ที่พักกาญจนบุรี 2021

กาญจนบุรีเรียกได้ว่าเป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศไทยที่มีความหลากหลายและครบครันเลยทีเดียวยิ่งใครที่เป็นสายธรรมชาติหรือสายกิจกรรมต้องไม่พลาด ที่สำคัญยังใกล้กรุงเทพ เดินทางสะดวกเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก และในวันนี้เราจะมาแนะนำ 5 ที่พักกาญจนบุรีสุดชิล แบบ feel good มาฝากกัน รับรองว่าบรรยากาศ และวิวทิวทัศน์ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน

1.ธาราวิลล่า รีสอร์ท เป็นวิลล่าแบบส่วนตัว ที่พักออกแบบในสไตล์โมเดิร์น มีความทันสมัยงดงามมากตั้งอยู่ในอำเภอเมือง ริมแม่น้ำแคว บรรยากาศที่นี่มีความเงียบสงบ มีห้องพักอยู่ 2 แบบ คือ One Bedroom Pool Villa และ Two Bedrooms Pool Villa ซึ่งทุกห้องจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว และยังเห็นวิวแม่น้ำแควที่สวยสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันแถมยังมีบริการรูมเซอร์วิส และที่สำคัญใครที่อยากมาพักผ่อนแบบไม่ออกไปเที่ยวไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเบื่อเพราะในรีสอร์ทมีร้านอาหาร ชื่อ Din Cafe & Restaurant ซึ่งมีมุมถ่ายรูปมากมายรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามประกอบไปด้วยโซน indoor และ outdoor ที่เห็นวิวแม่น้ำ ที่สำคัญอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมาย เรียกได้ว่าสามารถขับรถไปได้ไม่ไกลเลยทีเดียว

2.บินหลา ราฟท์ รีสอร์ต เป็นรีสอร์ทที่อยู่ริมแม่น้ำแควน้อยเช่นเดียวกัน การออกแบบมีความเรียบง่ายไปและเรียบหรู การตกแต่งแบบโค้งมนสื่อถึงภูเขาและคลื่นในแม่น้ำเรียกได้ว่ามาแล้วได้ภาพถ่ายกลับไปลงโซเชี่ยลอย่างแน่นอน และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยของที่นี่คือ การล่องแพ พายเรือคายัค ซับบอร์ด ขี่ช้าง และปั่นจักรยาน มาที่เดียวแต่คุ้มสุดๆ ส่วนที่พักจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนแพ และโซนบก มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอย่างครบครัน เป็นอีกที่พักหนึ่งที่ควรไปเยือน

3.ทรีธารา รีสอร์ต เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่อยู่ริมแม่น้ำแควน้อย บรรยากาศดี มีความร่มรื่น สวยงามและเงียบสงบ ที่พักมาในรูปแบบวิลล่าพร้อมอาหารเช้า ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม กว้างขวาง มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งวิวแม่น้ำ ห้องอาหาร นวดแผนไทย คาราโอเกะ หรือใครที่จะมาจัดเลี้ยงก็มีห้องจัดเลี้ยงให้ ที่พักทั้งรีสอร์ตมีวิลล่า ทั้งหมด 5 หลัง และ บ้านแบบหลังอีก 24 หลัง และยังมีกิจกรรมปั่นจักรยาน ที่สำคัญสามารถมองเห็นช้างออกมาเล่นน้ำฝั่งตรงข้ามอีกด้วย หรือใครที่ชอบช้างเป็นพิเศษก็สามารถข้ามสะพานเดินไปเที่ยวปางช้างได้อีกด้วย

4.บูติค ราฟท์ รีสอร์ท ริเวอร์แคว ท่ามกลางธรรมชาติ ภูเขาริมแม่น้ำแคว ที่พักเป็นแบบสไตล์บูติคเพื่อความกลมกลืนกับธรรมชาติ ถือว่ามีเอกลักษณ์มาก บริการห้องพักพร้อมอาหารเช้า และยังมีห้องพักแบบแพด้วย ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีห้องอาหาร บาร์ รูมเซอร์วิส จักรยานให้เช่า ที่สำคัญคุณยังสามารถลงเล่นน้ำที่สระหน้าที่พักได้ แต่ไม่แนะนำให้เล่นในแม่น้ำเพราะที่นี่น้ำมีความเชี่ยวมากอาจเกิดอันตรายได้ และใครที่อยากไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆก็สามารถขับรถไปน้ำตกไทรโยคน้อยได้ซึ่งอยู่ใกล้ๆที่พักเลย หรือถ้าใครอยากเที่ยวแบบเต็มอิ่มทางที่พักก็ยังมีบริการนำเที่ยวในที่ต่างๆบริเวณใกล้เคียง เช่น สุสานทหารสัมพันธมิตร ทางรถไฟสายมรณะและสะพานข้ามแม่น้ำแคว น้ำพุร้อน อีกด้วย

 5. เดอะ ริเวอร์ ไลฟ์ รีสอร์ต เป็นรีสอร์ทที่อยู่ริมแม่น้ำแควอีกหนึ่งที่ รับรองตอบโจทย์คนรักธรรมชาติเพราะมีทั้งภูเขาและสายน้ำ อากาศดี บรรยากาศเงียบสงบที่พักมีห้องพัก 3 แบบมาพร้อมกับอาหารเช้า มี เรือนแพ   ห้องลอฟต์วิวแม่น้ำและห้องมินิมอล ภายในห้องพักตกแต่งสวยงามมาก เรียกได้ว่าไม่ต้องห่วงเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครัน มีห้องอาหาร บาร์  คาราโอเกะ บริการรูมเซอร์วิส อุปกรณ์ทำบาร์บีคิว และยังสามารถลงเล่นน้ำและล่องแพ ตกปลา ทำกิจกรรมทางน้ำอื่นๆได้ มาที่เดียวสนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 ที่พักกาญจนบุรีสุดชิลแบบฟิลกู้ด รับรองว่าตอบโจทย์ทั้งคู่รัก ครอบครัว หรือแก๊งค์เพื่อน ชอบที่พักสไตล์ไหน แบบใด สามารถจดลิสต์แล้วไปพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดกันได้เลย แล้ววันหยุดที่แสนธรรมดาของคุณจะกลายเป็นวันที่มีแต่ความทรงจำดีๆอย่างแน่นอน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

จุดชมทะเลหมอกสุดฟิน เช็กอินใกล้กรุงเทพ

ช่วงสถานการณ์โคโรน่าไวรัส-2019 แบบนี้ใครหลายๆคนอาจยังไม่อยากที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไกลๆกัน แต่ในใจก็อยากจะไปเที่ยว เพื่อเป็นการผ่อนคลายหลังจากล็อกดาวน์มานาน วันนี้เราจึงมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวชมทะเลหมอกแบบฟินๆใกล้กรุงเทพกัน รับรองว่านอกจากเดินทางสะดวกแล้ว วิวธรรมชาติและทะเลหมอกก็สุดปังไม่แพ้ทะเลหมอกของภาคเหนือเลยทีเดียว

1.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

คนส่วนใหญ่นิยมมาเที่ยวที่นี่ช่วงฤดูหนาวเพราะที่นี่ใกล้กรุงเทพมาก เดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็มาถึง และยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้กับอีกมากมาย เช่น กางเต้นท์ ส่องสัตว์กลางคืน ชมวิวทะเลหมอก ชมดวงอาทิตย์ทอแสงยามเช้า ชมดอกไม้ แถมอากาศงดงาม สดชื่นเย็นสบายสุดๆ เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับการมาทำกิจกรรมผ่อนคลายกันทั้งครอบครัว

หรืออาจจะเป็นกลุ่มเพื่อนหรือคู่รัก แฟน ก็ฟินได้ไม่แพ้กัน ค่าเข้าก็ไม่แพงเพราะราคาผู้ใหญ่แค่ 40 บาทเท่านั้นเอง ส่วนเด็กก็ถูกยิ่งไปอีกเพียง 20 บาท เท่านั้น บรรยากาศดีๆแถมมีกิจกรรมให้ทำเยอะพร้อมชมทะเลหมอกแสนตระการตาแบบนี้พูดได้คำเดียวเลยว่าต้องลองมาเที่ยวดูสักครั้งในชีวิตแล้วจะไม่ผิดหวัง

2.อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว

ช่วงกลางๆปีประมาณเดือนมิถุนายนของทุกปี อุทยานแห่งชาติปางสีดาจะมีกิจกรรมการชมผีเสื้อ300กว่าชนิด ประกวดหุ่นผีเสื้อ แห่หุ่นผีเสื้อ ทำโป่งเทียมให้ผีเสื้อ และใครที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจที่นี่มีแนะนำการถ่ายภาพผีเสื้อจากนักดูผีเสื้อและนักถ่ายภาพตัวจริงเสียงจริง ที่นี่ถือเป็นแหล่งการเรียนรู้ชั้นดีเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีน้ำตกที่แสนงดงามให้ได้ชมกัน เช่น น้ำตกปางสีดา น้ำตกผาตะเคียน เป็นต้น ที่สำคัญพลาดไม่ได้กับจุดชมวิวโขดหินตามลำน้ำ น้ำตกผาหิน 3 ชั้น รับรองอากาศสดชื่น เย็นสบายฟินกลับบ้านไปตามๆกัน

3.สะพานมอญ จ.กาญจนบุรี

เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จักที่นี่กันอยู่แล้ว เพราะถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮอตฮิตที่หนึ่งของไทยเลย  รับรองว่ามาที่นี่คุณจะได้รูปกลับไปแบบลงโซเซียลไปได้เป็นปีเพราะบรรยากาศหมอกจาง ๆ ที่ลอยอยู่เหนือน้ำ มีการใส่บาตรและมีวิถีชีวิตของชาวไทยเชื้อสายมอญให้ได้สัมผัสกัน และยังมีเด็กๆที่รอถ่ายรูปและปะแป้งให้กับนักท่องเที่ยวอีก ซึ่งจะน่ารักขนาดไหนต้องลองไปสัมผัสกันเองสักครั้งในชีวิต

4.หมู่บ้านอีต่อง จ.กาญจนบุรี

หมู่บ้านเล็กอีต่อง เป็นหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขาที่แสนเงียบสงบ ควรมาสักครั้งในชีวิตแต่ระยะทางอาจไม่สะดวกมากนักแต่รับรองว่ามาแล้วจะไม่ผิดหวังกับวิวธรรมชาติและบรรยากาศรอบๆหมู่บ้านแน่นอน ที่เที่ยวมีทั้งในตัวหมู่บ้านเองและธรรมชาติรอบๆรับรองว่าคุณจะหลงรักในความธรรมดาของที่นี่ ที่สำคัญต้องไม่ลืมมาผูกป้ายตรงสะพานเป็นที่ระลึกก่อนกลับกันว่าครั้งหนึ่งคุณเป็นหนึ่งคนที่มาเยือนที่นี่ถือเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านอีต่องเลยเลยทีเดียว

5.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

ไฮไลท์ที่นี่คือความสวยงามของทะเลหมอกแบบขั้นสุด ถือว่าเป็นปลายทางของใครหลายๆคนเลยทีเดียว ที่ท่องเที่ยวใกล้ๆนั้นก็มีมากมาย เช่น สวนดอกไฮเดรนเยียขนาดใหญ่ที่นี่คนนิยมมาเที่ยวชมและแชะภาพลงโซเซียลกัน ทุ่งกังหันลม วัดต่างๆ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์  พระตำหนักเขาค้อ น้ำตก คาเฟ่น่ารักๆมากมาย และขอแอบกระซิบบอกว่าใครที่เป็นสายแอดเวนเจอร์ห้ามพลาดที่นี่ “ภูแก้ว แอดเวนเจอร์ ปาร์ค” รวมเครื่องเล่นมากมายครบจบในที่เดียว

               เรียกได้ว่าทั้ง 5 สถานที่ชมทะเลหมอกใกล้กรุงเทพที่เราได้คัดมานั้นรับรองว่าวิวธรรมชาติ บรรยากาศสวยงามไม่แพ้ภาคเหนือเลยทีเดียว บอกได้คำเดียวเลยว่าฟินขั้นสุด แถมไม่ต้องเหนื่อยในการเดินทางไกล ใครที่สนใจเที่ยวที่ไหนก็สามารถไปตามรอยกันได้เลย รับรองว่าคุณจะได้ฮีลตัวเองและได้พลังกลับมาเต็มเปี่ยมแน่นอน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

หลังจากฤดูร้อนที่แสนอบอ้าวกำลังจะผ่านไป ก็ถึงเวลาของหน้าฝนกันแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงอยากอยู่แต่ในบ้าน ไม่กล้าออกไปเที่ยวที่ไหน เพราะคิดว่าคงไม่มีที่เที่ยวหน้าฝนแน่ๆ แต่รู้หรือไม่คะ ว่าถ้าอยากจะเที่ยวหน้าฝน อยากสัมผัสกับอากาศสดชื่นเย็นสบายแบบนี้ ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการไปเที่ยวรออยู่นะคะ ใครที่กำลังนึกไม่ออกว่าหน้าฝนเที่ยวไหนดี วันนี้เรามีสถานที่ท่องเที่ยวนี้มาฝากกันค่ะ

“ไม่ต้องรอหน้าหนาว ก็เที่ยวภูทับเบิกได้นะ” เชื่อว่าสถานที่นี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ “ภูทับเบิก” จังหวัดเพชรบูรณ์ ดินแดนแห่งทะเลหมอก เหมือนอยู่บนสวรรค์ สูดโฮโซนสดชื่นได้เต็มปอด เที่ยวแบบเย็นสบายได้ตลอดทั้งปี แถมยังเที่ยวในหน้าฝนได้อีกต่างหาก เพราะความดีงามอยู่ตรงที่หน้าฝนจะมีหมอกตลอดทั้งวัน รับรองว่าบรรยากาศที่แสนเย็นสบายและความงดงามของทะเลหมอกแบบนี้จะเป็นแลนด์มาร์กที่ใหม่สำหรับใครหลายคนที่รอเที่ยวหน้าฝนกันอย่างแน่นอน

“น้ำตกเปรโต๊ะลอซู” หรือ น้ำตกรูปหัวใจ จุดหมายอยู่ที่จังหวัดตากนั่นเอง หน้าฝนชุ่มฉ่ำแบบนี้ก็ต้องยกให้น้ำตกนี่แหละ ฟินสุด ด้วยลักษณะของน้ำตกเมื่อมองขึ้นไปแล้วมีความคล้ายกับรูปหัวใจ ความสูงนี่ไม่ต้องพูดถึง น้องๆ ตึกระฟ้าในกรุงเทพเลย ใครเป็นสายเดินป่าชมธรรชาติถูกอกถูกใจแน่นอน เพราะทางเข้าน้ำตกต้องใช้เวลาเดินเข้าไปประมาณ 4 ชั่วโมง แต่รับรองว่าจะหายเหนื่อยเมื่อได้เห็นความสวยงามของน้ำตกเปรโต๊ะลอซู คุ้มค่ากับการเดินแน่นอน

เมื่อพูดถึงที่เที่ยวสุดฮิตที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ต้องมีกาญจนบุรีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหน้าหนาวและหน้าฝนจะสวยงามน่าเที่ยวมาก เพราะมีไอหมอกมาให้สัมผัสแบบฟินๆ ในยามเช้า ตกสายๆ ก็สามารถล่องแพได้อย่างสนุกสนาน ยิ่งถ้าไปกันหลายคนยิ่งสนุก มีกิจกรรมให้ทำเพียบ แถมที่พักก็มีหลากหลายให้เลือก อยากนอนแพ (ตื่นเข้ากระโดนน้ำเล่นหน้าบ้านได้เลย) หรือจะนอนบนบกก็มีให้เลือกตามความชอบ

พาไปขึ้นเหนือกันบ้างดีกว่า เพราะเมื่อยามฝนเทลงมา ภาคเหนือ ก็เป็นอีกที่ที่น่าไปท่องเที่ยวโดยไม่ต้องรอหน้าหนาว ใครที่ชอบธรรมชาติ ป่าเขา รวมไปถึงนาขั้นบันไดสวยๆ ต้องที่นี่เลย “ป่าบงเปียง” ที่อยู่ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ตอนเข้าคุณจะได้สัมผัสกับทะเลหมอก ตัดกับทุ่งนาแบบขั้นบันไดที่เรียงรายไล่ระดับอย่างสวยงาม ยิ่งอยู่สูงก็จะยิ่งมองวิวได้รอบทิศสวยงาม หลายคนไปป่าบงเปียงแล้วไม่อยากกลับเลย เพราะหลงใหลกับบรรยากาศสุดฟินแบนนี้

สำหรับใครที่ยังนึกไม่ออกว่า หน้าฝนเที่ยวไหนดี มีที่เที่ยวหน้าฝนที่ไหนบ้าง ลองให้ 4 ตัวเลือกนี้เป็นคำตอบดูค่ะ คุณอาจจะค้นพบสถานที่พักกายพักใจที่โปรดแห่งใหม่ เพื่อเติมพลังชีวิตให้กับคุณอยู่ก็ได้

cr.pic.: kapok.com, unlenlen.com, ETDguide.com

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com