Month: December 2022

                นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างรู้กันดีว่า ประเทศไทยนั้นถือเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ที่คนจากทั่วโลกอยากมาเที่ยวกันมากที่สุดประเทศหนึ่ง จึงไม่น่าแปลกใจหากเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการจัดอันดับสถานที่น่าเที่ยวทั่วโลก จะมีที่เที่ยวในเมืองไทยติดอันดับอยู่ด้วยเสมอ จะมีที่ไหนบ้าง มาดูกันเลยดีกว่า

อุทยานพระพิฆเนศ จังหวัดนครนายก
อุทยานแห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพิฆเนศปางเสวยสุของค์ใหญ่มาก โดยมีความสูงถึง 15 เมตร และมีหน้าตักกว้างถึง 9 เมตร จนได้รับการยกย่องจากเลขาธิการศาสนสัมพันธ์ฮินดูโลกว่าเป็นพระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใครที่นับถือองค์พระพิฆเนศและอยากขอพรกับท่านก็มักจะเดินทางกันมาที่นี่ โดยทางอุทยานก็ได้จัดสถานที่ไว้สำหรับกราบไหว้บูชาองค์พระพิฆเนศประจำวันเกิดของตนเองไว้ให้ด้วย

พิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม จังหวัดชลบุรี
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นประติมากรรมไม้แกะสลักที่ยิ่งใหญ่และทรงคุณค่าติดอันดับโลก เป็นมหาปราสาทสุดอลังการ และงดงามวิจิตรเกินบรรยาย ปราสาทสัจธรรมเปรียบเหมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่บอกเล่าเรื่องราวและถ่ายทอดข้อคิด คุณธรรมในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ผ่านงานศิลปะไม้แกะสลัก

น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก
ทีลอซู เป็นน้ำตกที่มีความสูงถึง 300 เมตร ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ติดอันดับน้ำตกที่โด่งดังและมีนักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวชมความงามกันมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ใครที่เคยได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มันช่างสวยงามอลังการและดูยิ่งใหญ่มากๆ ทีลอซูได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 6 น้ำตกที่สวยที่สุดในโลก และเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชียเชียวนะ

หาดถ้ำพระนาง จังหวัดกระบี่
หาดแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของกระบี่ เพราะเป็นชายหาดที่สวยงาม มีวิวภูเขาหินปูน และ หน้าผา เดินไปสุดทางก็จะเจอกับถ้ำที่รายล้อมด้วยน้ำทะเลใส และหาดทรายขาว ช่วงกลางวันที่นี่จึงเต็มไปด้วย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศแวะเวียนกันเข้ามาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย ทั้งยังสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีทุกช่วงฤดูกาลเลยด้วย

เกาะราชา จังหวัดภูเก็ต
เกาะแห่งนี้นับเป็นหนึ่งในหมู่เกาะทะเลอันดามัน ที่ทาง National Geographic ได้จัดอันดับให้เป็นหมู่เกาะที่สวยเป็นอันดับ 10 ของโลก เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลใสและหาดทรายขาวสะอาด ทั้งยังเป็นแหล่งดำน้ำแบบ One Day Tripยอดนิยมอีกด้วย

               ใครที่ไม่อยากแพ้นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ก็อย่าลืมหาเวลาไปท่องเที่ยวสถานที่เหล่านี้กันนะ จะได้ไม่เสียทีที่เป็นคนไทยยังไงล่ะ

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

ติดตามบทความ ออกกำลังกาย ในทุกสัปดาห์ได้ที่ sportintrends.com

              สำหรับใครที่เป็นชาวพุทธ และอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดนครปฐมมากนัก เชื่อว่าคงต้องรู้จัก และได้เคยมีโอกาสมากราบไหว้สักการะ องค์พระปฐมเจดีย์ กันบ้างแล้ว เพราะถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากของชาวจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียง ส่วนใครที่ยังไม่เคยไปมาก่อน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้สึกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้กัน

              นครปฐม นับเป็นจังหวัดซึ่งมีตำนานเก่าแก่ที่น่าสนใจอยู่มากมาย และสถานที่หนึ่งที่ทุกคนซึ่งมีโอกาสได้ไปนครปฐมไม่ควรพลาดก็คือ องค์พระปฐมเจดีย์ แห่งนี้นี่แหละ สำหรับกิจกรรมที่พุทธศาสนิกชนนิยมมาทำกันที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นการไหว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีประวัติความเป็นมาที่ควรศึกษา ด้วยพระปฐมเจดีย์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชการวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระปฐมเจดีย์อันเก่าแก่ ซึ่งมีอายุยาวนานนับพันปี เป็นปูชนียสถานสำคัญที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของชาวนครปฐม

                รูปลักษณ์ของพระปฐมเจดีย์ ก่อนการปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 4 มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกลมคว่ำ แบบเดียวกับสถูปสัญจิของอินเดียสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช แต่มียอดเป็นรูปปรางค์ซึ่งเป็นศิลปะสมัยสุวรรณภูมิในพุทธศตวรรษที่ 17 ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

รัชกาลที่ 4 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระปฐมเจดีย์ใหญ่ครอบองค์เดิมเอาไว้ จึงเปลี่ยนรูปร่างเป็นระฆังคว่ำทรงลังกา มีพุทธบัลลังก์ฐานสี่เหลี่ยมซ้อนระฆัง มียอดนภศูล และพระมหามงกุฎสวมไว้บนยอดองค์เจดีย์ แล้วประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีเหลือง ดังที่เห็นในปัจจุบัน

                ว่ากันว่า ถ้ามาที่องค์พระปฐมเจดีย์แล้ว สิ่งที่ควรทำเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตนั่นก็คือ การเดินรอบพระอารามชั้นนอกหรือชั้นในก็ได้ให้ครบ 3 รอบ ซึ่งก็ต้องขอบอกตรงๆ เลยว่า เหนื่อยไม่ใช่เล่น แต่ในระหว่างทางที่เดินก็มีอะไรให้ดูให้ทำมากมาย อย่างการดูถ้ำซึ่งจำลองขึ้นมา

หรือรูปปั้นโบราณสวยๆ ทั้งของจีนและไทย ดูไปดูมาเพลินๆ แป๊บๆ ก็ครบ 3 รอบแล้ว ที่สำคัญอย่าลืมไหว้พระให้ครบด้วย ทั้งองค์พระปฐมเจดีย์, พระร่วง, ศาลเจ้าพ่อปราสาททอง และพระศิลาขาว ส่วนธูป เทียน ดอกไม้ ที่นี่เค้ามีไว้ให้ ส่วนราคาก็แล้วแต่ใครศรัทธาจะทำบุญ

                นอกจากนี้ กิจกรรมช่วงกลางคืนก็น่าสนใจไม่เบา หากใครได้มาที่นี่แนะนำว่าไม่ควรพลาดโอกาสเที่ยวตลาดกลางคืนที่อยู่หน้าบริเวณวัดด้วย เพราะของกินเค้าเยอะมากๆ ใครที่เป็นสายกิน ไหว้พระเสร็จแล้ว รอให้ฟ้ามืดสักนิด รับรองว่าได้ท้องตึงกลับบ้านแน่นอน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

               ถ้าพูดถึงน้ำตกชื่อดังในประเทศไทย เชื่อว่าอันดับต้นๆ ที่คนจะนึกถึงก็คงหนีไม่พ้น น้ำตกทีลอซู น้ำตกสุดอลังการในจังหวัดตาก ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเมืองไทย ซึ่งต้องบอกเลยว่าถ้าใครยังไม่เคยไปเที่ยวชม ถือพลาดมากๆ เพราะความงามสุดอลังการของน้ำตกแห่งนี้ ได้ทำให้ใครต่อใครต้องตะลึงกันมาแล้วนับไม่ถ้วน

               น้ำตกทีลอซู ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก โดยคำว่า ทีลอซู นั้นเป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ เป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ สูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร ไหลลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์

               ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก่อนถึงน้ำตก จะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผ่านป่าไผ่และป่าเบญจพรรณ ระหว่างทางจะมีป้ายอธิบายเกี่ยวกับพืชพันธุ์ตามจุดต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา เมื่อเข้าไปถึงบริเวณน้ำตก ก็จะเห็นละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วโขดหินเบื้องล่าง และมองเห็นธารน้ำตกลงมาจากผาหินสูงกว่า 300 เมตร กว้างกว่า 500 เมตร ท่ามกลางป่าครึ้ม สวยงามตระการตาหาคำมาบรรยายได้ยากยิ่ง บริเวณด้านล่างมีทางเดินไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา ส่วนฝั่งตรงข้าม ก็นับเป็นจุดที่มองเห็นน้ำตกทีลอซูได้อย่างสวยงาม และชัดเจนเช่นกัน

            สำหรับช่วงเวลาในการมาท่องเที่ยวน้ำตกทีลอซู หากเป็นในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน – ตุลาคม นักท่องเที่ยวต้องล่องเรือยางจากตัวเมืองอุ้มผางไปตามลำน้ำกลอง ซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์ของผืนป่า บ่อน้ำร้อน และน้ำตกทีลอจ่อ ที่ตกลงมาจากหน้าผาสูง รวมถึงน้ำตกสายรุ้ง ซึ่งจะได้เห็นรุ้งที่เกิดจากแสงตกกระทบกับละลองน้ำตก นอกจากนี้ก็ยังผ่านผาอีกหลายๆ ผา ทั้งผาผึ้ง ผาเลือด ผาบ่อง ผาโหว่ โดยการล่องเรือจะใช้เวลาประมาณ  3 ชั่วโมง

               จากนั้นก็มาถึงจุดเดินเท้า ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องเดินเข้าไปยังจุดกางเต็นท์ของที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เพราะไม่อนุญาตให้รถเข้า เส้นทางการเดินมีทั้งทางลาดชันและทางราบเรียบสลับกันไป ในช่วงเวลานี้น้ำตกจะมีปริมาณน้ำมาก ผืนป่าเขียวขจี และสีน้ำตกจะขุ่นเล็กน้อย จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยและเดินป่า

                แต่หากมาในช่วงพฤศจิกายน – เมษายน ซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยว น้ำตกทีลอซูจะใส ปริมาณน้ำพอเหมาะ และสีของน้ำตกจะสวยที่สุด ในช่วงนี้อนุญาตให้นำรถเข้าไปได้ สามารถขับรถจากที่พักจนถึงจุดกางเต็นท์ได้ โดยไม่ต้องเดินให้เหนื่อย หรือหากอยากจะล่องเรือยางตามลำน้ำแม่กลอง ชมความสวยงามของธรรมชาติมาเรื่อยๆ จนถึงจุดต่อรถก็เชิญได้ตามอัธยาศัย

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

              ทริปนี้เราจะพาล่องแก่ง โดยเส้นทางที่ต้องล่องเรือยางประมาณ 2 ชั่วโมง ผ่านธรรมชาติที่สวยงามมากมาย เพราะเป็นเส้นทางไปน้ำตก ทีลอซู ซึ่งปกติจะมีเส้นทางรถยนต์ไปถึงได้เลย แต่หน้าฝนเขาจะปิดตั้งแต่  1 พ.ค. – 31 ต.ค. การไปจึงต้องใช้วิธีล่องแก่งและเดินต่อเข้าไป

              หลายคนอาจคิดว่าการไปล่องแก่งหน้าฝนนั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัว เพราะมีทั้งน้ำที่ป่าไหลแรงกว่าปกติ แล้วไหนจะมีน้ำฝนที่ตกลงมาสมทบอีก เรื่องนั้นอาจจะจริงสำหรับการไปล่องแก่งที่อื่น แต่ไม่ใช่ที่นี่ เพราะหลังจากที่หาข้อมูลมาแล้ว ทำให้ได้รู้ว่าเส้นทางนี้เราไม่ต้องกลัวน้ำป่าไหลหลาก เพราะเป็นลำห้วยที่น้ำไหลได้คล่องตัว ป่าสมบูรณ์ มีต้นไม้มาก ทั้งยังการันตีโดยการมีนักท่องเที่ยวมากันหลายชุดแล้วในหน้าฝน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องกลัวเลย

             สำหรับการล่องแก่งนั้นก็มีหลายระดับด้วยกัน ซึ่งที่อุ้มผางที่เราจะพาไปล่องแก่งนั้นสายน้ำช่วงแรกเป็นระดับ 1-2 เท่านั้น ซึ่งไม่มีอันตราย และการล่องแก่งทุกวันนี้ เขาใช้เรือยางอย่างดีลำละหลายหมื่นบาท ผิดจากเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ที่เป็นการล่องด้วยแพไม้ไผ่ ซึ่งสาเหตุที่ใช้เรือยางก็เป็นเรื่องความปลอดภัยนั่นเอง เพราะเจ้าเรือยางนี้ทนทานมาก โดนหิน กิ่งไม้ ตอไม้ เท่าไหร่ก็ไม่ต้องกลัวพัง

             และแก่งที่เราจะพาไปล่องในวันนี้ เป็นลำห้วยแม่กลอง ต้นน้ำของแม่น้ำแม่กลองอีกที ซึ่งสายน้ำนี้จะไหลผ่านป่าตะวันตกซึ่งมีแก่งอยู่นับร้อยๆ แก่ง ระหว่างทางล่องแก่งก็จะผ่านแก่งและน้ำตกหลายแห่งมาก หากไปเที่ยวกันหน้าฝนจะมีฝนโปรยปรายลงมาทั้งวัน ต้องใส่เสื้อกันฝนตลอดเวลา หน้าฝนน้ำมาก ตลอดทางก็จะมีน้ำตกให้เห็นนับสิบๆ แห่ง และแก่งเล็กๆ อีกหลายแห่ง

             ป่าที่อุ้มผางนับเป็นป่าที่สมบูรณ์มากๆ มีต้นไม้ใหญ่เต็มไปหมด ตลอดเส้นทางล่องแก่งจึงร่มรื่น นั่งเรือยางชมวิว 2 ฝั่งน้ำได้แบบสบายๆ โดยลักษณะของ 2 ฝั่งนอกจากเป็นป่า และมีน้ำตกแล้ว ยังมีหน้าผาสูงชันตลอดเส้นทาง นั่งเรือยางมาสักพัก ก็จะมีบ่อน้ำอุ่นบ่อใหญ่ ให้เราลงไปแช่เพื่อสุขภาพ และจุดนี้ยังมีห้องน้ำไว้คอยบริการด้วย

            ล่องเรือยางกันต่ออีกสักระยะ ก็มาถึงจุดที่จะต้องเดินไปน้ำตกกันต่อ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมาแวะพักก่อนตรงจุดนี้กันก่อนเพื่อกินข้าวเอาแรง ตลอดทางเดินไปน้ำตกจะมีดอกไม้ป่ามากมายให้ได้เก็บภาพสวยๆ แม้ต้องเดินด้วยระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ก็ไม่มีช่วงเวลาที่น่าเบื่อเลย

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

               น้ำตกนางรอง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง เป็นน้ำตกขนาดกลางที่สวยงามลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ ตามชั้นหิน ไม่สูงนัก โดยในแต่ละชั้นจะมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และเล็กไว้คอยรองรับน้ำที่ไหลลงมา  น้ำตกแห่งนี้นับว่าเหมาะมากๆ กับลงเล่นน้ำ เพราะน้ำไหลเป็นทางยาว ทำให้เราสามารถเลือกเล่นน้ำได้หลายจุด และยังแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติในผืนป่าเขาใหญ่ ที่กินพื้นที่ถึง 4 จังหวัด

            น้ำตกนางรอง สามารถเล่นน้ำได้ทุกฤดูกาล ทั้งยังมีทางเดินชมธรรมชาติเข้าไปยังตัวน้ำตกชั้นบนสุดอีกประมาณ 300 เมตร โดยที่ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยไม้ป่านานาชนิด ที่แผ่กิ่งก้านปกคลุมทางเดินไว้อย่างร่มรื่นและสวยงามราวกับอุโมงค์ต้นไม้ ตลอดทางเดินจึงเย็นสบาย ไม่ร้อน เรียกว่านอกจากจะได้ชมน้ำตกสวยๆ แล้ว ก็ยังได้เดินออกกำลังกายพร้อมศึกษาธรรมชาติได้ด้วย

               เมื่อมาถึงตัวน้ำตก จะได้ยินเสียงของธารน้ำไหลกับเสียงหัวเราะที่สนุกสนานของนักท่องเที่ยวมากมาย ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ด้านหน้าบริเวณที่จอดรถก็มีร้านค้าไว้คอยบริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งร้านขายของฝากด้วย อย่างพวกผลไม้แช่อิ่ม ไข่เค็มสูตรใบเตย ผ้าทอมือพื้นเมือง และอื่นๆ อีกมากมาย บริเวณด้านหน้ายังมีศาลเจ้าพ่อปลัดจ่างซึ่งเป็นศาลไม้คูณอายุกว่า 50 ปี ท่านเป็นเจ้าพ่อที่ดูแลเขาใหญ่ตามความเชื่อของชนพื้นเมืองในอดีต และเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธา

                กิจกรรมยอดฮิตในการเล่นน้ำที่นี่ก็คือ สไลเดอร์ โดยผู้เล่นจะปล่อยตัวให้ไหลไปตามสายน้ำ เหมือนกับที่สวนสนุกต่างๆ นั่นแหล่ะ แต่นี่เป็นสวนสนุกธรรมชาติ เมื่อขึ้นมาถึงน้ำตกชั้นบนสุด จะได้ยินเสียงของสายน้ำที่ไหลลงมากระทบกับแผ่นหินเสียงดังสนั่น น้ำใสมากและเย็นสดชื่น อากาศค่อนข้างชื้น บรรยากาศตรงนี้จะเย็นสบาย เพราะเต็มไปด้วยป่าไม้ดิบชื้นที่เขียวขจี

                 ที่ชั้นบนสุดของน้ำตกแห่งนี้ ยังมีสะพานเหล็กทอดข้ามลำธาร เพื่อให้เราได้ชมทิวทัศน์รอบน้ำตกอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเก็บภาพสวยๆ ได้ด้วย บนสะพานนี้อากาศดีมากๆ และยังเห็นวิวสวยได้แบบรอบทิศทาง แต่น้ำตกชั้นบนสุดจะไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำ เพราะกระแสน้ำค่อนข้างแรง และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ตลอด

                 น้ำตกนางรอง เปิดให้เข้าชมทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยช่วงที่เหมาะที่สุดในการมาเที่ยว คือช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะเราจะได้สัมผัสกับสายหมอกเหนือน้ำตกที่สวยงาม และยังสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย เพราะน้ำไม่แรงมากด้วย

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว