Categories
focus on travel

5 ที่เที่ยวประเทศลาวห้ามพลาดเมื่อได้ไปเยือน

ลาว หรือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศที่เป็นเหมือนบ้านพี่เมืองน้องกับไทยมายาวนาน และที่ลาวนั้นก็สถานที่ต่างๆ ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามอยู่มากมาย รวมถึงมีศิลปะ วัฒนธรรมต่างๆ ที่มีเสน่ห์ บทนี้จึงขอนำ 5 ที่เที่ยวประเทศลาวห้ามพลาดเมื่อได้ไปเยือน มาฝากทุกคนกัน ใครอยากจะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศลาวด้วยกันแล้ว เราเดินทางไปด้วยกันเลย

บลู ลากูน วังเวียง
  1. บลู ลากูน วังเวียง

บลู ลากูน (Blue Lagoon) สระน้ำสีฟ้าใสที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของถ้ำภูคำ (Tham Phu Kham Cave) ที่เที่ยวยอดนิยมสุดๆ สำหรับนักท่องเที่ยวไทย ที่นี่มีน้ำในสระใสราวกับคริสตัล และเป็นสีฟ้า มองเห็นพื้นดินด้านล่างได้อย่างชัดเจน ที่ด้านข้างสระมีต้นไม้ใหญ่ สามารถไต่เชือกกระโดดน้ำได้อย่างสนุกสนาน

           นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้ๆ กันนั้นเป็นถ้ำภูคำ ซึ่งมีสระน้ำที่สวยใสอีกแห่งซึ่งคล้ายกับ บลู ลากูน อยู่ด้านในด้วย

พระธาตุหลวง เวียงจันทน์
  • พระธาตุหลวง เวียงจันทน์

พระธาตุหลวง เวียงจันทน์ หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในประเทศลาว เรียกได้ว่าใครมาเวียงจันทน์แล้ว ไม่ได้มาไหว้พระธาตุหลวง เรียกได้ว่า มาไม่ถึงเวียงจันทน์ เพราะตามประวัติศาสตร์ของลาวนั้น พระธาตุหลวงถูกสร้างขึ้นพร้อมๆ กับการสร้างเมืองเวียงจันทน์ โดยพระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรกนั่นเอง

          ตัวองค์พระธาตุเป็นสีทองช่วงกลางวันเวลาโดนแสงแดดกระทบจะสวยงามมากๆ และพระธาตุแห่งนี้เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจาก ประเทศศรีลังกา อีกด้วย

ปราสาทหินวัดพู จำปาสัก
  • ปราสาทหินวัดพู จำปาสัก

   ปราสาทหินวัดพู ตั้งอยู่บนเนินเขาภู หรือเรียกกันว่าภูควาย ห่างจากตัวเมืองเก่าจำปาศักดิ์ประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นโบราณสถานในประเทศลาว ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO สันนิษฐานว่าเป็นโบสถ์พราหมณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ ลักษณะของปราสาทเป็นเทวสถานขอม คล้ายกับเขาพระวิหาร สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 12 ในสมัยของพระเจ้ามเหนทรวรมัน ถือว่าเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด

         ประเพณีที่โด่งดังของปราสาทหินวัดพู และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวนั้น คือ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ประชาชนชาวลาวจากทั่วทุกที่จะเดินทางมาบวงสรวงบูชาที่นี่ เป็นเวลา 3 วัน สำหรับในวันสุดท้ายจะมีพระสงฆ์ออกมาบิณฑบาต พอตกค่ำจะมีพิธีเวียนเทียนไปรอบๆ ปรางค์ประธาน

ปะตูไซ หรือ ประตูชัย เวียงจันทน์
  • ปะตูไซ หรือ ประตูชัย เวียงจันทน์

ประตูชัย ตั้งอยู่ที่กรุงเวียงจันทน์ เป็นอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512  ที่นี่ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการมาเที่ยวเวียงจันทน์เลยก็ว่าได้ นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปสวยๆ ที่นี่

บริเวณรอบๆ ประตูชัยจะถูกล้อมรอบด้วยสวนสวย น้ำพุ และดอกไม้ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยังชั้นบนเพื่อดูวิวรอบๆ ได้อีกด้วย

บ้านต้นไม้ ที่สูงที่สุดในโลก
  • บ้านต้นไม้ ที่สูงที่สุดในโลก

เขตรักษาพันธุ์ธรรมชาติบ่อแก้ว

  เขตรักษาพันธุ์ธรรมชาติบ่อแก้ว ตั้งอยู่ที่จังหวัดบ่อแก้ว ประเทศลาว เป็นสถานที่อนุรักษ์ ชะนีแก้มดำ (black-cheeked gibbon) สัตว์ป่าหายากที่หลายคนเคยคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว

             นอกจากนี้ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าทำให้มีสัตว์หายากอีกมากมาย เช่น ช้าง หมี ควายป่า และอื่นๆ จึงทำให้ที่เที่ยวเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนรักธรรมชาติอย่างแท้จริง รวมถึงการมาเที่ยวและพักค้างคืนบนบ้านต้นไม้ที่สูงที่สุดในโลก ประสบการณ์แบบนี้คงยากที่จะหาได้จากที่ไหน

นี่ก็คือ 5 ที่เที่ยวประเทศลาวห้ามพลาดเมื่อได้ไปเยือน ที่นำมาฝากกัน ใครที่ได้เดินทางไปที่ประเทศลาว อย่าลืมไปแวะตามสถานที่เหล่านี้กันให้ได้นะ แล้วบทหน้าเรามาพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปสรรหามาฝากกันได้อีกในทุกสัปดาห์ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้าง เราต้องมาติดตามกันต่อ

   ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

                     

Categories
focus on rest

อินดีโก สเปซ (Indiego Space)

อินดีโก สเปซ(Indiego Space)เป็นโรงแรมระดับ 2 ดาว ที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่พักราคาประหยัดสำหรับท่านใดที่ต้องการมาเที่ยวชมบรรยากาศแบบธรรมชาติ

ของจังหวัดเลยแล้วต้องการหาห้องพักในราคาประหยัด อินดีโก สเปซ(Indiego Space)อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณก็ได้ โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินเท่าไหร่นัก ใช้เวลาเดินทางเพียง 8 นาทีก็สามารถมาถึงโรงแรมได้แล้วและเมื่อใครได้อ่านเจอคำว่าโรงแรมระดับ 2 ดาวแล้วอาจจะนึกภาพโรงแรมอินดิโก สเปซนี้ไปในทางลบก็ได้แต่ที่จริงแล้วอินดิโก สเปซนั้นเป็นโรงแรมที่มีการดีไซน์ได้สวยงามมีสไตล์เป็นของตัวเอง

อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีบริการรับส่งนักท่องเที่ยวถึงสนามบินฟรีไม่คิดค่าบริการ มีจักรยานให้เช่า บริการเช่ารถ บริการเช่าแท็กซี่ บริการซักรีดโดยพนักงานที่นี่สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ซอยร่วมพัฒนา(ซอยเดียวกับข้าวเปียกปากหมา) หากเดินทางมาจากหน้าศาลากลางจังหวัดเลยให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนนกแก้วข้างโรงพยาบาลเลย เลี้ยวซ้ายซอยที่2ก่อนถึงปั๊มปตท.จากนั้นให้ตรงมาอีก200เมตร โดยโรงแรมอินดิโก สเปซจะอยู่ทางด้านขวามือ ซึ่งโรงแรมแห่งนี้จะเปิดให้บริการรับแขกที่มาเข้าพักตั้งแต่เวลา 07:30 – 23:30น.

(Indiego Space)

ในส่วนของห้องพักทางโรงแรมอินดิโก สเปซมีห้องพักให้บริการหลากหลายดีไซด์ถึงหกห้องโดยสามารถเลือกพักได้ว่าจะนอนห้องไหน ได้แก่ ห้องสตูดิโอ แฟมิลี่ สตูดิโอ พาร์ทเม้นท์ โดยห้องทุกห้องพักนั้นจะตกแต่งอย่างหรูหรามีขนาดกว้างขวางและมีระเบียงส่วนตัว

สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอาทิ เตียงขนาดคิงไซส์พร้อมชุดที่นอนเนื้อนุ่ม เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น มินิบาร์ อุปกรณ์ชงชาและกาแฟ พื้นที่สำหรับนั่งเล่น โต๊ะเขียนหนังสือ ทีวี/เคเบิ้ลห้องน้ำในตัวพร้อมน้ำอุ่น โดยราคาค่าที่พักต่อคืนนั้นจะอยู่ที่ 700-2,000 บาทเท่านั้น

(Indiego Space)

อินดิโก้ คาเฟ่นั้นมีห้องอาหารประจำโรงแรมเลยชื่อSpace Bar by Indiago Cafe’ Space  ซึ่งจะมีเมนูอาหารต่างๆมากมายไว้รองรับแขกที่มาเข้าพัก แต่จุดเด่นสำหรับคาเฟ่ร้านนี้จะเป็นขนมเค้กและคุกกี้ที่มีรสชาติอร่อยมากจริงๆ

อินดิโก้ สเปซมีห้องอาหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องของ เบเกอรี่ที่อร่อยมากๆ ซึ่งมีชื่อร้านว่า Space Bar By Indiago Space สำหรับเมนูเด็ดๆก็คือ Lemon Cheese Tant ชั้นล่างจะเป็นแครกเกอร์กรุบกรอบตรงกลางเป็นครีมชีส ข้างบนเป็น Lemon Curd ชิ้นละ 49 บาทต่อมาเป็น Taiwannese Castella เค้กไต้หวันชิ้นละ 19 บาทในส่วนของน้ำผลไม้ตัวนี้จะเป็นแอปเปิ้ลปั่นนม

ให้รสชาติแอปเปิ้ลแท้อีกทั้งยังมีความหอมกลิ่นนมอีกด้วย ต่อมาเป็นบราวนี่ราคา 2 ชิ้น 59 บาท ส่วนอาหารคาวก็จะมีประเภทยำปูอัดและยำหมูยอ และพวกอาหารตามสั่งทั่วไป โดยสามารถสั่งออเดอร์กับทางร้านอาหารนี้ Space By Indiago Space ได้ทางเบอร์โทรศัพท์ 093-416-6295

จะเห็นแล้วว่าคุณภาพระดับสองดาวนั้นเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาทำให้นึกถึงคำพูดที่ว่า ‘อย่าตัดสินคนจากภายนอก’คำนี้ใช้ได้ผลจริงๆ สำหรับท่าน

ใดที่ได้อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกสนใจอยากจองที่พักกับทางโรงแรมสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 090-974-2926

หรือช่องทางเพจ Facebook : https://www.facebook.com/indiegospace

ฝากติดตามที่พักตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ focusonrest 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

เที่ยวตรัง นั่งแช่น้ำ ที่บ่อน้ำร้อนกันตัง

                วันนี้จะพาคุณ ๆ หนีเมืองลงใต้ เที่ยวเมืองตรัง กับบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ และบริเวณรอบๆ ยังล้อมไปด้วยป่าไม้งามๆ สัตว์ป่าน้อยใหญ่อีกด้วย งานนี้ใครเป็นสายชิลอยากจะนั่งแช่น้ำเพื่อสุขภาพก็ได้ หรือจะเดินลุยป่าชมธรรมชาติสวยๆ ก็มันส์สุดๆ เอาล่ะ ตามไปเที่ยวกันเลยที่ บ่อน้ำร้อนกันตัง

บ่อน้ำร้อนกันตัง

บ่อน้ำร้อนกันตัง

     บ่อน้ำร้อนกันตัง หรือ วนอุทยานน้ำพุร้อนกันตังที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ มีเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 400ไร่เป็นที่ราบเชิงเขา มี มีบางส่วนเป็นป่าพรุที่มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปีอีกด้วยค่ะ และแน่นอนว่าก็มีบริเวณของน้ำผุดขึ้นมาจากใต้ดินตลอดเวลา

     นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ที่เป็นป่าดิบชื้น ทำให้มีพืชพรรณและสัตว์ป่ามากมายไม่ว่าจะเป็น ยาง ตะเคียน หว้า ชมพู่ป่า ทุ้งฟ้า ก่อ แดงควน กระโดน ตังหน หวาย หลุมพี ปาล์ม กล้วยไม้ และด้วยยังเป็นพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์จึงทำให้มีสัตว์ป่าให้ได้เห็นอย่าง ชะมด ค้างแว่นถิ่นใต้ กระจง ไก่ป่า นกชนิดต่างๆ เต่า กบ เขียด งู เป็นต้น

ออนเซ็นกันตรัง

ออนเซ็นกันตรัง

     มากันที่บ่อน้ำร้อนควนแคง โดยจะมีบ่อน้ำร้อน 3 บ่อด้วยกัน แต่ละบ่อจะมีอุณหภูมิน้ำอยู่ตั้งแต่ 30 องศา 40 องศา ไปจนถึง 70 องศา ที่คนรักสุขภาพหรือใครที่เหนื่อยล้าจากการทำงานสามารถพักผ่อนแช่เท้าและอาบน้ำร้อนได้ผ่อนคลายค่ะ รวมถึงมีบริการห้องอาบน้ำและห้องแช่น้ำร้อนให้นั่งแช่เป็นออนเซ็นเมืองไทยอย่างชิลๆ ได้เลยสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอีกด้วยค่ะ

กิจกรรมอื่นๆที่นอกจากการแช่น้ำร้อน   

กิจกรรมอื่นๆที่นอกจากการแช่น้ำร้อน   

                สำหรับที่นี่นั่นไม่ได้มีแค่ให้แช่น้ำร้อนเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมให้ได้ทำอย่างการเดินป่า เพื่อศึกษาธรรมชาติ บริเวณพื้นที่พรุน้ำร้อนและพื้นที่ป่าดงดิบ ที่มากถึง 3 เส้นทางโดยมีระยะทางสั้น ๆ ตั้ง 500 เมตร 750 เมตรไปจนถึงระยะทางถึง 2 กิโลเมตร ซึ่งนอกจากพื้นที่นี้จะไว้ให้เที่ยวชมได้แล้ว ก็ยังไว้ศึกษาวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพได้ด้วยเช่นกันค่ะ

บ่อน้ำร้อนกันตัง

การเดินทาง ไป บ่อน้ำร้อนกันตัง

สามารถเดินทางด้วยเส้นทางหลวงหมายเลข 403 สายตรัง-กันตังมุ่งหน้ามาทางเทศบาลเมืองกันตังแล้วจากนั้นข้ามแพขนานยนต์มาที่หมู่บ้านท่าส้มจากนั้นก็ขับรถไปอีก 8 กิโลเมตร พอถึงบริเวณปากทางเข้าวนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง ตรงไปตามป้ายบอกทางเลยค่ะ ไม่นานก็จะถึงที่ทำการวนอุทยานฯ และบ่อน้ำร้อนแล้วค่ะ

บ่อน้ำร้อนกันตัง

 ข้อมูล วนอุทยานน้ำพุร้อนกันตัง ตรัง

ที่อยู่ : ตำบลบ่อน้ำร้อน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

พิกัด : https://goo.gl/maps/PgmBqEvVwxMsTLLH6  

เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.

ฝากติดตามที่พักตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ focusonrest 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on rest

อยากมานครนายกทั้งที ห้ามพลาด “ที่พักแบบเต็นท์กระโจม”

อยากมานครนายกทั้งที ห้ามพลาด “ที่พักแบบเต็นท์กระโจม”

ที่พักเต็นท์กระโจม นครนายกเป็นที่พักที่บอกตรงๆ ว่าปราบเซียนมากสำหรับการค้นหา เพราะที่พักสไตล์มีเต็นท์กระโจมแบบตากอากาศ จะหายากมากในประเทศไทย หรือมีในโซนภาคเหนือเสียมากกว่า หากใครที่ต้องการหาที่พักที่ต้องการความสบายใจ ความเป็นส่วนตัว หรือความเป็นครอบครัว ที่พักเต็นท์กระโจม

นครนายกจะต้องเป็นที่พักปลอดภัยต่อชีวิต ทรัพย์สิน และทุกเพศทุกวัยสามารถมาพักได้อย่างมีความสุข และมีความปลอดภัย ได้ออกจากโซนของตนเองกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แน่นอนว่าที่ “นครนายก” มีที่พักเต็นท์กระโจมพร้อมพักอาศัย ได้บรรยากาศความเป็นธรรมชาติสมกับที่รอคอย ไม่ต้องนั่งรถหลายชั่วโมง แค่มาหาที่พักไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เป็นที่พักปลอดภัย จะช่วยผ่อนคลายให้กับตนเองได้เป็นอย่างดี จะมีที่ไหนบ้าง ไปตามกันเถอะ

ที่พักแบบเต็นท์กระโจม
  • The Bamboo Camp&Cafe นครนายก

ประเดิมด้วยที่พักเต็นท์กระโจม นครนายกที่มีการรีวิวมากที่สุด และแนะนำในเชิงบวกมากที่สุดจะต้องมี The Bamboo Camp&Cafe นครนายกแน่นอน เพราะมีครบทั้งนอนในรถและนอนในเต็นท์แบบกระโจมที่เตรียมครบ เพื่อต้อนรับแขกที่มาเยือน The Bamboo Camp&Café ที่แห่งนี้ ตอบโจทย์คนชอบตั้งแคมป์อย่างมาก ทุกอย่างเหมือนแคมป์ปิ้ง

ที่นั่งเหมือนกับในหนังและละครลุยป่าเรื่องอื่นๆ ทุกประการตั้งแต่หนังกลางแปลง รถที่นอน และเต็นท์กระโจมที่สามารถเข้าพักได้ นอกจากนี้ที่พักปลอดภัยมากหากใครพาเด็กๆ หรือบุตรหลานมาเที่ยวที่นี่ เต็นท์ของที่พักทางรีสอร์ทมีให้สำหรับใครที่มาจองที่พักแล้ว ได้สร้างประสบการณ์ให้กับเด็กๆ เยาวชน และครอบครัวได้ลงตัวมาก ใครอยากพักพร้อมบรรยากาศแบบค่ายลูกเสือ และผจญภัย ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ที่พักแบบเต็นท์กระโจม
  • Chawee Glamping & Resort

มาอีกที่พักที่ติดอันดับที่พักเต็นท์กระโจม นครนายกที่ให้บรรยากาศสวยเหมือนอยู่ในภาคเหนือ จะต้องมี Chawee Glamping & Resort แน่นอน เพราะให้บรรยากาศอิงความเป็นธรรมชาติและมีความโมเดิร์นอยู่ในตัว ซึ่งที่นี่เป็นอีกที่พักที่เป็นที่พักปลอดภัย มีความเรียบง่าย และออกแนวสไตล์โบฮีเมียนเบาๆ สำหรับใครชื่นชอบธีมนี้

จะรู้สึกกับได้พักในที่พักที่ให้ความเป็นส่วนตัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้เลือก โดยทำเลที่ตั้งจะเหมาะกับการมาพักเป็นกลุ่มเดี่ยวๆ มากกว่า เช่น กลุ่มครอบครัว กลุ่มคู่รัก หรือกลุ่มเพื่อนฝูงกลุ่มเล็กๆ มีอ่างจากุซซี่พร้อมกินลมชมวิวได้สบายๆ มีกระโจมถึง 5 กระโจมพร้อมบริการ นอกจากนี้ประหยัดงบ คุณภาพและความสะอาดของ Chawee Glamping & Resort ทำออกมาได้ดีอย่างยิ่ง

ที่พักแบบเต็นท์กระโจม
  • สาริกา รีสอร์ท นครนายก

อีกที่พักเต็นท์กระโจม นครนายกที่ให้บรรยากาศสวย อยู่ติดน้ำและใกล้น้ำตกสาริกา จะต้องมี “สาริกา รีสอร์ท นครนายก” อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นอีกที่ที่ช่วงหน้าหนาวเข้ามาพักเยอะมาก เพราะจะได้กินลมชมวิวกับบรรยากาศหน้าหนาวได้เป็นอย่างดี ทั้งเต็นท์และที่พักมีการทำความสะอาด ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างดี

ใครที่มาพัก มาใช้บริการจะรู้สึกถึงความมั่นใจ และเป็นที่พักปลอดภัย การโจรกรรมน้อยมาก แต่ก็มีมาตรการการควบคุมโรคที่รัดกุมพอสมควร ทำให้ทุกคนสามารถมาท่องเที่ยว พักผ่อนตากอากาศได้สบายใจ หากใครต้องการกางเต็นท์ สามารถ Walk-In เข้ามาที่รีสอร์ทได้เลย ลูกค้าที่มาพักที่รีสอร์ทมีกิจกรรมปิ้งบาร์บีคิว มีตกปลา พายเรือ และยังมีบริการอาหารเช้าครบเครื่องด้วยนะ

ที่พักแบบเต็นท์กระโจม

                ที่พักเต็นท์กระโจม นครนายกมีความน่าสนใจตรงที่บรรยากาศไม่ซ้ำใคร เนื่องจากจังหวัดนครนายกมักจะเป็นแหล่งสำหรับตากอากาศ ทำให้มีลูกค้าหลายคนเข้ามาพักกันมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย หรือทิ้งความทุกข์ใจไปกับน้ำตก ซึ่งที่พักเหล่านี้ล้วนเป็นที่พักปลอดภัย สามารถมาพักได้ทุกเพศทุกวัย รวมถึงใครที่มากันเป็นครอบครัวจะได้เห็นกิจกรรมใหม่ๆ สำหรับที่พักที่บริการให้ลูกค้า

นอกจากนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายหากใครที่ต้องการพักแบบเต็นท์กระโจม แต่ไม่อยากไปไหนไกลๆ หรือขับบนถนนคดเคี้ยวจนรู้สึกกังวล ที่พักที่พักเต็นท์กระโจม นครนายกพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าได้เสมอ เมื่อคุณต้องการมาใช้บริการจากที่นี่แน่นอน อยากมานครนายกทั้งที ห้ามพลาด “ที่พักแบบเต็นท์กระโจม”

ฝากติดตามที่พักตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ focusonrest 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

พาชมวัดไหว้พระที่ วัดพุทไธศวรรย์

สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวแบบสบาย ๆ สายบุญวันนี้จะขอพาเที่ยวไหว้พระใกล้ๆ กรุงเทพ กันที่เมืองหลวงเก่าแก่อย่างอยุธยา และวัดที่เราจะพาไปไหว้พระของพรก็คือ วัดพุทไธศวรรย์ วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่อยุธยามายาวนานวัดไทยที่ตั้งอยู่ในฝั่งตรงข้ากับเกาะเมือง อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสวยๆ ที่ยังคงสมบูรณ์และงดงามอย่างมาก ขับรถมาเที่ยวอยุธยา ชมวัดและยังได้ไหว้พระเสริมมงคลให้กับตัวเองไปพร้อมๆ กันเลย

วัดพุทไธศวรรย์-อยุธยา-1
วัดพุทไธศวรรย์-อยุธยา

วัดพุทไธศวรรย์ อยุธยา

วัดพุทไธศวรรย์ เป็นวัดหลวงที่มีขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงวัดหนึ่งเป็นวัดที่มีตำนานเล่าต่อกันมาว่าเป็นที่ทุกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าอยู่ทอง โดยมีวัตถุประสงค์สร้างเพื่อให้บริเวณที่เป็นที่ตั้งพลับพลา ทรงประทับเมื่ออพยพมา ตั้งอยู่ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแล้ว โดยตัววัดนั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก บริเวณตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ร่วมกันระหว่าง 3 ศาสนา คือ พุทธ คริสต์ และอิสลาม แต่สามารถอยู่รวมกันโดยไม่เกี่ยงเรื่องของเชื้อชาติและศาสนา ถือได้ว่าเป็นวัดที่เป็นเหมือนจุดรวมเรื่องราวของวัฒนธรรมเลยทีเดียว

วัดพุทไธศวรรย์-อยุธยา2-1
วัดพุทไธศวรรย์-อยุธยา

จุดเด่นของวัดพุทไธศวรรย์

                จุดเด่นของ วัดพุทไธศวรรย์ จะอยู่ที่ ปรางค์ประธานองค์ใหญ่ มีรูปร่างเหมือนฝักข้าวโพดในรูปแบบศิลปะแบบขอม โดยตั้งอยู่กึ่งกลางอาณาเขตพุทธาวาสบนฐานไพที ซึ่งมีลักษณะย่อเหลี่ยม มีบันไดขึ้น 2 ทาง คือ ทางทิศตะวันออก และทางทิศตะวันตก ส่วนทางทิศเหนือและทิศใต้นั้น จะมีมณฑปสองหลังภายในพระมณฑป ก็จะประดิษฐานองค์พระประธานอีกที ซึ่งสามารถมองเห็นถึงความสง่างามของพระปรางค์ที่แม้อยู่คนละฝั่งแม่น้ำก็ยงเห็นได้ถึงความสง่างามของพระปรางค์นี้

วัดพุทไธศวรรย์-อยุธยา3
วัดพุทไธศวรรย์-อยุธยา

เส้นทางการไปวัดพุทไธศวรรย์

          จากกรุงเทพฯ ไปลงที่เชียงรากน้อยบรรจบกับถนนกาญจนาภิเษก ขับตรงไปอีกนิดเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 347 ตรงไปจนถึงสี่แยกวรเชษฐ์ เลี้ยวขวามาทางอยุธยาพาวิเลียน ตรงไปจนเจอไฟแดงแรก เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3469 ตรงไปอย่างเดียวจะมีป้ายบอกตลอดทาง

          ส่วนใครไม่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถนั่งรถตู้โดยสารประจำทางไปลงได้ที่ตัวเมืองอยุธยา แล้วเช่าเหมารถตุ๊กตุ๊ก หรือเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวรอบ ๆ กรุงเก่าอยุธยาก็ได้ค่ะ

วัดพุทไธศวรรย์-อยุธยา4
วัดพุทไธศวรรย์-อยุธยา

     ข้อมูล วัดพุทไธศวรรย์ อยุธยา        

 หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอยุธยา โทรศัพท์ 0 3524 6076

ที่อยู่ : หมู่ที่ 8 15 ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พิกัด : https://goo.gl/maps/DKTKygbe7xsLSik48

เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.

ฝากติดตามที่พักตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ focusonrest 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว