Categories
focus on travel

วัดไทยแต่หน้าตาเป็นโบสถ์คริสต์….ที่พระนครศรีอยุธยา

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดที่ไม่มีอำเภอเมือง เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และเรื่องมากมาย รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายที่ แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนที่มาที่นี่ต้องนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือ วัด ที่อยุธยามีวัดอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่ละที่ก็มีความน่าสนใจในแบบเฉพาะของตัวเอง อย่างเช่นวัดที่จะนำมาแนะนำวันนี้ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร….

วัดนี้เป็นวัดที่มีรูปแบบการก่อสร้างและสไลต์การตกแต่งของสองวัฒนาธรรมมาผสมผสานกันได้อย่างดี และลงตกตัวที่สุด วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร เป็นวัดไทยแต่หน้าตาเป็นโบสถ์คริสต์ เป็นวัดที่มีความสวยงามและแปลกตาเป็นอย่างมาก

ข้อมูลที่น่าสนใจของวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร

วัดนิเวศธรรมประวัติ สร้างขึ้นเมื่อปี 2421 ช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นวัด รูปทรงภายนอกของพระอุโบสถดูคล้ายกับโบสถ์คริสต์ ซึ่งหากเห็นเป็นครั้งแรกคงจะคิดว่าที่นี่เป็นโบสถ์ฝรั่งมากกว่า สถาปัตยกรรมภายนอกนั้นเป็นศิลปะแบบโกธิค มีกระจกสีประดับอย่างสวยงาม อาคารประกอบต่างๆ ภายในวัดก็เป็นสไตล์ฝรั่ง 

วัดนิเวศธรรมประวัติ นั้นอยู่บนเกาะกลางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับพระราชวังบางปะอิน เวลาเดินทางไปที่วัดแห่งนี้จะต้องข้ามฝั่งไป โดยกระเช้าสำหรับส่งผู้โดยสารประมาณครั้งละ 6-8 คน ค่าโดยสารแล้วแต่ผู้โดยสารจะบริจาคให้

เมื่อเดินทางเข้ามาในบริเวณวัด สิ่งที่พบคือภายนอกพระอุโบสถจะทาด้วยสีเหลืองสวยงาม มีโดมหอคอยปลายแหลมตามอย่างวิหารในสถาปัตยกรรมตะวันตกศิลปะแบบโกธิค (Gothic) บริเวณยอดโดมมีหอนาฬิกาและระฆังชุด เหนือขึ้นไปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

โดยด้านหน้าประตูทางเข้าอุโบสถมีมุขยื่นออกมา ลักษณะเป็นสามเหลี่ยมหน้าจั่วซ้อนกัน 2 ชั้น รอบผนังพระอุโบสถเจาะช่องหน้าต่างเป็นรูปโค้งปลายแหลม

ส่วนบริเวณท้ายพระอุโบสถเป็นหอระฆังยอดโดมลักษณะรูปกรวยแหลมสูงขึ้นไป 3 ชั้น แต่ละชั้นนั้นเจาะช่องหน้าต่างเป็นอาร์คแบบโค้งปลายแหลมไว้รอบหอระฆัง

ชั้นแรกมีการเจาะช่องหน้าต่างทั้งสี่ด้าน และวางยอดปราสาทจำลองประดับไว้ที่มุมทั้งสี่ด้าน ถัดขึ้นไปชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 เจาะช่องหน้าต่างและประดับด้วยกระจกสี 8 ด้าน

บนสุดของยอดทำเป็นโดมปลายแหลม บนหอระฆังมีเจดีย์สำริดปิดทองภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตรงผนังเบื้องล่างยอดโดมประดับด้วยนาฬิกาที่บอกเวลาเป็นเลขโรมันอีกด้วย

วัดนิเวศธรรมประวัติ มีพระประธานนามว่า พระพุทธนฤมลธรรโมภาส  ที่มีฐานชุกชีไม่เหมือนกับโบสถ์ทั่ว ๆ ไป มีลักษณะเด่นคล้ายกับที่ตั้งของไม้กางเขน มีช่องหน้าต่างที่โค้งมน ที่ฝาผนังไม่ใช่ภาพเขียนน้ำมันเหมือนทั่วไป แต่เป็นภาพที่ทำจากการประดิษฐ์จากกระจกสี เป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 5 นั่นเอง

บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถจะมีหอพระคันธารราษฎร์ ที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปยืนปางขอฝน โดยซุ้มก็เป็นสไตล์โกธิคมียอดแหลมเช่นเดียวกัน และฝั่งตรงข้ามกับหอพระคันธารราษฎร์ เป็นหอประดิษฐานพระพุทธศิลาปางนาคปรก พระพุทธรูปสมัยลพบุรี ฝีมือช่างขอมอายุนับพันปี

และเมื่อได้เดินรอบ ๆ อาคารต่าง ๆ ภายในบริเวณวัด ก็จะพบว่าทุกที่นั้นมีการออกแบบในสไตล์แบบตะวันตกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น “พระตำหนักสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ” ที่สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงผนวชและจำพรรษาที่วัดนี้เมื่อ พ.ศ.2426 รวมไปถึงกุฏิสงฆ์ และหอพระไตรปิฎก อีกด้วย

วัดนิเวศธรรมประวัติ ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยที่จอดรถวัดนิเวศธรรมประวัติจะอยู่ติดกับที่จอดรถของพระราชวังบางปะอิน การเดินทางเข้าตัววัดจะใช้การขึ้นกระเช้าไฟฟ้าข้ามแม่น้ำ

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com

Categories
focus on travel

ท่องเที่ยวและพักผ่อนที่สตรอเบอรี่ ทาวน์ (Strawberry Town) จังหวัดระยอง

สตรอเบอรี่ ทาวน์ (Strawberry Town) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ภายใต้การดูแลของบรุคไซด์ วัลเลย์ รีสอร์ท (Brookside Valley Resort) ซึ่งมีความสวยงามตามสไตล์ของตะวันตก

โดยสถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนหาความสงบสุข ขณะเดียวกันก็สามารถทำกิจกรรมผจญภัยที่สนุกสนานได้อีกด้วย

สตรอเบอรี่ ทาวน์ ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 5 ตำบลสำนักทอง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศไทย

แต่กลับมีลักษณะคล้ายกับหมู่บ้านในทวีปยุโรปเป็นอย่างมาก จึงทำให้เป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วประเทศให้เดินทางมาเยือน

สตรอเบอรี่ ทาวน์” เปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวในทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 น. ไปจนถึง 18:00 น. โดยจะมีค่าบัตรเข้าชมสถานที่ 60 บาท (ต่อ 1 คน)

นักท่องเที่ยวสามารถนำบัตรเข้าชมที่ได้รับไปใช้แลกอาหารสัตว์ได้ (ปลา กระต่าย แกะ) หรือสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่มภายในภัตตาคาร Cove B หรือร้าน Steak House เมื่อมียอดบิลครบ 300 บาทขึ้นไป และจะต้องใช้บัตรเข้าชมอย่างน้อย 3 ใบในการใช้แลกส่วนลดดังกล่าว

ภายในบริเวณของสตรอเบอรี่ ทาวน์ ได้มีการแบ่งพื้นที่จัดแสดงเป็น 5 ส่วน ได้แก่ 

1. Holland Village เป็นหมู่บ้านฮอลแลนด์ที่ได้รับการตกแต่งให้มีลักษณะคล้ายกับหมู่บ้านในยุโรป  

2. Uncle Sam’s Farm หรือฟาร์มลุงแซม เป็นฟาร์มที่มีการเลี้ยงแกะ นักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหารให้กับแกะเหล่านี้ได้ด้วย 

3. Fountain of Season หรือน้ำพุแห่งฤดูกาล มีรูปสลักของเทพธิดาทั้ง 4 ฤดูกาลถือเหยือกและเทน้ำศักดิ์สิทธิ์ลงมาเป็นขั้นบันได 5 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะมีข้อความสลักไว้ ได้แก่ ความสุข ความมั่งคั่ง ความสำเร็จ ความรัก และความอุดมสมบูรณ์ เพื่อเป็นการอวยพร นักท่องเที่ยวมักจะโยนเหรียญลงไปในอ่างบน้ำชั้นบนเหนือเทพธิดา เพื่ออธิษฐานของพรในเรื่องโชคลาภ ความรัก การเรียน และหน้าที่การงาน

4. Dutch Costume เป็นร้านที่ให้บริการเช่าชุดประจำชาติของชาวดัตช์ ภายในร้านจะมีการทำฉากพื้นหลังเป็นลวดลายต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่สวมใส่ชุดชาวดัตช์ได้ถ่ายรูปกับพื้นหลัง พร้อมกับของตกแต่งต่างๆ เพื่อบันทึกภาพของความทรงจำที่งดงงามเหล่านี้

5. Souvenir Shop เป็นร้านค้าที่จำหน่ายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสตรอเบอรี่ ทาวน์ ได้แก่ เสื้อ กระเป๋า รองเท้า หมวก พวงกุญแจ ร่ม สมุด และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสตรอเบอรี่

นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ สามารถพักผ่อนได้ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติโดยรอบที่บริสุทธิ์ หมู่บ้านที่ตกแต่งได้อย่างสวยงาม มีกิจกรรมที่หลากหลายให้เข้าร่วม และที่สำคัญ นักท่องเที่ยวสามารถเก็บภาพความทรงจำพร้อมกับสวนดอกไม้ที่สวยงามได้ภายในสถานที่ดังกล่าว

Categories
focus on travel

“เนินนางพญา” จุดพักชมวิวที่ขึ้นชื่อที่สุดในจังหวัดจันทบุรี

“เนินนางพญา” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แลนด์มาร์กที่สำคัญของจังหวัดจันทบุรี มีลักษณะเป็นจุดพักชมวิวที่ขึ้นชื่ออีกที่หนึ่งในภาคตะวันออก ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยงานเทศบาลตำบลสนามไชย และหมวดบำรุงทางหลวงชนบท เฉลิมบูรพาชลทิต (กรมทางหลวงชนบท) จังหวัดจันทบุรี โดยเปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มครอบครัว เยาวชน ผู้สูงอายุ หรือคู่แต่งงานให้เข้าชมได้โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งที่เดินทางมาจากในประเทศและที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 

“เนินนางพญา” อยู่ในพื้นที่ของหมู่ที่ 7 บ้านท่าแคลง เฉลิมบูรพาชลฑิต ตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี โดยจะเปิดทำการในทุกวัน (วันจันทร์-วันอาทิตย์) ตั้งแต่เวลา 05:00 น. ไปจนถึง 00:00 น. แต่ช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวมักจะเดินทางมาเยือน คือ ช่วงเวลาระหว่าง 06.00 – 18.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะได้รับชมวิวธรรมชาติโดยรอบได้อย่างชัดเจน อีกทั้งในบริเวณดังกล่าวยังมีที่จอดรถ ร้านอาหาร และร้านค้าสวัสดิการต่างๆ ไว้สำหรับบริการให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

จุดพักชมวิวบนเนินนางพญา มีลักษณะเป็นหน้าผาที่มีความสูงชันมาก จึงมีการกั้นรั้วเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ริมทะเลที่อยู่ระหว่างปากอ่าวคุ้งกระเบนและหาดคุ้งวิมาน โดยมีถนนเลียบทะเลที่มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 111 กิโลเมตร (จากจังหวัดระยองมาจนถึงจังหวัดจันทบุรี) เลียบทอดยาวไปจนถึงหาดคุ้งวิมาน อ่าวคุ้งกระเบน และแหลมเสด็จ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมวิวทะเลด้านข้างได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีการจัดทำเลนจักรยานไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวที่สนใจปั่นจักรยานชมวิวทะเลอีกด้วย

บนยอดของเนินนางพญาสามารถมองเห็นวิวของท้องทะเล ภูเขา และถนนลาดยางที่คดเคี้ยวไปมา ทำให้มีกิจกรรมที่สำคัญที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นั่นคือ “การคล้องกุญแจคู่รัก” เพื่อเป็นการแสดงถึงสัญญารักที่มีระหว่างกันของคู่รักที่เดินทางมาท่องเที่ยว เปรียบเสมือนการทำสัญญาให้ความรักคงอยู่ยืนยาว โดยมีท้องฟ้า ทะเล ภูเขา และธรรมชาติที่สวยงามเป็นพยานรักนั่นเอง

นอกจากการมาชมวิวท้องฟ้าและทะเลที่สวยงามแล้ว ยังมีกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนอีก นั่นคือ “การชมพระอาทิตย์ตกดินในตอนเย็น” ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมพระอาทิตย์สีแดงตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า จนกระทั่งลับหายลงไปในทะเลในที่สุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขและสวยงามเป็นอย่างมาก ทำให้ “เนินนางพญา” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนสามารถมาถ่ายภาพเก็บบรรยากาศของธรรมชาติโดยรอบได้ตลอดทั้งวัน

Categories
focus on travel

ท่องเที่ยวชมระบบนิเวศน์อันอุดมสมบูรณ์ที่ “สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” จังหวัดระยอง

“สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” พื้นที่ชุ่มน้ำระดับชาติ บึงสำนักใหญ่” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้เข้าชมระบบนิเวศน์อันอุดมสมบูรณ์และได้ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ไปด้วยพร้อมกัน ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบลชากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยสถานที่แห่งนี้มีลักษณะเด่นคือ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความหลากหลายของพรรณไม้ท้องถิ่นภาคตะวันออกที่หายากและมีความเสี่ยงในการสูญพันธุ์กว่า 400 ชนิด มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,800 ไร่ ซึ่งเปิดรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มครอบครัว นักเรียน ผู้สูงอายุ หรือคู่แต่งงานให้เข้าชมได้ในทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ตั้งแต่เวลา 08:30 น. ไปจนถึง 16:30 น. โดยมีค่าบริการเรือท่องเที่ยว 600 บาท (ต่อ 1 ชั่วโมง) ค่าบริการเช่าจักรยาน 50 บาท (ต่อ 1 ชั่วโมง) ค่าบริการกางเต้นท์เพื่อพักแรม 50-100 บาท (ต่อ 1 คน) และค่าบริการความรู้ 20 บาท (ต่อ 1 คน)

“สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” ก่อตั้งขึ้นมาโดยองค์การสวนพฤกษศาสตร์ที่เล็งเห็นคุณค่าของพื้นที่ชุ่มน้ำที่ช่วยลดการพังทลายของชายฝั่ง เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งเติบโตของพรรณไม้ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการเข้ามาของน้ำเค็มที่มากจนขาดสมดุล จึงจัดตั้งศูนย์รวมพรรณไม้ภาคตะวันออกร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น และเสนอให้ยกระดับความสำคัญในระดับชาติ โดยมีข้อกำหนดแนวทางการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้ ตามประกาศของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เนื่องด้วยความเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ทำให้เกิดกิจกรรมท่องเที่ยวชมระบบนิเวศน์ที่น่าสนใจทั้งในทางบกและทางน้ำ นั่นคือ

  • การพายเรือคายัคท่องเที่ยว
  • การล่องเรือท้องแบนท่องเที่ยว
  • การปั่นจักรยานท่องเที่ยว

    ซึ่งสำหรับการล่องเรือท้องแบนท่องเที่ยวนั้น จะมีนักวิชาการคอยให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับสัตว์และพรรณไม้หายากต่างๆ จนจบกิจกรรม นักท่องเที่ยวจะได้ชมบรรยากาศของบึงสำนักใหญ่ หรือหนองจำรุง และป่าเสม็ดดึกดำบรรพ์ หรือป่าเสม็ดพันปี  

ระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้พบกับ “หญ้าหนังหมา” หรือ “แพหนังหมา” ซึ่งเป็นแพกอหญ้าที่เกิดจากการประสานและทับถมกันเป็นชั้น มีความหนาประมาณ 50-100 เซ็นติเมตร และมีรากที่เติบโตยาวลงไปใต้น้ำกว่า 1 เมตร ทำให้มีความแข็งแรงเป็นอย่างมากจนสามารถรับน้ำหนักของคนที่เดินอยู่ด้านบนได้ 

นอกจากนี้ ในบริเวณเดียวกันยังมี “กระจูด” ซึ่งเป็นไม้ล้มลุกที่มีลักษณะคล้ายกับต้นกก สามารถเติบโตได้สูงกว่า 3 เมตร และพรรณไม้ต่างๆ อีกมากมาย ดังนั้น สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยี่ยมชมและศึกษาระบบนิเวศน์ของพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มาเยือนได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ และภาพบรรยากาศโดยรอบที่สวยงามเป็นอย่างมาก

Categories
focus on travel

วัดร่องเสือเต้น Blue Temple

เชียงราย เมืองเหนือที่มีมนต์เสน่ห์ทั้งประเพณีเก่าแก่ที่สืบต่อมายาวนาน ที่เมื่อพูดถึง หลายคนก็คงนึกถึง  วัดร่องขุ่น ไร่บุญรอด ไร่ชาฉุยฟง และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เมืองที่มีวัฒนาธรรมที่สืบทอดมายาวนาน และยังมีวัดที่มีศิลปะวิจิตรประณีตหลากวัด อย่างเช่น วัดเสือร่องเสือเต้น อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

ประวัติความเป็นมา

เดิมวัดร่องเสือเต้น นั้นเป็นเพียงวัดร้างที่มีอยู่ใกล้หมู่บ้าน และชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะ เพื่อไว้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านร่องเสือเต้น ลักษณะเด่นของวัดร่องเสือเต้นนี้ คือ วิหารวัดร่องเสือเต้น ที่ สร้างและออกแบบโดย สล่านก หรือพุทธา กาบแก้ว ศิลปินบ้านชาวเชียงรายศิษย์ก้นกุฏิของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์  วัดร่องเสือเต้น  ได้สร้างขึ้นเมื่อ 27 ตุลาคม 2548 สร้างเสร็จเมื่อ 22 มกราคม 2559 ระยะเวลาก่อสร้างนานถึง 11 ปี

ไฮไลท์ของวัดร่องเสือเต้น 

  • วิหารของวัดแห่งนี้ ใช้โทนสีที่แตกต่างไปจากทุกที่ นั่นคือโทนสีน้ำเงินฟ้ากับสีทอง ซึ่งได้มีคำนิยามถึงสีที่ทาไว้ว่าสีน้ำเงินฟ้าแทนความหมายของการขจรขจายทั่วไปเหมือนดังท้องฟ้า เป็นแนวพุทธศิลป์ที่คิดต่างและร่วมสมัย
  • อีกจุดที่จะลืมไม่ได้เลย คือ รูปปั้นพญานาคหน้าวิหาร เป็นผลงานฝีมือของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินผู้มีชื่อเสียงอีกท่าน เป็นรูปปั้นพญานาค ที่มีทำให้สัมผัสได้ถึงความดุดัน น่าเกรงขม แต่ก็มีความอ่อนช้อยวิจิตปราณีต ตามรูปแบบศิลปะล้านนา
  • ชมความสวยงามของ พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ ที่องค์เป็นมีสีขาวมุก ในพระเศียรมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ ใต้ฐานมีพระรอดลำพูน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองมากมายฝั่งอยู่ พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่หมายถึง พระพุทธเจ้าทรงเป็นมงคล เจ้าในความเป็นราชา เป็นที่พึ่งในสามโลก
  • พระอุปคุตปางจกบาตร องค์สีขาวมุก ประดิษฐานอยู่กลางวงเวียนน้ำพุหน้าโบสถ์ นั่งอยู่บนบัวน้ำ อย่างแปลกตา ที่มีความพลิ้วไหวและดู นับเป็นปางจกบาตรที่งดงาม
  • เสาประตูวัดที่ประดับด้วยองค์เทพองค์ใหญ่มีหางเป็นพญานาค ดูน่าเกรงขาม บริเวณฐานของเทพทั้งสององค์ยังมีลักษณ์เป็นเหมือนบ่อศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย

นี่เป็นอีกฟสถานที่อีกแห่งที่อยากแนะนำให้ไปแวะเที่ยวชมเมื่อคุณเดินทางไปจังหวัดเชียงราย ไปชมศิลป์ที่สวยงามและโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  และมีศิลป์ที่มีความอ่อนช้อยมากที่สุดและแปลกตาที่สุด พร้อมทั้งเข้ามากราบไหว้สักการะพระประธานที่สวยในวิหาร และสักการะพระบรมสาริกธาตุ เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองด้วยนะคะ

Categories
focus on eat

Basic Space Coffee ร้านกาแฟาสุดชิคในเมืองกรุงเก่า

มาอยุธยาคนส่วนใหญ่ก็มักมาเที่ยวชมโบราณสถาน และไหว้พระขอพรสิ่งศักสิทธิ์ และเมื่อหลังจากตะลุยไหว้พระก็ได้เวลาหาคาเฟ่เก๋ ๆ น่านั่ง เพื่อหลบร้อน บรรยากาศสบาย ชิค ๆ สำหรับใครที่ยังไม่มีร้านที่เล็งไว้ต้องขอแนะนำร้านนี้เลย Basic Space Coffee (เบสิค สเปซ คอฟฟี่) ร้านเล็ก ๆ บรรยากาศดี ๆ ริมถนน ร้านที่น่าแวะเติมคาเฟอีนร้อนและเย็นให้ร่างกายเสริมความสดชื่น  

Basic Space Coffee
Basic Space Coffee
 Basic Space Coffee

เมื่อเข้ามาภายในร้านสิ่งแรกที่จะได้สัมผัส คือ กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นชนิดที่เตะจมูกมาก ๆ เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านมีมนูของร้านที่มีหลากหลายแบบ และรสชาติที่อร่อย ทั้งเครื่องดื่ม และขนม ทำออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็น

Basic Space Coffee
Basic Space Coffee

– Iced Latte รสชาติของนมคือมันๆ แน่นๆ ผสมกับกาแฟกลิ่นเข้มๆ มีติดเปรี้ยวเพียงเล็กๆ ความหอมใช้ได้ กลิ่นออกโทนถั่วๆ

– Sunshine latte กลิ่นของ เฮเซลนัทชัดมาก มีกลิ่นของกาแฟเสริม และกลิ่นส้มเล็กน้อย

– Iced Matcha Latte กลิ่นชาใช้ได้ แต่ออกหวานไปหน่อยนึง ไม่หวานมาก หากใครไม่ทานหวานก็ลดหวานไว้ก่อนได้

– O-liang Milk เป็นเหมือนโอเลี้ยงยกล้อ ที่ใช้นมสดทำฟองนมมาใส่ กลิ่นคือ กาแฟโอเลี้ยงเลย เป็นกลิ่นคั่วแบบไหม้ๆ เอกลักษณ์ของโอเลี้ยง โดนใจสายกาแฟโบราณ เมนูนี้

– Double Choco Cookies รสชาติใช้ได้ ช็อคโกแลตหอมดี มีความหวานที่ไม่มาก เนื้อจะนิ่มๆ 

– กาแฟ Cococano เป็นน้ำมะพร้าวหอมกับเอสเปรสโซรสชาติลงตัวมาก ๆ

และ Castown โซดาคราฟ ที่ทำจากเปลือกกาแฟ หากใครยังไม่เคยลอง แวะมาที่ร้านเลยจ้า สำหรับใครที่เป็นสายกาแฟมาร้านนี้จะไม่ผิดหวังเลย

Basic Space Coffee

จุดเด่นอีกอย่างของร้าน Basic Space Coffee  คือเปิดให้บริการตั้งแต่เช้า  สำหรับบางคนที่ขับรถมไกลก็สามารถแวะเข้าไปใช้บริการได้เลยนะคะ แต่ต้องสังเกตหน่อยนะคะเพราะหน้าร้านจะมีต้นไม้เยอะ ถ้าไม่สังเกตอาจขับรถเลยได้  ลองไปกันดูนะคะ

ข้อมูลร้านทั่วไป

 แต่ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 07.30-16.00 น.

พิกัด : 2/1 ถ.ราเมศวร ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา

Facebook: Basic Space Coffee

Cr. Picture: Basic Space Coffee

Categories
focus on travel

สะพานมอญ เมืองกาญฯ

สะพานมอญ สะพานไม้ที่เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจน์บุรี สังขละบุรี สะพานไม้ที่มีความยาวและเชื่อมต่อระหว่างเขตแดนพม่า เป็นสะพานที่เชื่อมต่อวัฒนธรรมที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง ที่อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพมากนัก  

สะพานมอญ

ความเป็นมาของสะพานมอญ

สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์  ซึ่งชื่อสะพานอุตตามานุสรณ์ นั้นถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึง ท่านเจ้าอาวาส วัดวังก์วิเวการาม นามว่า หลวงพ่ออุตตมะ ผู้สร้างค่ะ

โดยสะพานไม้เป็นตัวเชื่อมของวัฒนาธรรมแห่งนี้นั้นเริ่มการสร้างตั้งแต่ปีพ.ศ. 2529 จนถึง พ.ศ. 2530 ด้วยฝีมือแรงงานของชาวมอญ มีวัตถุประสงค์เพื่อทำการค้าขาย แลกเชื่อมโยงวัฒนธรรมและประเพณีของทั้งสองเชื้อชาติ ปัจจุบันนี้นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ของจังหวัดกาญจนบุรี สะพานมอญเป็นสะพานไม้ จึงไม่อนุญาตให้นำรถวิ่งข้ามได้หากไปเที่ยวต้องจอดรถไว้ที่แล้วเดินเท้าไป

สะพานมอญ

ไฮไลท์ที่ดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม

สะพานมอญ สถานที่เชื่อมโยงวัฒนธรรม และสัมผัสได้ได้ถึงความมีเสน่ห์ของวิถีชีวิตของสองเชื้อชาติ และเป็นจุดชมวิวของเขื่อนวชิราลงกรณ์ ชมแสงแรกยามเช้าที่สวยงาม ได้ใกล้ชิดวิถีชาวบ้านกลางสายหมอก

สะพานมอญ

นั่งเรือชมโบราณสถาน เมืองบาดาล และชม วัดศรีสุวรรณ หรือ วัดกระเหรี่ยง เป็นวัดของชาวกระเหรี่ยง ที่จมอยู่ในน้ำ แต่ช่วงที่มีน้ำเยอะ จึงไม่สามารถเห็นชัดเจน  ถ้าอยากเห็นเต็มๆ ต้องเป็นช่วงเดือนเมษายนเพราะน้ำจะลด

ชมซาก วัดจมน้ำ หรือวัดวังก์วิเวการาม (เดิม)” แต่เดิมแหล่งชุมชนของชาวมอญ ตรงบริเวณที่ “สามประสบ” ซึ่งเป็นที่จบกันแม่น้ำทั้ง 3 สาย นั่นก็คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี

ลงเล่นน้ำที่น้ำตกซองกาเลีย ที่ตรงแถวสะพานแม่น้ำซองกาเลีย ทางไปด่านเจดีย์สามองค์ วิวก็สวย น้ำเย็น

สะพานมอญ

การเดินทางไปสะพานมอญ

การเดินทางโดยรถส่วนตัว :   เริ่มการเดินทางจาก อ.เมือง ไปสู่ สะพานมอญใช้ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 323 ไปทางอำเภอไทรโยค – ทองผาภูมิ ได้สักระยะก่อนถึงตัวอำเภอทองผาภูมิ เจอสามแยกเลี้ยวขวามุ่งหน้าอำเภอสังขละบุรีเมื่อผ่านอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ผ่านตัวอำเภอสังขละบุรี และข้ามสะพานซองกาเลีย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสะพานไม้ สุดซอยถึงจุดหมายสะพานมอญ

สะพานมอญ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ :  สามารถขึ้นเส้น กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ที่ขนส่งสายใต้ใหม่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อไปลงที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี แล้วต่อรถสายกาญจนบุรี – ทองผาภูมิ – สังขละบุรี เพื่อไปที่ท่ารถสังขละบุรี รวมใช้เวลาในการเดินทางตั้งแต่ตัวเมืองจนถึงสังขละบุรีประมาณ 4-5 ช.ม.

สะพานมอญ

Categories
focus on travel

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

 เมื่อมีโอกาสไปเที่ยวในจังหวัดเชียงราย มีอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำ นั่นคือ “บ้านดำ” หรือ “พิพิธภัณฑ์บ้านดำ” เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้านขนาดใหญ่ ที่อยู่ใน ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย สถานที่ที่รวบรวมงานศิลปะฝีมือของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินมีชื่อผู้ล่วงลับ

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

ความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์บ้านดำ

 บ้านดำ หรือ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ สร้างขึ้นโดย อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ลักษณะของบ้านไม้ รูปทรงแปลกตาแบบล้านนาทาด้วยโทนสีดำเกือบทุกหลังสีที่ อาจารย์ถวัลย์ โปรดปราน “พิพิธภัณฑ์บ้านดำ” จะเป็นแนวการสร้างให้มีความกับวัดร่องขุ่นของ อาจารย์เฉลิมชัย มีคำพูดไว้ว่า “เฉลิมสร้าง สวรรค์ ถวัลย์สร้าง นรก”

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

จุดเด่นและกิจกรรมที่น่าสนใจ

  • บรรยากาศโดยรอบของบ้านดำ เป็นบรรยากาศที่ร่มรื่น เย็นสบาย เราจะพบบ้านสีดำทั้งหมด ซึ่งบ้านแต่ละหลังจะแตกต่างกัน บ้านแต่ละหลังไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อพักอาศัย แต่มีไว้เพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี หรืออาจเรียกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ นั่นเอง โดยแต่ละหลังจะประดับด้วยไม้แกะสลัก ลวดลายงดงามในเอกลักษณ์และศิลปะรูปแบบล้านนา ที่ควรค่าจัดแสดงไว้ด้วย
  • ที่นี่มีจุดจัดแสดงผลงานทางศิลปะ ที่มีคุณค่าของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินผู้ล่วงลับ ตามบ้านแต่ละหลัง ทั้งงานจิตกรรม งานประติมากรรม จุดแสดงเขาและกระดูกสัตว์ชนิดต่าง ๆ
  • มีอีกหลายส่วนที่หากได้เข้าไปชมจะเพลิดเพลินแน่นอน! กับศิลปะของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี นอกจากจะมีบ้านที่สวยให้ชมแล้ว ยังมีสัตว์ อีกหลายชนิดให้ชมด้วยนะ

คำแนะนำ

พิพิธภัณฑ์ปัจจุบันมีการเรียกเก็บค่าเข้าชมสถานที่ ที่คนละ 80 บาทจากเดิมนั้นไม่ได้มีการเรียกเก็บมาตลอดแต่เนื่องจากต้องมีการดูแลบำรุงรักษาสถานที่ที่ในที่ได้รับความทรุดโทรมลง ตามกาลเวลา ทำให้ต้องได้รับการดูแลรักษา เพื่อให้รองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมผลงานอันทรงคุณ ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ให้อยู่ต่อไปได้อย่างยาวนานและขอให้ปฎิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ดังนี้

  • ไม่ที่จะไปจับสิ่งของในพิพิธภัณฑ์บ้านดำ
  • ห้ามนำไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มเข้ามาในบริเวณพิพิธภัณฑ์บ้านดำ
  • ห้ามนำสัตว์เลี้ยงไม่ว่าชนิดไหนเข้ามาในพิพิธภัณฑ์บ้านดำ
  • ห้ามส่งเสียงดังขณะเข้าชมพิพิธภัณฑ์บ้านดำ
  • ห้ามสูบบุหรี่ภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์บ้านดำ
  • ห้ามทิ้งขยะภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์บ้านดำ

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านดำ

ที่อยู่ : 414 หมู่ 13 บ้านดำ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย 57100   

เปิดเข้าชม : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ ตลอดจนวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09:00 – 17:00 น.  โทร : 0-5377-6333

หากมีโอกาสได้ไปเชียงราย อย่าลืมแวะไปชม พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ที่ที่รวมศิลปะอันมีคุณค่าที่ฝากให้ลูกหลานได้ชมกัน ถือเป็นของล้ำค่ามาก

Categories
focus on eat

โรชา คาเฟ่

rocha cafe

โรชา คาเฟ่ตั้งอยู่ที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปอำเภออุ้มผางจะมีป้ายทางเข้าอยู่ ต้องเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆประมาณ500เมตร ร้านนี้เปิดมาแล้วถึง 8 ปี เรียกว่าไม่ธรรมดาที่เปิดมานานขนาดนี้ 

โรชา คาเฟ่

โดยตัวร้านของโรชา คาเฟ่นั้นเป็นโรงนา บรรยากาศแอบเหมือนโรงนาของชาวคาวบอยเลย โรชา คาเฟ่ตั้งอยู่บนเนินกลางทุ่ง ลายล้อมไปด้วยธรรมชาติและมีจุดชมวิวบนเนินเขาแบบ360องศา ทำให้ดูโดดเด่น  เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่สวยงามมาก

โรชา คาเฟ่

ด้านในโรชา คาเฟ่จะปลูกต้นไม้และเฟิร์น การจัดสวนนั้นเป็นไม้เลื้อย ที่ขึ้นปกคลุมทั่วกำแพงตัดกันกับวิวเทือกเขาฝั่งพม่า อีกทั้งยังสามารถเดินชมสวนเล็กๆหลังร้านได้ ร้านนี้จะมีทั้งโซนภายนอกและภายใน

โรชา คาเฟ่

ภายในร้านนั้นไม่ติดแอร์ มีสองชั้นตกแต่งสไตล์ลอฟท์ แต่มีบรรยากาศที่ดูปลอดโปร่งโล่งสบายอีกทั้งยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะแยะอีกด้วย

โรชา คาเฟ่
โรชา คาเฟ่

ด้านบนจะมีห้องสวนสนุกสไตล์เรโทและอีกหนึ่งห้องที่จำลอองเหมือนเป็นโรงนา ตกแต่งด้วยพืชแห้ง มองออกไปนอกหน้าต่างคุณจะได้เห็นทุ่งเขียวขจีเกือบทุกพื้นที่ บอกเลยถ้าผ่านมาแถวนี้ต้องแวะจริงๆ แค่มาถ่ายรูปก็คุ้มแล้ว

โรชา คาเฟ่

ในส่วนของอาหารที่ร้านโรชา คาเฟ่นั้นมีจำหน่ายจะมีทั้งอาหารคาวหวาน กาแฟและเครื่องดื่มที่ทำจากผลไม้สดๆเครื่องดื่มราคาเริ่มต้นเพียง35บาท เค้กราคาเริ่มต้นที่60บาท

อาหารจานหลักที่นี้จะเน้นเป็นเมนูสปาเก็ตตี้รสชาติต่างๆ และเบอเกอร์ที่ขึ้นชื่อของที่นี้ นอกจากนั้นก็จะมีอาหารทานเล่นอย่างพวกเฟรนฟราย ไก่ทอด และอื่นๆอีกมา พูดถึงของคาวก็ต้องมีของหวานและเครื่องดื่มซึ่งก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน

โรชา คาเฟ่
โรชา คาเฟ่

ของหวานก็อาทิเช่น เครปเค้กเรนดบว์ เครปเค้กโรล ช็อกบอล และยังมีCaramel Macadamia Cheese Cakeคาราเมลและถั่วแมคคาเดเมียเกรดพรีเมี่ยมต้ดกันกับชีสเค้ก เครื่องดื่มก็จะมีทั้งชา กาแฟ โซดามิกซ์กับผลไม้ต่างๆ เช่น บ๊วยน้ำ ชาพีช

โรชา คาเฟ่เป็นร้านคาเฟ่ที่ให้บรรยากาศอันน่ารื่นรมย์ เหมือนได้มาสูดอากาศที่บริสุทธิ์ มุมสำหรับถ่ายภาพเก็บไว้เพื่อเป็นที่ระลึกนั้นก็มี

โรชา คาเฟ่

หลากหลายจุดด้วยกัน เหมาะสำหรับกลุ่มคนทุกวัย ไม่ว่าจะมาคนเดียว มากับคู่รัก พาครอบครัวมาหรือจะมาเป็นหมู่คณะก็ได้ ทางร้านยินดีต้อนรับแขกทุกท่านได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ท้าให้มาลิ้มลอง

โรชา คาเฟ่เปิดให้บริการตั้งแต่ 09:00-18.30หากท่านใดสนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจะนำกรุ๊ปทัวร์มาลงร้านที่ร้านเป็นคณะสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 091-843-7173, 086-199-8644 หรือแอดไลน์ rochacafe 

ขอบคุณรูปจาก โรชา คาเฟ่ / Rocha Cafe

Categories
focus on travel Uncatagories

แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ “อ่างเก็บน้ำเขาจุก” อ.แกลง จ.ระยอง

อ่างเก็บน้ำเขาจุก
Cr. Pic.eastern-thailandguide.com

ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผู้คนส่วนใหญ่มักจะนิยมไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากพวกเขาเหล่านั้นต้องการหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้คนที่ดำรงชีวิตอยู่ในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยมลภาวะต่างๆ เช่น มลภาวะทางเสียง มลภาวะทางอากาศ เป็นต้น แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ (Natural Attraction) จึงเป็นตัวเลือกที่สำคัญที่ทำให้ผู้คนตัดสินใจไปเยือนนั่นเอง

อ่างเก็บน้ำเขาจุก
Cr. Pic. eastern-thailandguide.com
อ่างเก็บน้ำเขาจุก
Cr. Pic. Rayonghip

เนื่องจากบริเวณโดยรอบของอ่างเก็บน้ำเขาจุกยังคงมีชุมชนที่มีชาวบ้านอยู่อาศัย มีจุดกางเต็นท์และสวนผลไม้ ทำให้ภูมิทัศน์รอบข้างยังคงมีความเขียวขจีของธรรมชาติ ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ดังกล่าว ได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นจุดแข็งของ “อ่างเก็บน้ำเขาจุก” เป็นสถานที่ที่สามารถตอบสนองความต้องการพักผ่อนให้กับผู้ที่มาเยือนได้หลากหลาย

อ่างเก็บน้ำเขาจุก
Cr. Pic. Rayonghip
Cr. Pic. Rayonghip
Cr. Pic. Rayonghip

“อ่างเก็บน้ำเขาจุก” นอกจากจะเป็นแหล่งกักเก็บน้ำแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่สร้างกิจกรรมต่างๆ ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอีกด้วย โดยในช่วงเช้าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินหรือวิ่งออกกำลังกายท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์ ในช่วงเวลากลางวัน นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมธรรมชาติรอบๆ อ่างเก็บน้ำฯ โดยมีร่มของต้นไม้ใหญ่ให้นั่งหลบแดด หรือเป็นสถานที่สำหรับนั่งปิกนิกกับคนในครอบครัว เมื่อถึงช่วงเวลาเย็นสามารถปั่นจักรยานชมวิวของอ่างเก็บน้ำฯ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเหล่าต้นไม้และภูเขาที่ล้อมรอบ โดยจะมีจุดชมวิวให้แวะพัก เพื่อเก็บภาพบรรยากาศที่สมบูรณ์และเงียบสงบอีกด้วย

อ่างเก็บน้ำเขาจุก
Cr. Pic. eastern-thailandguide.com

          แน่นอนว่า การเดินทางมายังแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาตินั้น นอกจากจะทำให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนหย่อนใจและซึมซับอากาศที่บริสุทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์แล้ว ยังเป็นการสร้างการตระหนักรู้ให้กับผู้ที่มาเยือนเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติที่เหลืออยู่อย่างจำกัด และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติ โดยที่ไม่เบียดเบียนหรือทำลายเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของมนุษย์ อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังเยาวชนรุ่นใหม่ให้ร่วมกันรักษาและฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติให้ยังคงอยู่กับคนรุ่นต่อไปได้อีกด้วย