่หลายสถานที่มากมาย นับกันไม่หวาดไม่ไหวอย่างแน่นอน แล้วคนไทยเราก็ไปเช็คอินที่ญี่ปุ่นกันบ่อยมากๆ นอกจาก เกียวโต โอซาก้า นารา หรือ เทศกาลต่างๆ เช่น ซากุระบาน ใบไม้เปลี่ยนสี แล้ว ญี่ปุ่นยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอีกมาก บทนี้จึงขอนำ 5 สถานที่เที่ยวเมื่อไปญี่ปุ่นต้องห้ามพลาด มาฝากทุกคนกัน ใครที่อยากจะไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นกันแล้ว เราเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยกันเลย

ยามากาตะ
ยามากาตะ
  1. Zao Ski Resort ยามากาตะ

   Zao Onsen เป็นรีสอร์ทที่รู้จักกันทั่วไปในรีสอร์ทที่คนญี่ปุ่นจะไปเล่นสกี และที่นี่ไม่ได้มีดีเฉพาะช่วงหน้าหนาว หิมะตก ยังมีช่วงที่สวยงามด้วยภูเขา และต้นไม้อีกด้วย

ที่อยู่ Yamagata, Japan

วากายามะ
วากายามะ
  • Nachi Falls วากายามะ

  Nachi Fall น้ำตกที่สูงที่สุด และใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่สูงถึง 133 เมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จัดได้ว่าสวยมากๆ ในญี่ปุ่น และบริเวณน้ำตกยังมีศาลเจ้า Kumano Nachi Taishai แดนศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า หนึ่งในมรดกโลก อยู่ใกล้ๆ ยิ่งทำให้เรารู้สึกอยากจะไปเที่ยวสักครั้ง

ที่อยู่ Nachikatsuura, Wakayama, Japan

ยามางุจิ
ยามางุจิ
  • Motonosumi-inari Shrine ยามางุจิ

  เสาโทริอิสีแดงตั้งตระง่านจากภูเขาไปจนถึงทะเล ที่นี่คือ Motonosumi-inari Shrine ศาลเจ้าที่ช่วยให้ผู้คนที่มาอธิษฐานประสบความสำเร็จ เชื่อไหมล่ะว่า หลังจากที่เราหย่อนเงินบริจาคลงในกล่องรับบริจาคตรงเสาโทริอิต้นสุดท้าย ความหวังทั้งหลายของเราจะประสบความสำเร็จที่อยู่ 498 Yuyatsuo, Nagato, Yamaguchi, Japan

นางาโน่
นางาโน่
  • Happo Pond นางาโน่

  Happo Pond ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติของนากาโน่ รู้จักกันในชื่อของสถานที่เหมาะกับการเล่นสกีในฤดูหนาว แอ่งน้ำนี้อยู่ในภูเขาที่มีความสูงถึง 2,060 เมตรจากระดับน้ำทะเลเลยทีเดียว แน่นอนว่าวิวตรงนี้สวยงามจับใจมากๆ

ที่อยู่ Hakuba Happo-one Sky Resort, Hakuba, Nagano, Japan

ฟุกุโอกะ
ฟุกุโอกะ
  • Kawachi Fuji Garden ฟุกุโอกะ

อยากมีความรู้สึกเหมือนได้เดินอยู่ในภาพวาดสีน้ำมันแสนสวย ที่ในฝันตั้งอยู่ที่นี่แล้ว ท่ามกลางอุโมงค์ดอกไม้ Wisteria นั่นเอง สวน Kawachi Fuji Garden นี้มีต้น Wisteria มากกว่า 150 ต้นและ 20 สายพันธุ์ บานสะพรั่งเต็มพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร เหมาะกับการไปเดินชิลๆ ผ่อนคลายสบายใจ นอกจากนี้ช่วงปลายๆ เดือนเมษายนของทุกปีจะมีการเฉลิมฉลอง Wisteria Festival อีกด้วย

ที่อยู่ 2-2-48 Kawachi, Yahata-Higashi-ku, Kitakyushu City, Fukuoka, Japan

นี่ก็คือ 5 สถานที่เที่ยวเมื่อไปญี่ปุ่นต้องห้ามพลาด ที่นำมาฝากกัน ใครที่ได้เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเมื่อไร อย่าลืมไปแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆเหล่านี้กันให้ได้ ห้ามพลาดกันนะ แล้วบทหน้าเรามาพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามน่าสนใจที่จะไปสรรหามาฝากกันได้อีกในทุกสัปดาห์ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้าง เราต้องมาติดตามกันต่อ

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on eat

Ao Luek Ocean View

“Ao Luek Ocean View” เสิร์ฟความอร่อยพร้อมวิวทะเลกระบี่

วันนี้อยากจะชวนทุกคนไปล่องใต้ดินแดนแห่งป่าเขา ธรรมชาติสมบูรณ์ และทะเลอันแสนสวยในอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ มีพรายกระซิบมาว่ามีร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นจุดชมวิวแหลมสัก ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทะเลอยู่เบื้องหน้า และเกาะหมาก เกาะปูแดงซึ่งอยู่ด้านข้าง รวมไปถึงท้องฟ้าสีครามสดใสในยามกลางวัน และท้องฟ้าสีส้มยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า นับว่าเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง! ร้านคาเฟ่อ่าวลึกที่ว่านี้ก็คือ “Ao Luek Ocean View” ที่ได้ทั้งอิ่มท้องและถ่ายรูปกับวิวสวยๆ ของทะเลกระบี่ รวมถึงยังเป็นที่เที่ยวอ่าวลึกที่ผู้คนต่างแนะนำให้มาสัมผัสวิวทะเลสวยๆ แบบนี้กันสักครั้ง

Ao Luek Ocean View
Ao Luek Ocean View
Ao Luek Ocean View
Ao Luek Ocean View
Ao Luek Ocean View
Ao Luek Ocean View

การเดินทางมายังอ่าวลึกโอเชี่ยนวิวก็มาได้ไม่ยากเพราะห่างจากตัวอำเภออ่าวลึกมาประมาณ 11 กิโลเมตร โดยสามารถปัก GPS มาได้เลย หรือคอยสังเกตป้ายบอกทางที่มีอยู่ตลอดทาง พอเข้าเขตจุดชมวิวก็จะถึงที่ร้าน ซึ่งภายในร้านก็มีที่จอดรถรองรับนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ กว้างขวาง และเมื่อเข้ามาภายในร้านด้านบนก็จะเป็นระเบียงที่สามารถถ่ายรูป รวมถึงรับประทานอาหารและเครื่องดื่มแบบฟินๆ กับวิวทะเลที่อยู่ข้างหน้า หรือบางท่านอาจอยากหลบแดดก็สามารถนั่งทานอาหารชิวๆ ได้ในห้องด้านใน ยิ่งในยามเย็นคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสวยๆ อีกรูปแบบหนึ่งที่สุดแสนจะโรแมนติกอีกด้วย

Ao Luek Ocean View
Ao Luek Ocean View

มาถึงหนึ่งไฮไลท์ของเมนูเครื่องดื่มแนะนำของที่ร้านอ่าวลึกโอเชี่ยนวิวคงหนีไม่พ้นแก้วนี้! “Blue Ocean Soda Smoothie” น้องมาแบบสีสันสดใสน่ารัก ด้านบนท็อปปิ้งด้วยหางนางเงือกน้อยในวิปครีมโรยด้วยเรนโบว์ฟรุ้งฟริ้ง รสชาติเปรี้ยว หวาน ซ่า สดชื่นสุดๆ!

Ao Luek Ocean View
Ao Luek Ocean View

นอกจากเมนูไฮไลท์อย่าง Blue Ocean Soda Smoothie ด้านบนแล้ว ยังมีเครื่องดื่มอีกมากมาย ทั้งน้ำผลไม้, ชา, นม, กาแฟสด สามารถเลือกได้หลากหลายเมนูเลย ทุกแก้วรับรองสดชื่นๆ ฟินๆ ถ้าได้ดื่มพร้อมวิวทะเลแบบนี้ ต้องมีมากกว่า 1 แก้วแน่นอน!

Ao Luek Ocean View
Ao Luek Ocean View

ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือ อาหารจานหลักและขนมเบเกอรี่ ที่นี่จะมีทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง หลากลายเมนู อาทิ ข้าวผัด, สปาเกตตี้ขี้ทะเล, ปีกไก่ทอด, หมูยอทอด, อาหารทานเล่น รวมไปถึงอาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลาสดๆ อีกเยอะแยะ ตบท้ายกันด้วยของหวานที่ทางร้านแนะนำเลยนั่นก็คือ “Honey Toast” ฉ่ำๆ ทานคู่กับไอศครีมเย็นๆ รับรองฟินจนต้องขอเบิ้ล!

Ao Luek Ocean View
Ao Luek Ocean View

ใครมีโอกาสมาเที่ยวพักผ่อนที่กระบี่ก็อย่าลืมแวะมาเช็คอินที่อ่าวลึกโอเชี่ยนวิวแห่งนี้กันให้ได้นะ รับรองว่าจะได้ทั้งความอร่อยสุดฟินกับอาหารและเครื่องดื่มเติมความสดชื่น และวิวสวยๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด ประทับใจจนต้องกลับมาซ้ำอีกแน่นอน!

พิกัดร้าน Ao Luek Ocean View : หมู่ที่ 1 บ้านหินราว   ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่

เบอร์โทร : 080-891-5040

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 9.00 น.-20.00 น.

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ focusoneat
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Cr.: facebook: Ao Luek Ocean View

Categories
focus on eat

5 พิกัดไร่ชา

5 พิกัดไร่ชา ต้องไปโดน!

สำหรับคนที่กำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนแบบธรรมชาติที่แปลกใหม่ มีกิมมิค หรืออยากหากิจกรรมทำพร้อมมีภาพถ่ายสวยๆลงโซเชี่ยลด้วย เรามีสถานที่สวยๆ บรรยากาศดีๆมาแนะนำกัน อย่าง 5 พิกัด ไร่ชา ในเมืองไทยที่พลาดไม่ได้ นอกจากคุณจะได้ไปสัมผัสธรรมชาติที่งดงามตระการตา วิวหลักล้านกับต้นชาขนานแท้แล้ว ยังได้ลิ้มลองรสชาติของชา และได้ภาพสวยๆกลับไปอีกต่างหาก คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีที่ไหนบ้าง ตามเรามาดูกันเลย

ไร่ชาฉุยฟง
ไร่ชาฉุยฟง

1.ไร่ชาฉุยฟง จังหวัดเชียงราย เรียกได้ว่าเป็นผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงรายเลยก็ว่าได้ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมมี 2 แห่ง  พื้นที่บริเวณไร่นั้นกว้างมาก บรรยากาศไม่ต้องพูดถึงคือฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ชาปลูกโค้งวนไปตามไหล่เขา คุณภาพใบชาคือการันตีได้จากรางวัลต่างๆว่ามีคุณภาพดี มีความหอมเป็นเอกลักษณ์ และยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากทางไร่ราคาย่อมเยากลับไปเป็นของฝากได้ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีเปิดร้านคาเฟ่ มีทั้งเค้ก ขนม ชาเขียว ให้คุณได้ลิ้มลองกันแบบปังๆในบรรยากาศไร่ชาสุดแสนพิเศษกันเลยทีเดียว

ไร่ชาบ้านรักไทย
ไร่ชาบ้านรักไทย

2.ไร่ชาบ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หรือที่เรียกอีกชื่อว่า บ้านแม่ออ ซึ่งถือเป็นหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ห่างตัวเมืองประมาณ 44 กม. อยู่ก่อนถึงชายแดนไทย-พม่า ที่สำคัญเคยเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานด้วย แต่ตอนนี้ก็ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีบรรยากาศไร่ชาเขียวขจีล้อมรอบไปด้วยทิวเขาให้ชมพร้อมถ่ายภาพ แถมยังมีพืชเมืองหนาวให้ได้สัมผัส และบริเวณเดียวกันยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และทะเลสาบที่ตระการตาให้ได้ชมอย่างเพลินตา ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชิลก็สามารถมานั่งจิบชาอุ่นๆ มองบรรยากาศรอบๆ หรือเป็นสายแชะภาพลงโซเชี่ยลมาที่นี่รับรองว่ามีภาพลงถึงปีหน้าแน่นอน ฟีลกู๊ดสุดๆไปเลยล่ะ

ไร่บุญรอด
ไร่บุญรอด

3.ไร่บุญรอด หรือที่หลายๆคนรู้จักในชื่อ “สิงห์ปาร์ค” จังหวัดเชียงราย เป็นไร่ชาที่ใหญ่เป็นอันดับต้นของประเทศไทยเลยทีเดียวเพราะว่ามีพื้นที่มากกว่า 8,000 ไร่ โอ้โห! อลังการสุด และภายในไร่ยังเต็มไปด้วยไร่ชาที่สวยงาม โอบล้อมด้วยภูเขาสีเขียวขจีอากาศมีความเย็นกำลังดีตลอดทั้งปี นอกจากนี้ภายในไร่ยังมีแปลงเพาะปลูกพุทรา มะเฟือง สตรอว์เบอร์รี มีทุ่งดอกไม้สวยๆให้ได้ถ่ายภาพและทำกิจกรรมได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติมากมาย อย่างทุ่งปอเทือง ทุ่งดอกคอสมอส เป็นต้น และใครที่ชื่นชอบก็สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของไร่บุญรอดไปเป็นของฝากติดมือกลับบ้านได้อีกด้วย ใครมาเชียงรายต้องไม่พลาด!

ไร่ชาวาวี
ไร่ชาวาวี

4.ไร่ชาวาวี จังหวัดเชียงราย ดอยวาวีถือได้ว่าเป็นชุมชนที่เก่าแก่ของชาวจีนฮ่อที่อพยพเข้ามาทางตอนเหนือของไทย ที่สำคัญได้นำวิถีชีวิตดั้งเดิมในการดื่มชาเข้ามาในเมืองไทยอีกด้วย พวกเขาจึงยึดอาชีพปลูกชาเป็นหลัก ด้วยความที่ชำนาญทำให้ชาที่แห่งนี้มีรสชาติหอมหวานต่างจากทุกที่ๆหาได้ยาก อีกทั้งที่นี่มีวิวที่สวยงามมาก บรรยากาศสงบ อากาศดี ขอบอกว่าใครที่จะมาเที่ยวต้องห้ามพลาดกับการมาชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน ชิมอาหารพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ และใครที่ชอบผลไม้เมืองหนาว ที่นี่ยังมีบ๊วย พลัม ท้อ และอีกมากมายให้ได้ชมและชิม ปังกว่านี้ไม่มีแล้ว!

ไร่ชา 101
ไร่ชา 101

5.ไร่ชา 101 จังหวัดเชียงราย เรียกได้ว่าเป็นไร่ชาอู่หลงคุณภาพดีอันดับต้นของไทย ตั้งอยู่ที่ดอยแม่สลองที่หลายคนคงรู้จัก ที่นี่มีบรรยากาศดี อากาศเย็นที่สำคัญไร่ชาตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ใครที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติต้องไม่พลาดที่สวยๆแบบนี้ อยากให้คุณได้มาสัมผัสกับต้นชานับหมื่นต้นที่เรียงรายกันเป็นแนวยาวตามเชิงเขาอยู่อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ที่พลาดไม่ได้คือช่วงหน้าหนาวถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่ จะมีหมอกมาปกคลุม อากาศสุดโรแมนติก ชาวเขาใส่ชุดประจำเผ่าออกมาเก็บใบชา มาแล้วนอกจากคุณจะได้ลิ้มรสชาไทยกลิ่นหอมละมุนแล้วนั้นคุณจะต้องได้ภาพถ่ายสวยๆกลับไปลงโซเชี่ยลได้ทั้งปีอีกแน่นอน

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 พิกัดไร่ชา ที่ควรไปโดน และทุกสถานที่ที่เราได้แนะนำไปรับรองว่าเมื่อคุณได้ไปท่องเที่ยวรับรองว่าจะไม่ผิดหวัง นอกจากจะได้ลิ้มรสชาคุณภาพเยี่ยม ผลิตภัณฑ์ชาต่างๆ หรือได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับไปฝากทุกคนที่คุณรักแล้วนั้นคุณจะต้องหลงรักกับมนต์เสน่ห์ของท้องถิ่นในแต่ละที่ที่แตกต่างกันไปอย่างแน่นอน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ focusoneat
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว