“สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” พื้นที่ชุ่มน้ำระดับชาติ บึงสำนักใหญ่” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้เข้าชมระบบนิเวศน์อันอุดมสมบูรณ์และได้ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ไปด้วยพร้อมกัน ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบลชากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยสถานที่แห่งนี้มีลักษณะเด่นคือ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความหลากหลายของพรรณไม้ท้องถิ่นภาคตะวันออกที่หายากและมีความเสี่ยงในการสูญพันธุ์กว่า 400 ชนิด มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,800 ไร่ ซึ่งเปิดรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มครอบครัว นักเรียน ผู้สูงอายุ หรือคู่แต่งงานให้เข้าชมได้ในทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ตั้งแต่เวลา 08:30 น. ไปจนถึง 16:30 น. โดยมีค่าบริการเรือท่องเที่ยว 600 บาท (ต่อ 1 ชั่วโมง) ค่าบริการเช่าจักรยาน 50 บาท (ต่อ 1 ชั่วโมง) ค่าบริการกางเต้นท์เพื่อพักแรม 50-100 บาท (ต่อ 1 คน) และค่าบริการความรู้ 20 บาท (ต่อ 1 คน)

“สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” ก่อตั้งขึ้นมาโดยองค์การสวนพฤกษศาสตร์ที่เล็งเห็นคุณค่าของพื้นที่ชุ่มน้ำที่ช่วยลดการพังทลายของชายฝั่ง เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งเติบโตของพรรณไม้ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการเข้ามาของน้ำเค็มที่มากจนขาดสมดุล จึงจัดตั้งศูนย์รวมพรรณไม้ภาคตะวันออกร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น และเสนอให้ยกระดับความสำคัญในระดับชาติ โดยมีข้อกำหนดแนวทางการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้ ตามประกาศของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เนื่องด้วยความเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ทำให้เกิดกิจกรรมท่องเที่ยวชมระบบนิเวศน์ที่น่าสนใจทั้งในทางบกและทางน้ำ นั่นคือ
- การพายเรือคายัคท่องเที่ยว
- การล่องเรือท้องแบนท่องเที่ยว
- การปั่นจักรยานท่องเที่ยว
ซึ่งสำหรับการล่องเรือท้องแบนท่องเที่ยวนั้น จะมีนักวิชาการคอยให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับสัตว์และพรรณไม้หายากต่างๆ จนจบกิจกรรม นักท่องเที่ยวจะได้ชมบรรยากาศของบึงสำนักใหญ่ หรือหนองจำรุง และป่าเสม็ดดึกดำบรรพ์ หรือป่าเสม็ดพันปี

ระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้พบกับ “หญ้าหนังหมา” หรือ “แพหนังหมา” ซึ่งเป็นแพกอหญ้าที่เกิดจากการประสานและทับถมกันเป็นชั้น มีความหนาประมาณ 50-100 เซ็นติเมตร และมีรากที่เติบโตยาวลงไปใต้น้ำกว่า 1 เมตร ทำให้มีความแข็งแรงเป็นอย่างมากจนสามารถรับน้ำหนักของคนที่เดินอยู่ด้านบนได้

นอกจากนี้ ในบริเวณเดียวกันยังมี “กระจูด” ซึ่งเป็นไม้ล้มลุกที่มีลักษณะคล้ายกับต้นกก สามารถเติบโตได้สูงกว่า 3 เมตร และพรรณไม้ต่างๆ อีกมากมาย ดังนั้น สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยี่ยมชมและศึกษาระบบนิเวศน์ของพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มาเยือนได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ และภาพบรรยากาศโดยรอบที่สวยงามเป็นอย่างมาก