แต่งไทยร่วมสมัยเที่ยวงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว
นอกจากที่จังหวัดลพบุรีที่ทุกๆปี จะต้องจัดงานประจำปีทุกปีอย่าง งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยให้นักท่องเที่ยวแต่งตัวเป็นชุดไทยสมัยก่อนแล้ว ทางจังหวัดกรุงเทพมหานครก็ได้จัดงานที่มีคอนเซ็ปต์คล้ายกับงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเหมือนกัน
นั่นคืองานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ภายในงานนี้จะถูกออกแบบให้มีความคล้ายคลึงกับงานฤดูหนาวในสมัยก่อนหรือที่เรียกว่า งานฤดูหนาวย้อนยุค จุดประสงค์ของงานนี้คือให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้เห็นถึงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของประเทศไทยหรือสยามในสมัยเมื่อคราวก่อน
งานอุ่นไอรัก คลายความหนาวที่จัดขึ้น ณ บริเวณ สนามเสือป่าและพระราชวังดุสิต เมื่อเดินผ่านจุดคัดกรองแล้ว เราจะเห็น แผนผังขนาดใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงจุดสำคัญหรือสถานที่ภายในงาน อุ่นไอรัก มีทั้งหมด 26 จุดด้วยกัน เช่น ร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ โรงพักสรรพยา เรือพระที่นั่ง ที่ได้นำมาตั้งโชว์ถึง 4 ลำ เป็นต้น
บริเวณลานกว้างหน้าพระราชวังดุสิตจะถูกจัดอย่างสวยงามด้วยดอกไม้นานาพันธุ์หลากสีสัน และจะมีจุดหนึ่งของลานกว้างนี่ที่เป็นที่สะดุดตาของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภายในงานนั้นคือ การจำลองพระที่นั่งที่มีชื่อว่า “พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์” ซึ่งพระที่นั่งของจริงจะตั้งอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เดินถัดมาอีกสักพักจะได้เจอกับพระบรมรูปทรงม้ารัชกาลที่ 5 นักท่องเที่ยวสามารถมาสักการะได้โดยที่จะมีพานดอกไม้เตรียมไว้ให้และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ตรงกลางลานจะเป็นที่จัดแสดงเรือพระที่นั่ง เช่น เรือพระที่นั่งที่มีหัวเป็นพญานาค 8 เศียร อย่างพญาอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งลำนี่จึงมีชื่อว่า “เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช”
เมื่อมีพญานาคก็ต้องมีคู่ปรับตลอดกาลอย่างพญาครุฑ เรือพระที่นั่งลำนี้มีลักษณะเด่นอยู่ที่หัวเรือโดยจะมีรูปของพญาครุฑตั้งอยู่และมีพระนารายณ์ยืนอยู่บนตัวพญาครุฑ เรือนั้นจึงมีชื่อว่า “เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ” และเรือพระที่นั่งที่เราเห็นกันบ่อยครั้งคือ “เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์”
และจุดที่ดึงดูดหรือที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอีกอย่างคือมุมตลาดไทยที่มีของทานเล่นแบบไทยแท้ตั้งอยู่ที่นี่เราจะเจอกับอาหารที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยๆ เช่น ล่าเตียง หรือภาษาชาวบ้านจะเรียกว่าหนุ่มล่าเตียงเป็นอาหารในวังจัดเป็นอาหารคาวหวานชนิดหนึ่ง ซึ่งล่าเตียง1 ชุด ราคา 60 บาท ถัดมาจะเป็นการทำขนมสัมปันนี ขนมไทยโบราณที่มีกลิ่นหอมอ่อนเพราะผ่านการอบควันเทียน
เมื่อกัดเข้าไปถึงกับละลายในปากมีลักษณะเป็นดอกไม้ขนาดเล็ก ขนมลูกชุบผลไม้ต่างๆ มีการโชว์การร้อยมาลัยแบบร้อยตุ้มสไตล์แม่หญิงในวังหลวง โชว์การปักสไบแบบย้อนยุคให้ออกมาสวยงาม สไบที่เสร็จแล้วจะมีความสวยงามละเมียดละมัยบรรจงเป็นอย่างมาก
มีการสอนทำพวงมโหตร ( พวง- มะ-โหด ) พวงมโหตรจะทำจากกระดาษหลากหลายสีสัน ถือว่าพวงมโหตรเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่เขาจะนำพวงมโหตรไปแขวนไว้ในงานบุญต่างๆ ของคนไทย เป็นภูมิปัญญาของไทยเราที่มีความสวยงามมาก
บริเวณที่อยู่ข้างจะเป็นการแสดงการทำหัวโขนที่ใช้ในการแสดงโขนต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่การแสดงโขนจะนิยมแสดงเรื่องรามเกียรติ์ . ยังมีอีกหลายร้านที่ผมยังไปไม่หมดแต่โดยรวมแล้วงานนี้นอกจากจะได้ความสนุก และความรู้แล้ว ยังจะได้ความอิ่มเอมใจกลับไปด้วย ถ้าหากสถานการณ์ดีขึ้น เราอาจจะได้เห็นงานนี้กลับมาอีกครั้ง
ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com