Category: Uncatagories

                  ใครที่เคยไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูสวนทรายที่จังหวัดเลย คงจะรู้กันดีว่าไฮไลท์ของการไปเที่ยว ณ อุทยานแห่งนี้ นอกจากการไปชมทะเลหมอกสวยๆ บน ภูสวนทราย และ ภูหัวฮ่อม แล้ว ที่นี่ก็ยังมี น้ำตกตาดเหือง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดด้วยเช่นกัน

                 น้ำตกตาดเหือง ได้ชื่อว่าเป็น น้ำตกมิตรภาพไทย-ลาว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ตั้งอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างพรมแดนไทย-ลาว มีต้นกำเนิดมาจาก ลำน้ำเหือง ก่อนจะไหลลงสู่ผาสูง 30 เมตร และมีความกว้างถึง 40 เมตร จึงดูเหมือนม่านน้ำขนาดมหึมา ที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าเขาอุดมสมบูรณ์ และต้นไม้นานาพันธุ์ ความพิเศษของน้ำตกตาดเหือง คือ เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยที่สุดในอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ใครที่ชอบความชุ่มฉ่ำของสายน้ำเย็นๆ ต้องลองหาเวลาไปชมความงามกันให้ได้ด้วยตาตัวเองสักครั้ง

                  น้ำตกตาดเหือง มีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น และมีน้ำไหลตลอดปี จึงสามารถเข้าไปชมความงามกันได้ทั้งปีไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนก็ตาม แต่ถ้าใครอยากจะไปชมกระแสน้ำที่ไหลแรงๆ แบบตระการตา ก็ต้องไปในช่วงฤดูน้ำหลาก หรือ ช่วงฤดูฝนนั่นเอง เพราะในช่วงนี้จะมีปริมาณน้ำมากเป็นพิเศษ แถมบรรยากาศรอบๆ ก็ยังร่มรื่นเป็นอย่างมาก แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ไม่แนะนำให้ลงเล่นน้ำในช่วงฤดูฝน เพราะกระแสน้ำจะแรงมาก และอาจทำให้เกิดอันตรายได้ แถมน้ำที่ตกลงมาก็อาจมีสีขุ่น ไม่ใสเหมือนปกติ

                  ส่วนใครที่ไม่ได้สนใจเรื่องความแรงของสายน้ำตกมากนัก แต่ชอบบรรยากาศเย็นๆ สบายๆ ชิลล์ๆ มากกว่า ก็ขอแนะนำให้ไปเที่ยวกันในช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือจะเป็นช่วงฤดูหนาวไปเลยก็ได้ รับรองว่าจะได้สัมผัสกับอากาศเย็นๆสบายๆ แบบเต็มอิ่ม แถมสายน้ำที่ไหลลงมาจากน้ำตกก็ยังใสและเย็น น่าดูมากกว่าด้วย ที่สำคัญกระแสน้ำในช่วงนี้จะไม่แรงมากเหมือนหน้าฝน จึงสามารถเข้าไปชมความงามของน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด จะไปปูเสื่อนั่งปิกนิกกันตรงริมน้ำตกเลยก็ยังได้

                แหล่งท่องเที่ยวน้ำตกในประเทศไทยนั้นมีมากมาย แต่ละที่ก็มีความสวยงามในแบบของตัวเอง ใครชอบแบบไหนก็เลือกเที่ยวกันได้ตามสะดวก ที่สำคัญคือต้องเที่ยวให้ปลอดภัยด้วย หากเป็นในช่วงที่น้ำหลากจะต้องระมัดระวังกันมากเป็นพิเศษ ต้องเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ หากมีประกาศเตือนเรื่องความปลอดภัย ก็ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

                   เมื่อพูดถึงเขื่อน หลายคนก็มักจะนึกถึงเขื่อนเก็บน้ำที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาลูกโตๆ อย่าง เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นต้น แต่เขื่อนที่เรากำลังจะพาไปชมนั้นต่างออกไป เพราะวันนี้เราจะพาไปที่ เขื่อนรัชชประภา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “กุ้ยหลินเมืองไทย” เลยทีเดียว

               เขื่อนรัชชประภา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคใต้ โดยถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้กั้นลำน้ำคลองแสง ถือเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ ที่ใช้ประโยชน์ทั้งด้านการชลประทาน เพาะปลูก ประมง บรรเทาอุทกภัย ผลิตไฟฟ้า แก้ไขน้ำเสีย ผลักดันน้ำเค็ม และการท่องเที่ยว โดยบริเวณพื้นที่รอบๆ ที่ตั้งอุทยานแห่งชาติเขาสก มีธรรมชาติที่สวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวชมด้วยการเดินเท้า และมีไฮไลท์คือ ดอกบัวผุด ดอกไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในโลก

                  บรรยากาศของ เขื่อนรัชชประภา ล้อมรอบไปด้วยภูเขาหินปูนน้อยใหญ่มากมาย ส่วนของตัวเขื่อนถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกบางๆ ตระการตา มองลงไปเบื้องล่างจะเห็นผืนน้ำกว้างใหญ่ใสสะอาด สีเขียวเหมือนมรกตเหมือนสีของน้ำทะเล ด้วยตะไคร่น้ำที่อยู่ใต้พื้นผิวน้ำนั่นเอง

                  ที่เขื่อนแห่งนี้ยังจุดบริการนักท่องเที่ยวลงเรือ ซึ่งก็มีมุมให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย และยังมีห้องน้ำ ร้านค้าสวัสดิการ ไว้คอยบริการ ส่วนค่าบริการเรือก็อยู่ที่ประมาณลำละ1,500-2,000 บาท นั่งได้ตั้งแต่ 5-15 คน ใช้เวลาไป-กลับรวม 3 ชม. แล้วแต่สภาพอากาศ และความต้องการของนักท่องเที่ยวเอง ว่าจะหยุดชมทัศนียภาพตามจุดต่างๆ กันนานแค่ไหน โดยที่เรือจะมีเสื้อชูชีพให้ใส่ทุกคน เส้นทางที่เรือแล่นผ่าน จะมีเขาหินปูนขนาดเล็ก 3 ลูกอยู่ใกล้กัน ที่ชาวบ้านเรียกว่า “เขาสามเกลอ” ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่สวยงาม เรือจะจอดให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพ และชมธรรมชาติกันแบบเต็มอิ่ม

               นอกจากการท่องเที่ยวทางน้ำแล้ว ที่นี่ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางบก หรือการเดินป่า ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักด้วย โดยจะเป็นการเดินเท้าชมความงามของพื้นที่รอบๆ ที่ตั้งอุทยานแห่งชาติเขาสก ได้แก่ น้ำตกต่างๆ และดอกบัวผุด ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และมีกระจายอยู่ในหลายพื้นที่บนเขาสก โดยดอกบัวจะผลัดเปลี่ยนกันบานไปเรื่อยๆ และเนื่องจากที่นี่หาชมดอกบัวผุดได้ง่ายกว่าพื้นที่อื่นๆ จึงทำให้เขาสกมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของกิจกรรมท่องเที่ยวเดินป่าชมบัวผุดมากๆ โดยเป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มของนักท่องเที่ยวคนไทยเองและนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

                 สิ่งสวยงามบนโลกนี้ เกิดขึ้นได้จาก 2 วิธีการ นั่นคือ หนึ่งเกิดจากฝีมือมนุษย์สร้างขึ้น และสองเกิดจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งหลายคนเห็นแล้วต่างก็ร้องเป็นเสียงเดียวว่า Amazing! นั่นก็คือ “วนอุทยานแพะเมืองผี” นั่นเอง

                วนอุทยานแพะเมืองผี เป็นอุทยานที่มีชื่อเสียงในจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ เกิดจากสภาพภูมิประเทศซึ่งเป็นดินและหินทรายถูกกัดเซาะตามธรรมชาติ จนเกิดเป็นรูปร่างต่างๆ ที่สวยงามและแปลกตา นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความสวยงามด้านธรณีวิทยา หน้าผา เสาดิน และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ

                แพะเมืองผี ในสมัยโบราณนั้นเคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชาวบ้านตำบลทุ่งโฮ้ง และพื้นที่ใกล้เคียงให้ความนับถือกันมาก เพราะมีประวัติอันลึกลับที่เล่าสืบต่อกันมาว่า มียายแก่คนหนึ่งเข้าไปในป่าเพื่อหาหน่อไม้มาเป็นอาหาร แต่บังเอิญหลงเข้าไปในที่แห่งนี้ แล้วพบหลุมเงินหลุมทอง จึงเอาเงินทองใส่หาบจนเต็มแล้วหาบกลับบ้าน แต่ก็หลงไปมาอยู่ในป่าแห่งนั้น เพราะเทวดาเจ้าถิ่นไม่ให้เอาไป ยิ่งยายแก่ยกเท้าไปข้างหน้าก็ยิ่งเหมือนถอยหลัง เหมือนมีคนมาดึงหาบเอาไว้ ยายจึงตัดสินใจวางหาบไว้ที่นั่นแล้วกลับออกจากป่าไปบอกชาวบ้านให้มาดูแทน ครั้นเมื่อไปถึงเงินทองเหล่านั้นก็กลับหายไปอย่างลึกลับ ชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า “แพะเมืองผี”

                 แม้จะมีชื่อและประวัติอันน่ากลัว แต่หากได้เดินเที่ยวชมความงดงามของแพะเมืองผีโดยรอบแล้ว จะรู้สึกว่าไม่ได้น่ากลัวเลย แต่กลับทึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ทั้งเสาดิน และหินทรายที่เป็นรูปทรงต่างๆ อันเกิดจากน้ำกัดเซาะเป็นเวลานานนับร้อยปี ไม่ได้เกิดจากการแกะสลัก หรือเกิดจากฝีมือของมนุษย์

                 ยิ่งเดินชมความงามไปตามเส้นทาง ก็จะยิ่งรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่อลังการของแพะเมืองผี โดยเฉพาะเมื่อเดินทางขึ้นไปบนจุดชมวิวแล้วมองลงมา ได้เห็นแพะเมืองผีในมุมกว้าง เห็นสีน้ำตาลของหินทราย ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ และสีฟ้าของท้องฟ้า ก็ยิ่งรู้สึกได้เลยว่า เมืองไทยช่างน่ามหัศจรรย์จริงๆ

                 หากใครได้เดินทางมาแอ่วเหนือกันที่เมืองแพร่ ต้องขอบอกเลยว่าพลาดไม่ได้เด็ดขาดกับ วนอุทยานแพะเมืองผี แห่งนี้ เพราะถือเป็นความมหัศจรรย์ตามธรรมชาติ ที่ไม่ว่าจะดูจากรูปถ่ายในสื่อไหนๆ ก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความ Amazing ได้เท่ากับมาเห็นด้วยตาตัวเอง

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว