Categories
focus on travel

ปราสาทสัจธรรม ปราสาทไม้สวยที่สุดในประเทศไทย

                ใครที่เคยผ่านไปผ่านมาแถวพัทยาบ่อยๆ น่าจะมีโอกาสได้แวะชมความงามสุดอลังการของปราสาทไม้ริมน้ำ ที่มีทะเลเป็นฉากหลัง สุดแสนงดงามเหมือนรูปวาดที่ชื่อว่า ปราสาทสัจธรรม กันมาบ้าง แต่สำหรับใครที่อยู่ห่างไกล และชื่นชอบความงามของงานศิลปะเช่นเดียวกัน วันนี้เราขออาสาพาไปชมความมหัศจรรย์ของปราสาทไม้แกะสลักที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทยแห่งนี้กัน

            ปราสาทสัจธรรม เป็นปราสาทที่ทำด้วยไม้ทั้งหลัง ไม่มีโลหะหรือปูนเข้ามาปะปน ยกเว้นส่วนฐานที่เป็นคอนกรีต และมีการใช้ระบบเข้าเดือยไม้แบบไทย หรือใส่สลักไม้ตามภูมิปัญญาโบราณ แกะสลักด้วยลวดลายวิจิตรงดงามอยู่แทบทุกจุดของปราสาททั้งภายนอกและภายใน ตั้งอยู่บนแหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มีเนื้อที่กว่า 80 ไร่ ซึ่งนอกจากจะเป็นปราสาทไม้สวยที่สุดในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

              ชาวบ้านทั่วไปจะเรียกปราสาทแห่งนี้ว่า “วังโบราณ” บ้างก็เรียกตามวัสดุของว่า “ปราสาทไม้” สร้างโดย คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ และพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณด้วย และด้วยความที่ผู้ก่อตั้งเป็นคนที่ชื่นชอบงานสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา ภายในปราสาทสัจธรรมจึงได้แฝงเนื้อหาทางปรัชญา สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาและปรัชญาตะวันออกในฐานะเป็นเครื่องค้ำจุนโลก

              นอกจากการเดินชมความงามของปราสาทแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อตั๋วใช้บริการนั่งช้างชมปราสาทก็ได้ด้วย และก็ยังจะมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารม้าและแพะ, นั่งเรือสปีดโบท, ขี่ม้าชมปราสาท หรือ นั่งเรือขุดโบราณชมบรรยากาศสวยๆ รอบองค์ปราสาทก็ได้ ส่วนถ้าใครชอบความตื่นเต้นลุยหน่อยๆ ก็มีกิจกรรมขับรถ ATV, ยิงปืน หลังจากทำกิจกรรมเยอะจนเหนื่อยและเริ่มหิว ก็มีร้านอาหารไว้คอยบริการให้ด้วย เรียกว่าเป็นที่เที่ยวพัทยาที่ครบเครื่อง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกเพศทุกวัยเลยจริงๆ

             การเข้าชมประสาทสัจธรรมมีค่าบริการสำหรับผู้ใหญ่  500 บาท  และเด็ก  250 บาท ส่วนการเดินทาง หากมาจากพัทยาจะอยู่ห่างจากพัทยาใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าอยู่บริเวณซอยนาเกลือ 12 ตรงเข้าไปจนเกือบสุดซอย จะมองเห็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ของปราสาทอยู่ทางขวามือ

             ใครชื่นชอบความงามของไม้แกะสลักที่สวยตามแบบช่างไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ชอบการสอนเรื่องคุณธรรมผ่านศิลปะที่สวยงาม และชอบถ่ายรูปไปพร้อมๆ กัน ลองมาเที่ยวที่ปราสาทไม้สัจธรรมรับรองไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

เที่ยวปีนัง เมืองคูลๆ แห่งมาเลเซีย

                 ปีนัง เป็นเมืองเล็กๆ ในมาเลเซีย อีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวที่อยู่ใกล้บ้านเรา ซึ่งมีเสน่ห์ที่ควรไปเยือนให้ได้ สำหรับใครที่ชอบงานอาร์ต บอกเลยว่าที่นี่มีที่เที่ยวสายอาร์ตให้ชมมากมาย ทั้งยังตอบโจทย์คนชอบเที่ยวถ่ายรูปตามสถานที่เท่ๆ คูลๆ เพราะที่นี่มีเพียบเลย แม้แต่ที่พักในปีนังก็สวยและเก๋มาก มาเที่ยวแค่ไม่กี่วัน รับรองได้รูปกลับไปลงโซเชียลเยอะมาก เรามาดูกันดีกว่าว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง

พิพิธภัณฑ์คฤหาสน์ปีนังเปอรานากัน
ที่เที่ยวปีนังที่ห้ามพลาดสำหรับคนชอบถ่ายรูปสวยๆ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยเรื่องราวและสิ่งของมากมายที่เป็นเอกลักษณ์แบบ เปอรานากัน ศิลปะผสมผสานระหว่างจีนและมลายู ตั้งแต่ตัวบ้าน จนไปถึงสิ่งของต่างๆ ด้านใน ทั้งสวยงาม และละเอียดประณีตน่าประทับใจ

Blue Mansion ปีนัง
เป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่มาเที่ยวปีนังแล้วห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะด้านในมีศิลปะโบราณให้ได้ชมมากมาย การตกแต่งเป็นแบบสไตล์จีนตามหลักฮวงจุ้ยซึ่งมีความเก่าแก่มาก สร้างขึ้นมากว่าร้อยปีแล้ว และได้รับการบูรณะมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังคงความงามในแบบดั้งเดิมอยู่ ตัวคฤหาสน์เป็นสีน้ำเงินครามทั้งหลัง ส่วนด้านในก็มีของเก่าแก่มากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเลย

โกดัง 35@Jetty Avenue
แหล่งรวมสินค้าแฮนด์เมดที่เน้นแต่เรื่องอาร์ตๆ คูลๆ มาไว้ที่นี่ ทั้งยังมีคาเฟ่เท่ๆ และสินค้าเก๋ๆ ขาย อย่างพวกผ้าโพกผม กระเป๋าแฮนด์เมด หรืองานเพนต์ต่างๆ แต่ราคาก็ออกจะสูงหน่อย ใครชอบงานศิลปะ และของที่ทำมือจริงๆ มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน

สตรีทอาร์ตปีนัง
อีกหนึ่งไฮไลท์เมื่อมาเที่ยวปีนัง คือการเก็บภาพถ่ายตามสตรีทอาร์ต ซึ่งมีอยู่มากมายเต็มไปหมด บอกเลยว่าหาไม่ยาก เพราะเดินไปทางไหนก็เจอทั่วเมือง แต่ถ้าใครอยากได้ภาพไฮไลท์จริงๆ ก็อาจทำการบ้านมาก่อนว่ามันอยู่ตรงจุดไหนกันบ้าง แต่ก็หาไม่ยากเช่นกัน เพราะพิกัดอยู่ไม่ไกลกัน เดินไปถ่ายไปหาไปได้สบาย

ปีนังฮิลล์
เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวปีนังที่ต้องไปให้ได้ ใครเคยเห็นในรูปว่าสวยมากแล้ว แต่ของจริงสวยกว่ามาก ทั้งวิวทิวทัศน์ และบรรยากาศธรรมชาติเขียวขจีสุดสดชื่น เรียกว่าปังสุดๆ ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมาก

               เห็นไหมล่ะว่าแม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ปีนังก็ทำให้ประทับใจได้ไม่น้อยเลย นอกจากที่เที่ยวจะดีงามแล้ว ของกินก็อร่อย ผู้คนก็น่ารัก ที่พักก็สวย ถ้าใครได้มาซักครั้งจะต้องมีไปซ้ำกันอีกแน่ๆ เพราะที่ยกตัวอย่างมานี้ยังน้อยนิด ยังมีอีกหลายสถานที่ให้ได้ไปสัมผัสกับความงามของปีนัง

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

อุทยานแห่งชาติปางสีดา แหล่งโอโซนสระแก้ว

                อุทยานแห่งชาติปางสีดา ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว ถือเป็นอุทยานที่น่าสนใจสำหรับใครที่ชอบดูชีวิตสัตว์ป่า เพราะที่นี่เค้ามีสัตว์ป่าหายากและนกสวยๆ ให้ดูกว่า 300 ชนิด ทั้งนกยูง นกเงือก และนกอื่นๆ ส่วนสัตว์ป่าที่พบได้ในบริเวณนี้ คือ ช้างป่า เก้ง กวาง กระทิง หมูป่า รวมทั้งผีเสื้อหลากหลายสีสันที่มีอยู่อย่างหนาแน่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน จะมีผีเสื้อมาให้ชมมากเป็นพิเศษ และมีมากกว่า 350 ชนิด

                สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ของ อุทยานแห่งชาติปางสีดา มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ปกคลุมไปด้วยผืนป่า ทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง จึงเหมาะแก่การมาศึกษาเรื่องสัตว์ป่าเป็นอย่างยิ่ง ภายในอุทยานฯ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยๆ ให้ได้ชมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกปางสีดา

น้ำตกผาตะเคียน น้ำตกลานหินดาด น้ำตกแควมะค่า น้ำตกลานหินใหญ่ น้ำตกรากไทรน้อย น้ำตกถ้ำค้างคาว ห้วยน้ำเย็น ทุ่งหญ้าบุตาปอด รวมถึงจุดชมวิวที่มีลักษณะเป็นหุบเขากว้าง มีทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้เป็นอย่างดี

               ไฮไลท์อย่างหนึ่งของที่นี่คือ เทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีในช่วงต้นเดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม  โดยในงานจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น ขบวนแห่หุ่นผีเสื้อ การประกวดหุ่นผีเสื้อ และกิจกรรมทำโป่งเทียมให้ผีเสื้อ เป็นต้น โดยผู้เข้าชมงานจะได้เรียนรู้กิจกรรมดูผีเสื้อ และแนะนำการถ่ายภาพผีเสื้อจากนักดูผีเสื้อ และนักถ่ายภาพมืออาชีพ ทั้งยังได้ชมนิทรรศการภาพถ่ายผีเสื้อ

และมีการพาชมผีเสื้อตามจุดต่างๆ ของอุทยานฯ อย่างใกล้ชิดด้วย ซึ่งการชมผีเสื้อควรเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าประมาณ 09.00 น. ที่แสงแดดยามเช้ายังอ่อนๆ จุดชมผีเสื้อนั้นมีด้วยกันหลายจุด โดยจุดแรกจะอยู่ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เราจึงสามารถพบเห็นผีเสื้อได้ตั้งแต่บริเวณลานกางเต็นท์ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเลย

              ส่วนจุดอื่นๆ ก็จะกระจายอยู่ภายในอุทยานฯ เช่น บริเวณน้ำตกปางสีดา น้ำตกที่ทิ้งตัวจากหน้าผาสูง 8 เมตร เบื้องล่างเป็นแอ่งน้ำกว้างใหญ่ บรรยากาศร่มรื่นและจะมีน้ำมากในช่วงฤดูฝน หากเราฉีดน้ำทิ้งสักพัก ก็จะได้เห็นผีเสื้อลงมากินเกลือแร่ และหากเดินตามน้ำตกไปก็จะพบกับผีเสื้อนานาชนิด โดยเฉพาะผีเสื้อหางติ่ง และผีเสื้อหนอนกระหล่ำ

             ที่นี่ยังมีแหล่งจระเข้น้ำจืด ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 5 กิโลเมตร นับเป็นแหล่งจระเข้น้ำจืดซึ่งเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย โดยเหล่าจระเข้จะอาศัยอยู่ในบริเวณห้วยน้ำเย็นที่มีวังน้ำขนาดใหญ่หลายแห่งด้วยกัน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

เกาะมัดสุม เกาะหมูๆ ในสุราษฎรธานี

              ถ้าจะพูดถึงเกาะในทะเล ที่มีเจ้าหมู อู้ด อู้ด อาศัยอยู่ หลายคนคงจะนึกถึงเกาะ บาฮามาส กันใช่ไหมล่ะ แต่จะมีใครรู้บ้างไหมว่า ที่ประเทศไทยก็มีเกาะหมูกับเค้าอยู่เหมือนกันนะ ถ้ายังไม่รู้วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเกาะที่ชื่อว่า เกาะมัดสุม ซึ่งอยู่ใกล้กับ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เรารู้จักกันดี โดยเกาะแห่งนี้เป็น เกาะหมู ที่มีน้องหมูอาศัยอยู่จริงๆ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไง ตามเราไปเที่ยวกันเลย

            เกาะมัดสุม หรือที่เรียกกันว่า เกาะหมู เป็นเกาะเล็กๆ ที่เราสามารถเดินเท้าจากฝากหนึ่งของเกาะไปยังอีกฝากหนึ่งได้แบบสบายๆ ทั่วทั้งเกาะเขียวขจี สดชื่นและงดงาม เพราะถูกล้อมไปด้วยใบไม้สีเขียว และทรายสีขาว รวมถึงปะการังสวยๆ พูดได้เลยว่าเกาะแห่งนี้ ช่างเหมาะแก่การมาดำน้ำ และพักผ่อนนอนชิลล์มากๆ

             ถ้าใครมาเที่ยวที่เกาะมัดสุม ยังสามารถแวะเที่ยวเกาะอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กันอย่าง เกาะแตน ได้ด้วย ส่วนเรื่องการเดินทาง หากใครอยากจะเที่ยวที่ เกาะสมุย ก่อน ก็สามารถนั่งเรือจาก เกาะสมุย มายัง เกาะมัดสุม โดยจะใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 15-25 นาที เท่านั้น เมื่อมาถึงหน้าหาด ก็จะได้เจอกับเจ้าหมูอู้ดอู้ด มารอต้อนรับอยู่เลยทีเดียว

             ขอเท้าความกันก่อนว่า น้องหมูทั้งหลายที่มาอยู่บนเกาะนี้ มาจากการที่ชาวบ้านพาขึ้นเรือข้ามเกาะมา โดยตอนแรกๆ ก็ยังผอมเพรียว แต่พอมาอยู่ที่นี่ได้สักพัก ได้กินอาหารจากน้ำใจของนักท่องเที่ยวทุกวัน ก็เลยทำให้พวกมันอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นมากอย่างที่เห็น

แต่แนะนำว่าอย่าให้อาหารมากเกินไปจะดีกว่า เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องหมู เพราะตอนนี้น้องเหลืออยู่ไม่กี่ตัวแล้ว และที่ต้องแต่ขอบอกไว้อีกอย่างหนึ่งก็คือ น้องหมูที่นี่เค้าเป็นกันเองมากๆ ไม่กลัวคนเลย แถมชอบเข้าหาด้วยซ้ำ เพราะได้กินอาหารนั่นเอง

             อีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่ที่ห้ามพลาดเลย นอกจากการดำน้ำและเล่นกับน้องหมู นั่นก็คือการ พายเรือคายัก เลาะชายหาด เพราะเกาะมัดสุมมีหาดทรายสวยและกว้างมากๆ  ที่นี่ก็เลยมักจะมีเรือนักท่องเที่ยวมาจอด เพื่อแวะเที่ยวเดินเล่นชายหาดกันอยู่บ่อยๆ

และจากชายหาดนี้มองไปอีกฝั่งก็จะเห็นเกาะใหญ่ๆ อยู่ไม่ไกล ซึ่งก็คือ เกาะสมุย นั่นเอง ขากลับออกจากเกาะ ยังสามารถทัวร์รอบเกาะไปชมหน้าผาที่เป็น ผาหินตัด หินลักษณะเป็นชั้นๆ ซ้อนๆ กัน คล้ายกับ แพนเค้ก ร็อค ที่ อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช อีกด้วย

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

น้ำตกม่านฟ้า น้ำตกม่านน้ำสวย แห่งอุทยานฯ ทับลาน

              ใครที่เป็นสายลุย สายเที่ยวธรรมชาติ สายเที่ยวป่า ปีนเขา วันนี้เราจะพาไปสัมผัสกับความชุ่มฉ่ำ และเขียวชอุ่มของธรรมชาติกันที่ น้ำตกม่านฟ้า ในอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา น้ำตกสวยที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชัน จนเกิดเป็นม่านน้ำสวยงามตามชื่อ

              ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ชื่อว่าเป็นอุทยานแห่งหนึ่งที่มีบรรยากาศดีสุดๆ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน เราเลยอยากจะชวนคนที่เป็นสายเที่ยวธรรมชาติไปเดินป่า และชมความสวยงามของ น้ำตกม่านฟ้า ภายใต้การดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 13 (สวนห้อม) ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา กัน

             น้ำตกม่านฟ้า เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ไหลผ่านหน้าผาชะง่อนหินทราย โดยมีความสูงประมาณ 50 เมตร และมีความกว้างประมาณ 30 เมตร ว่ากันว่าที่นี่จะสวยที่สุดในช่วงหน้าฝน คือ ช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ของทุกปี เพราะนอกจากเราจะได้ชมความงดงามของสายน้ำที่แผ่กระจายลงมาจากหน้าผาราวกับม่านน้ำแล้ว ผืนป่าโดยรอบน้ำตกแห่งนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ เขียวขจี และชุ่มฉ่ำ พืชพรรณต่างๆ ก็เจริญงอกงามได้เป็นอย่างดี ควรหลีกเลี่ยงการมาเที่ยวในช่วงหน้าแล้ง เพราะเราอาจได้เห็นเพียงผาหินเปล่าๆ ที่ปราศจากสายน้ำ

             ถึงแม้ว่า น้ำตกม่านฟ้า จะเป็นน้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ในผืนป่า แต่รอบๆ บริเวณน้ำตกก็ยังมีแอ่งน้ำ และพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน เดินเล่น และนั่งเล่นปิ๊กนิคท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม ซึ่งภายในอุทยานฯ เองก็ได้มีการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้อย่างครบครัน ทั้งร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านขายของฝาก รวมถึงที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะพักค้างคืนด้วย

              สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางไปเที่ยวที่ น้ำตกม่านฟ้า หากนำรถส่วนตัวมาเอง ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304 ไปยัง อำเภอวังน้ำเขียว เมื่อเจอทางแยกให้เลี้ยวเข้าไปในซอยเทศบาล 4 บริเวณตลาดสดศาลเจ้าพ่อ (ตลาด 79) จากนั้นก็ให้เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทาง ก็จะไปถึงยังน้ำตกม่านฟ้า ในอุทยานแห่งชาติทับลาน แต่ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่า หากขับรถยนต์เข้าไป เส้นทางจะค่อนข้างลำบากเล็กน้อย แนะนำให้ใช้รถ 4WD หรือรถกระบะจะสะดวกกว่า เมื่อเข้าไปถึง ให้จอดรถ แล้วเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงตัวน้ำตก

          ใครที่ชอบในความสดชื่นของป่าไม้สวยๆ และน้ำใสๆ อย่าลืมจัดสรรเวลาไปเที่ยวในช่วงที่น้ำยังมากอยู่ เพื่อจะได้ชมความงามของม่านน้ำแบบเต็มๆ จากน้ำตกม่านฟ้าแห่งนี้

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

“แม่กำปอง” ลองได้มาแล้วจะหลงรัก

                ปัจจุบันการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หรือการท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนต่างจังหวัด นับเป็นรูปแบบของการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากๆ โดยเฉพาะแถบจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา ป่าไม้ และธรรมชาติอันสวยงาม วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปท่องเที่ยว ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ชื่อว่า บ้านแม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆ บนเขาที่มีบรรยากาศสงบแต่สวยงาม เหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวายไปพักผ่อนอย่างแท้จริง

               หมู่บ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ออน ซึ่งเป็นอำเภอเล็กๆ อยู่รอบนอกสุดของจังหวัดเชียงใหม่ ติดกับจังหวัดลำปาง ความดีงามของที่นี่คือ มีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ รายล้อมอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัดพระธาตุดอยผาตั้ง น้ำพุร้อนสันกำแพง ถ้ำเมืองออน และน้ำตกแม่กำปอง รวมถึงหมู่บ้านโฮมสเตย์แม่กำปองเอง ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ น่ามาพักเป็นที่สุด

               ด้วยความที่ แม่กำปอง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ท่ามกลางภูเขา จึงมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก อากาศเย็นสบายตลอดปี และยังมีลำธารไหลผ่านหมู่บ้านอีกด้วย ที่พักส่วนใหญ่จึงเป็นรูปแบบโฮมสเตย์ และเกือบทุกที่จะมีลำธารไหลผ่าน เวลานอนก็จะได้ยินเสียงน้ำไหลไปจนหลับ เรื่องบรรยากาศจึงพูดได้เลยว่าดีมากๆ ใครไปก็ต้องติดใจอยากไปซ้ำอีกแน่นอน โดยเฉพาะคนที่ชอบต้นไม้ เพราะที่นี่มีป่าไม้และพรรณไม้หลากหลายให้ได้สัมผัส คนอินกับต้นไม้ต้องชอบแน่ๆ

              สำหรับประวัติความเป็นมาของ บ้านแม่กำปอง ที่นี่เค้าเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี แต่เดิมนั้นประชากรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร มีอาชีพทำสวนทำไร่ โดยเฉพาะการปลูกกาแฟ แต่พอหมู่บ้านเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และกลายเป็นหมู่บ้านเชิงอนุรักษ์ มีนักท่องเที่ยวแห่แหนกันมาเที่ยวกันมากขึ้น ชาวบ้านบางส่วนก็เลยผันตัวมาทำโฮมสเตย์ ร้านค้า และคาเฟ่ เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวกันมากขึ้นตามไปด้วย

              ในส่วนของชื่อ แม่กำปอง นั้น ก็มีที่มาจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง ออกดอกเป็นช่อสีเหลืองแดง และมักชอบขึ้นอยู่ตามริมน้ำลำธารในบริเวณนี้ มีชื่อว่า ดอกกำปอง คนในหมู่บ้านเลยตั้งชื่อหมู่บ้านตามชื่อดอกไม้ที่ว่านี้ ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ได้เป็นอย่างดี มีความเงียบสงบ อบอุ่น สวยงาม

ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ทั้งความงามของธรรมชาติ ความแปลกตาของที่พัก ความน่าลิ้มลองของอาหารและเครื่องดื่มในสไตล์ท้องถิ่น ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปใช้เวลาพักผ่อน และสัมผัสกับเสน่ห์น่ารักๆ ของหมู่บ้าน แม่กำปอง นั่นเอง

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

เที่ยวน่านแบบสโลว์ไลฟ์

               ถ้าพูดถึงการเที่ยวพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ หลายคนจะต้องนึกถึงจังหวัดทางภาคเหนือที่มีอากาศเย็นสบาย วิวสวย แถมผู้คนก็ดูอ่อนโยนเป็นมิตร และหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือที่เราอยากจะแนะนำก็คือ จังหวัดน่าน วันนี้เราจึงได้คัดสรรที่เที่ยวจังหวัดน่านในแบบสไลว์ไลฟ์มาฝาก ไปดูกันเลยดีกว่ามีที่ไหนต้องห้ามพลาดบ้าง

หมู่บ้านสปัน
หมู่บ้านเล็กกลางหุบเขาในอำเภอบ่อเกลือ ที่ตั้งอยู่ค่อนข้างสูง แต่ถึงแม้ว่าการเดินทางมาที่นี่จะค่อนข้างลำบาก แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อได้มาสัมผัสกับบรรยากาศของหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว จะรู้สึกหายเหนื่อยและคิดถูกจริงๆ ที่มา

ดอยสวนยาหลวง
ดอยชื่อแปลกหูที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก แต่ต้องบอกเลยว่า ดอยสวนยาหลวงแห่งนี้มีทะเลหมอกที่อลังการมากๆ ในหน้าฝน ซึ่งการเดินทางขึ้นไปสู่ยอดดอยจะต้องใช้รถโฟร์วิลเท่านั้น เพราะทางเป็นดินแดงและบางช่วงค่อนข้างเละ แต่นักท่องเที่ยวหลายคนก็ยินดีขึ้นไป เพื่อแลกกับวิวสวยๆ ด้านบน

ลำดวนผ้าทอ ร้านกาแฟไทลื้อ
มาเที่ยวน่านแบบสโลว์ไลฟ์ พลาดไม่ได้กับการไปชมวิวทุ่งนาเขียวขจี ซึ่งที่ร้านกาแฟไทลื้อแห่งนี้ ถือเป็นจุดเช็กอินชมวิวทุ่งนาที่สวยงามมากๆ ของเมืองน่าน มาลองสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ แล้วไปหามุมถ่ายรูปสวยๆ นั่งฟินกันได้เลย

ทุ่งนาหลังวัดภูเก็ต
อีกหนึ่งจุดเช็คอินวิวทุ่งนาที่สวยงามมากๆ ของเมืองน่านก็คือ บริเวณด้านหลังวัดภูเก็ต ในอำเภอปัว ซึ่งเป็นจุดชมวิวทุ่งนาจากมุมสูง นอกจากได้ชมวิวธรรมชาติสวยๆ แล้ว ยังได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลกันด้วย

ดอยกว่าง ร้านกาแฟบนถนนลอยฟ้าน่าน
อยากจะเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ ร้านกาแฟเด็ดๆ ถือเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดไปเช็คอินกันเด็ดขาด และไฮไลท์เด็ดของร้านกาแฟดอยกว่าง ก็คือ วิวโค้งถนนอันสวยงามของถนนลอยฟ้า พร้อมมีวิวของภูเขาที่มีสายหมอกบางๆ โอบล้อม นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชิลล์สั่งอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมชมวิวสวยๆ จากที่ร้านได้เลย

พระธาตุแช่แห้ง
ตามความเชื่อของชาวล้านนา พระธาตุแช่แห้ง เป็นพระธาตุประจำผู้ที่เกิดปีเถาะ ทั้งยังเป็นปูชนียสถานสำคัญของเมืองน่าน ที่มีอายุกว่า 600 ปี และเป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ลักษณะของเจดีย์เป็นทรงระฆัง ตกแต่งคล้ายกลีบบัว ใครที่เกิดปีเถาะแนะนำให้มาสักการะ พระธาตุแช่แห้ง กันให้ได้สักครั้ง

               ทั้งหมดที่ได้แนะนำมานี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวในแบบสโลว์ไลฟ์เพียงบางส่วนของจังหวัดน่านเท่านั้น ใครที่หลงใหลการท่องเที่ยวในสไตล์นี้ อย่าลืมหาเวลาไปสัมผัสด้วยตัวเองกันให้ได้นะ

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

แนะนำจุดกางเต็นท์ ธรรมชาติสวย วิวดีงาม ในกำแพงเพชร

                  จังหวัด กำแพงเพชร ได้ชื่อว่าเป็นพิกัดแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยมากๆ แห่งหนึ่งของประเทศไทย เพราะมีทั้ง ภูเขา น้ำตก ทะเลหมอก และอุทยานแห่งชาติสวยๆ หลายแห่ง ซึ่งถ้าหากใครอยากจะได้ชมทั้งหมดนี้ แนะนำว่าให้ไปนอนกางเต็นท์ชมวิวกันเลยจะดีที่สุด แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าต้องไปกางเต็นท์ที่ไหน วันนี้เราได้รวบรวมจุดกางเต็นท์สวยๆ ในกำแพงเพชรมาให้แล้ว

  1. อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า
    อุทยานฯ แห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าและต้นน้ำของแม่น้ำปิง ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด ทั้งยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม เพราะมีทั้งที่เที่ยวอย่าง น้ำตก ถ้ำ หน้าผา โป่ง รวมถึงหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง ที่ยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมที่นี่จึงได้กลายเป็นพิกัดกางเต็นท์ยอดฮิตในปัจจุบัน
  • น้ำตกคลองลาน
    หากใครได้มาเที่ยวที่ อุทยานแห่งชาติคลองลาน ในจังหวัดกำแพงเพชร พลาดไม่ได้ที่จะต้องไปชม น้ำตกคลองลาน เพราะเป็นน้ำตกที่มีความสูงกว่า 100 เมตร และกว้างถึง 40 เมตร เลยทีเดียว ทั้งยังมีบริเวณของแอ่งน้ำขนาดใหญ่ไว้ให้เราได้ลงเล่นน้ำกันแบบชิลล์ๆ รวมถึงมีจุดเช็คอินถ่ายรูปเก๋ๆ อย่าง สะพานที่อยู่รอบน้ำตก ภายในอุทยานฯ ยังมีทั้งบ้านพัก และจุดกางเต็นท์ไว้คอยบริการด้วย ใครอยากไปนอนค้างคืนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ต้องมาให้ได้เลย
  • คลองสวนหมาก
    นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวกำแพงเพชรบนพื้นที่ริมคลองสวยๆ และเงียบสงบ ให้เราสามารถไปนอนกางเต็นท์ได้แบบชิลล์ๆ หรือจะมาปิคนิคก็ได้เช่นกัน ซึ่งคลองแห่งนี้เปรียบเหมือนสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่มายาวนาน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ แก่งร้อยเกาะ ที่ล่องแก่งสุดมันส์ของที่นี่อีกด้วย
  • อ่างเก็บน้ำคลองน้ำไหล
    ลองได้ชื่อว่าเป็น อ่างเก็บน้ำ ก็ต้องมีวิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ ให้เราได้เข้าไปกางเต็นท์นอนกันแน่ๆ อ่างเก็บน้ำคลองน้ำไหล แห่งนี้ก็เช่นกัน เพราะที่นี่เป็นจุดชมวิวสวยๆ ที่เราสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด อีกทั้งยังสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากมายนอกเหนือจากการกางเต็นท์นอนชิลล์ เช่น ดูปลาที่อ่างเก็บน้ำ หรือชมวิวพระอาทิตย์สวยๆ ถือเป็นอีกพิกัด ที่ไม่ควรพลาดของกำแพงเพชร

                  ได้พิกัดกางเต็นท์กันไปแล้ว วันหยุดนี้หากไม่อยากจะไปท่องเที่ยวแบบเบียดเสียดผู้คนกันเหมือนเคย ก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานอนกางเต็นท์สงบๆ สูดอากาศดีๆ พร้อมชมวิวสวยๆ ของแหล่งน้ำ ทิวเขา และป่าไม้สุดร่มรื่น ที่จังหวัดกำแพงเพชรกันได้ รับรองว่าต้องติดใจจนอยากจะมารอบ 2 กันอีกแน่นอน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

10 สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช  ตอนที่ 1

          นครศรีธรรมราชเป็นเมืองโบราณที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครองและศาสนา มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติหลั่งไหลเข้ามาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก จึงถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภาคใต้ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของนครศรีธรรมราช เปิดตา เปิดใจแล้วไปเที่ยวพร้อมกันเลย

          1.วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นปูชนียสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของภาคใต้ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 1,000 ปี มีพระบรมธาตุเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า โดยองค์พระบรมธาตุ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบทรงลังกาเป็นรูประฆังคว่ำ ยอดเจดีย์เป็นทรงกรวยแหลม ส่วนปลียอดหุ้มด้วยทองคำ ประดับด้วยเพชรพลอยที่สวยงามตระการตาเป็นอย่างยิ่ง ในทุกปีสถานที่แห่งนี้จะมีประเพณีที่สำคัญคือ การแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ โดยการนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุ เพื่อเป็นพุทธบูชา

            2.วัดธาตุน้อย พ่อท่านวาจาสิทธิ์ ตั้งอยู่ใน อ.ช้างกลาง สร้างโดยพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งแดนใต้ ท่านเป็นพระนักพัฒนาที่มีคุณูปการแก่ประชาชนชาวนครศรีธรรมราชเป็นอย่างมาก ภายในวัดธาตุน้อยมีการก่อสร้างถาวรวัตถุที่สำคัญได้แก่ พระธาตุน้อยซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระสารีริกธาตุและพระสรีระสังขารของพ่อท่านคล้ายอยู่ด้านใน นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ และรูปปั้นพ่อท่านคล้ายในอิริยาบถนั่งพรมน้ำมนต์ให้เหล่าบรรดาศิษย์เพื่อความเป็นสิริมงคล

            3.ไอ้ไข่ วัดเจดีย์  ไอ้ไข่เป็นรูปไม้แกะสลักของเด็กชายอายุ 9-10 ขวบ ตั้งอยู่ในศาลาภายในวัดเจดีย์ อ.สิชล โดยเชื่อกันว่าในอดีตเป็นวิญญาณของเด็กวัด ลูกศิษย์ของหลวงปู่ทวดมาสถิตอยู่ ซึ่งไอ้ไข่เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านในละแวกใกล้วัด และด้วยชื่อเสียงของความศักดิ์สิทธิ์ของคนที่ได้มากราบไหว้ขอพร แล้วประสบความสมหวัง จึงส่งผลให้มีผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลมาขอพรกันเป็นจำนวนมาก  ทำให้ในแต่ละวันจะมีผู้คนนำสิ่งของมาแก้บน พร้อมกับจุดประทัดดังสนั่นอย่างไม่ขาดสาย

            4.บ้านคีรีวง เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา ที่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหลวงที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ในชุมชนมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นอย่างอุดมสมบูรณ์ มีอากาศที่บริสุทธิ์และมีลำธารไหลผ่าน สร้างบรรยากาศที่สดชื่นให้กับนักท่องเที่ยว หมู่บ้านคีรีวงถือได้ว่าเป็นต้นแบบของธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่มีวิถีชีวิตแบบชาวสวน ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของชาวบ้าน มีการรวมกลุ่มเพื่อทำผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน มีที่พักแบบ Homestay รวมถึงกิจกรรมต่างๆไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว เช่นการปั่นจักรยานสูดอากาศบริสุทธิ์ภายในชุมชนที่ปลอดภัยและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

          5.ตลาดย้อนยุคปากพนัง ตั้งอยู่ใน อ.ปากพนัง ริมฝั่งคลองบางฉลากซึ่งเชื่อมต่อกับแม่น้ำปากพนัง เป็นตลาดที่สร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงบรรยากาศในอดีตที่รุ่งเรืองของเมืองแห่งนี้ที่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายทางทะเลที่สำคัญ ภายในตลาดมีพ่อค้าแม่ค้าแต่งกายแบบย้อนยุค นำสินค้าต่างๆมาวางจำหน่าย มีทั้งอาหารคาวหวานแบบพื้นบ้านที่ใส่ภาชนะดินเผา ใบตอง เครื่องสานด้วยใบจาก ที่ทำให้ได้สัมผัสชีวิตแบบดั้งเดิมได้มากยิ่งขึ้น

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

ซุ้มประตูรักนิรันดร์ ที่เกาะไข่ จ.สตูล

                  ใครที่นิยมการท่องเที่ยวทะเลอันดามัน จะต้องรู้จักเกาะหนึ่งในจังหวัดสตูลที่ชื่อว่า เกาะไข่ เพราะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาก แม้จะเป็นเกาะเล็กๆ ที่ไม่มีที่พัก และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ มีเพียงธรรมชาติล้วนๆ ให้ได้สัมผัสเท่านั้น

                เกาะไข่ เป็นเกาะเล็กๆ ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล โดยอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตก 25 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างเกาะตะรุเตาและเกาะอาดัง เสน่ห์ของเกาะไข่คือ เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวนวลเนื้อละเอียด และน้ำทะเลใสสีมรกต ที่สามารถมองทะลุเห็นผืนทรายใต้น้ำได้ชัดเจน เหมาะกับคนที่ชอบเล่นน้ำ และชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของธรรมชาติกลางทะเลอันดามันไปพร้อมๆ กัน

               ทะเลรอบๆ เกาะไข่มีแนวปะการังอยู่ทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปะการังเขากวาง และเนื่องจากเป็นเกาะที่เงียบสงบมาก ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ บนเกาะ แม้แต่ที่พักก็ไม่มี ในทุกๆ ปี ช่วงเดือนพฤศจิกายนจึงมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่กันเป็นจำนวนมาก

               และจุดที่ถือเป็นไฮไลท์ของเกาะไข่แห่งนี้ก็คือ ซุ้มประตูรักนิรันดร์ ซึ่งเป็นซุ้มประตูหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีความโค้งเป็นวงใหญ่ ขนาดที่คนสามารถเดินลอดผ่านเข้าไปได้ โดยว่ากันว่า คู่รักที่มาเดินลอดผ่านซุ้มประตูรักนิรันดร์นี้ด้วยกัน จะรักกันไปตลอดโดยไม่แยกจากกัน คู่รักคู่ไหนสนใจอยากจะไปทดสอบความรักกันที่ซุ้มประตูหินธรรมชาติแห่งนี้ ก็เชิญไปพิสูจน์กันได้ แต่ขอแนะนำให้ไปช่วงสายๆ เพราะแสงอาทิตย์จะตกกระทบลงตรงซุ้มประตูพอดี ทำให้ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยงามมากๆ ได้บรรยากาศสุดๆ แต่ถ้ามาตอนบ่าย จะได้ภาพที่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เพราะแสงย้ายไปอยู่อีกฝั่งของเกาะแล้ว

                แน่นอนว่าด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติกแบบนี้ ที่นี้จึงมีกิจกรรมยอดฮิตเมื่อถึงวันแห่งความรัก นั่นก็คือจะมีการจัดงานวิวาห์บนเกาะไข่ โดยมีการจดทะเบียนสมรส และพิธีลอดซุ้มประตูหินของคู่รักมากมายที่มีความเชื่อว่าคู่รักที่ได้ลอดซุ้มประตูนี้จะสมหวังในความรัก เหมือนดั่งป้ายที่จารึกไว้ที่หน้าซุ้มประตูหินนั่นเอง

                 ส่วนเรื่องการเดินทาง ส่วนใหญ่แล้วเรือโดยสารจากเกาะตะรุเตาไปยังเกาะหลีเป๊ะมักจะวิ่งผ่านเกาะไข่ไปเลย โดยไม่จอดแวะให้ แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถเดินทางมาที่เกาะไข่ได้เอง โดยการเช่าเรือจากท่าเรือปากบารา หรือจะซื้อเป็นแพคเกจท่องเที่ยวจากเกาะหลีเป๊ะมาเที่ยวที่เกาะไข่และเกาะอื่นๆ โดยรอบก็ได้เช่นกัน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว