Categories
focus on travel

ท่องเที่ยว “สะพานรักษ์แสม” ชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน

สะพานรักษ์แสม

“สะพานรักษ์แสม” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยี่ยมชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน ตั้งอยู่บริเวณลุ่มน้ำป่าชายเลน ณ คลองท่าตาโบ๊ย หมู่ที่ 2 ตำบลเนินฆ้อ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครเป็นระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเข้าชม ตั้งแต่เวลา 08:00 น. จนถึงเวลา 18:00 น. ของทุกวัน

สะพานรักษ์แสม

“สะพานรักษ์แสม” แท้จริงแล้วเป็นชื่อของสะพานแขวนสำหรับใช้ข้ามคลองท่าตาโบ๊ยที่ทอดยาวประมาณ 100 เมตร โดยมีเอกลักษณ์ที่สำคัญ คือ เป็นทางเดินไม้ที่นำแผ่นไม้มาสร้างโดยเรียงต่อกันเป็นทางเดิน สะพานรักษ์แสมแห่งนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจหลบหนีจากความเครียดหรือความวุ่นวายที่พบเจอในชีวิตประจำวัน ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีความเงียบสงบ มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งให้ความรู้นอกห้องเรียนอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการพาบุตรหลานมาเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศของป่าชายเลน และการอนุรักษ์ปูแสมของชาวบ้านในชุมชน

สะพานรักษ์แสม

นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมป่าชายเลนบนสะพานไม้ที่ทอดยาวต่อไปหลังจากที่ข้ามสะพานแขวนมาแล้ว ซึ่งจะเป็นทางเดินไม้ที่วนเป็นวงกลมที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยป่าชายเลน โดยมีระยะทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 800 เมตร ทำให้สามารถซึมซับบรรยากาศและได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เมื่อเริ่มเดินไปตามทาง นักท่องเที่ยวจะได้พบกับบรรดานก สัตว์น้ำ และธนาคารปูแสม ซึ่งเป็นโครงการที่ชาวบ้านในชุมชนร่วมกันสร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์พันธุ์ของปูแสมในพื้นที่

สะพานรักษ์แสม
สะพานรักษ์แสม

นอกจากบรรรดาสัตว์ต่างๆ ที่จะได้พบเจอแล้ว ยังมีพืชพันธุ์ไม้จำนวนมากที่เติบโตไปคู่กัน หนึ่งในพันธุ์ไม้ที่โดดเด่น นั่นคือ ต้นตาตุ่มทะเล (Blind Your Eyes) ที่มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ มักจะพบได้ตามป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ถือเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ทั้งจากใบ ยาง ราก เนื้อไม้ และเปลือกของต้นอีกด้วย

สะพานรักษ์แสม

นักท่องเที่ยวจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการเดินวนบนทางเดินไม้ครบหนึ่งรอบ ซึ่งจะมีต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่ให้ร่มเงาตามทางเดิน โดยจะมีป้ายบอกข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์ไม้แต่ละต้นให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ตามทางเดินยังมีศาลาสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้แวะนั่งพัก เพื่อเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ขับเรือผ่านไปมาในคลองท่าตาโบ๊ย และมีหอชมวิวที่ให้นักท่องเที่ยวได้เดินขึ้นไป เพื่อชมภาพจากมุมสูงของพื้นที่ และได้เก็บภาพบรรยากาศโดยรอบของสะพานรักษ์แสมอีกด้วย

Categories
focus on eat

บ้านข้าวหนม คาเฟ่ขนมไทย อยุธยากลางเมืองเก่า

บ้านข้าวหนม

สำหรับคนที่อินเลิฟกับขนมไทยทั้งแบบดั้งเดิม และแนวประยุกต์ คงน่าจะสนใจกับร้านที่จะพาไปรู้จักวันนี้ร้านคาเฟ่ขนมไทยสุดฮิตที่หลายคนดั้นด้นเดินทางไปชิมถึง กลางเมืองเก่าอยุธยา อย่างร้าน บ้านข้าวหนม ที่ต้องขับรถมาไกล แต่คุ้มค่าการมาเยือนแน่นอน

บ้านข้าวหนม

ถึงจะเป็นร้านขนมไทย แต่บรรยากาศในร้านได้ออกแบบให้ดูวินเทจโมเดิร์น ด้วยผนังอิฐสีน้ำตาล ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่กลางเมืองเก่าอยุธยา และประดับด้วยโคมไฟยาวให้ความรู้สึกทันสมัยมากขึ้น มีโต๊ะไม้เป็นที่ตั้งสำหรับขนมไทยซื้อกลับบ้าน

บ้านข้าวหนม
บ้านข้าวหนม

ในส่วนของเมนูขนมไทยโดดเด่นของบ้านข้าวหนม ได้แก่

  • ขนมตาล
  • ขนมปลาโบราณ
  • ขนมใส่ไส้
  • สัมปันนีมะพร้าวอ่อน
  • ข้าวเหนียวแดง
  • กระเช้าสีดา และอีกหลายอย่าง แต่ละวันจะไม่ซ้ำกัน
บ้านข้าวหนม

นอกจากเมนูขนมไทยแล้วยังมีเมนูประยุกต์ให้ได้ลองชิมด้วยที่ใครมาก็ต้องสั่งคือ ไอติมหลงยุค ไอศกรีมที่ท็อปด้วยฝอยทอง และทองม้วน ที่นำมิกซ์รวมกันได้อย่างลงตัว และเพิ่มเติมความอร่อยอีกด้วย ไอติมชานมอัญชัญ ไอศกรีมสีฟ้าสวยที่มีรสชาดหวานหอมสดชื่นนำมามิกซ์กินคู่กับทองม้วน อร่อยไม่แพ้กันทีเดียว

บ้านข้าวหนม

บ้านข้าวหนมนับได้ว่าเป็นคาเฟ่ขนมไทยสุดชิล  ที่ครบด้วยขนมไทยและบรรยากาศคาเฟ่แสนได้รับการออกแบบได้น่านั่งเป็นอย่างมาก ร้านก็อยู่ใจกลางเมืองและไม่ไกลจากกรุงเทพ ไม่ไปไม่ได้แล้ว

แต่ก็ที่บ้านข้าวหนมนี้ จะไม่มีที่จอดรถส่วนตัวนะคะ ต้องจอดริมถนน ถ้ามาช้าหรือช่วงที่คนเยอะก็ต้องจอดไกลหน้าร้านพอสมควรค่ะ ดังนั้นถ้าใครคิดจะมาแนะนำให้ว่าควรเป็นวันธรรมดานะจะดีกว่าวันหยุดนะคะ

ข้อมูลทั่วไปบ้านข้าวหนม อยุธยา

ที่อยู่ : ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเปิดบริการ : 08.00 – 18.00 น.
โทร : 09-7921-9465
เว็บไซต์ : บ้านข้าวหนม

Cr. Picture บ้านข้าวหนม

Categories
focus on travel

เที่ยวราคาสบายกระเป๋า…ให้มาที่ “สวนสนประดิพัทธ์”

สวนสนประดิพัทธิ์

หากจะพูดถึงสวนสนประดิพัทธ์  ทุกคนต้องนึกถึงว่าเป็นที่พักที่มีชื่อเสียงมากอีกที่หนึ่ง  ที่ใครหลายคนเรียกกันสั้นๆ  ว่า  “สวนสน”  ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่บริเวณชายหาดจะมีสนประดิพัทธ์  ซึ่งเป็นต้นสนไม้ยืนต้นสูงมาก  ต้องบอกว่าเป็นสถานที่เงียบสงบมาก  ไม่มีสิ่งวุ่นวายใจเลย 
จะเห็นได้ว่าข้าราชการทหารจะมาพักผ่อนเหมือนบ้านพักตากอากาศ  โดยมากันกับกลุ่มเพื่อนบ้าง  มาเป็นครอบครัวบ้าง  เหล่าทหารเหล่าอื่นมาบ้าง  เช่น  ทหารเรือ  ทหารอากาศ  และตำรวจ  จะมาพักกันที่นี่เพื่อผ่อนคลายจากการทำงาน  นอกจากนี้พลเรือนหรือประชาชนทั่วไปสามารถมาพักอาศัยเองได้ด้วย

สวนสนประดิพัทธ์

สวนสนประดิพัทธ์เป็นที่พักอยู่ในความดูแลของกองทัพบก  การจองบ้านพักริมชายหาดจะมีหลายโซนให้เลือก  แต่สิ่งที่น่าแตะตามากที่สุดนั่นก็คือส่วนลดในการเข้าพักที่บ้านพักนี่แหล่ะ 
ในกลุ่มพลเรือนหรือประชาชนทั่วไป  แม้กระทั่งข้าราชการทั่วไป  พนักงานทั่วไป  หรือบุคคลอาชีพอื่นๆ  จะเสียค่าบริการห้องพักเต็มราคา  ส่วนทหารบกเสียค่าธรรมเนียมห้องพัก  50%  และกลุ่มข้าราชการเหล่าอื่น  30%  ซึ่งเรียกได้ว่าใครเป็นคนมีสีถือว่าได้เปรียบในส่วนลดเลยล่ะ  แต่ไม่ได้แปลว่าคนธรรมดาทั่วไปจะพักไม่ได้นะ

สวนสนประดิพัทธ์
สวนสนประดิพัทธ์

ในโซนต่อมาเป็นบ้านทรายเงิน  ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกันกับบ้านทรายทอง  มีลักษณะบ้านพักที่สีไม่ฉูดฉาดเท่าบ้านทรายทอง  เป็นบ้านแบบ  2  ห้องนอน  1  ห้องน้ำ  จะติดกับชายหาดและใกล้สวนสนประดิพัทธ์มาก  กว่าบ้านทรายทองและมีราคาถูกกว่ากันมาก  เหมาะกับคนที่ชอบมากันเป็นกลุ่มเพื่อน  หรือครอบครัวเล็กๆ  มากกว่า

สวนสนประดิพัทธ์

ยังมีอีกโซนที่แยกกัน  เช่น  เรือนทอง  ซึ่งเป็นเรือนนอน  และยังมีห้องพักรับรองแบบปรับอากาศเพื่อเอาใจคนต้องการมาแบบส่วนตัว  หากใครได้มาที่บ้านพักตากอากาศ  จะเห็นหาดสวนสนประดิพัทธ์และเขาตะเกียบชัดเจน  เนื่องจากติดฝั่งอ่าวไทย 

นอกจากนี้มีที่หยุดรถไฟสวนสนประดิพัทธ์  มีสระว่ายน้ำ  สนามกอล์ฟ  บริการห่วงยาง  และมีร้านอาหารระเบียงสวนสน  ซึ่งเป็นห้องอาหารบริการอาหารและเครื่องดื่มอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาใช้บริการ  ส่วนถ้าใครอยากมาสามารถมาท่องเที่ยวได้  และไม่ใช่แค่มีส่วนลดสำหรับข้าราชการทหารอย่างเดียว  แต่ที่พักแห่งนี้เป็นที่พักราคาจับต้องได้มากในกลุ่มพลเรือน  เช่น  กลุ่มบ้านทรายทองคิดในราคาพลเรือนเป็นราคา  3,700 บาท/หลัง  ส่วนบ้านทรายเงินราคา  2,500 บาท/หลัง  เรียกได้ว่าราคาเข้าถึงได้ในกลุ่มพลเรือนที่อยากมาแบบส่วนตัวจริงๆ

ก่อนจากกัน  หากใครสนใจจะจองที่พัก  ให้ติดต่อที่สถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก (สวนสนประดิพัทธ์)  หรือสอบถามรายละเอียด  โทร. 032-655985-987,081-9866984, 081-9449897  โทรสาร 032-655984  สวนสนประดิพัทธ์จึงเป็นสถานที่ราคาประหยัดและที่พักเต็มเร็วมาก  หากใครจะมาขอให้มาเร็วๆ  ส่วนเรื่องโจรกรรมไม่มีเลย  เนื่องจากเป็นเขตความดูแลของทหาร  ขอรับประกันด้านความปลอดภัยเลยทีเดียว

Categories
focus on eat

เที่ยวคาเฟ่สุโก้ย (Sugoi Cafe)เหมือนได้ไปญี่ปุ่น

สุโก้ยคาเฟ่
Sugoi Cafe'

ช่วงยุคโควิดตอนนี้เราไม่สามารถไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นได้ แต่เรายังเที่ยวในประเทศได้ วันนี้เลยมีที่ๆนึงที่ทำให้เราหายคิดถึงการเที่ยวญี่ปุ่นได้บ้าง ที่ๆเราจะพูดถึงก็คือ “สุโก้ย คาเฟ่” เป็นร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น อยู่ที่จังหวัดชัยนาท ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา คาเฟ่นี้ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นตั้งแต่หน้าร้านจนถึงข้างในร้านเลย บรรยากาศตกแต่งให้ฟิวเหมือนเราไปอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ ไม่เพียงแต่แค่บรรยากาศแม้แต่วัตถุดิบทางร้านก็นำเช้าจากญี่ปุ่นด้วย

Sugoi Cafe'
Sugoi Cafe'

สุโก้ย คาเฟ่” มีทั้งโซน indoor และ outdoor แต่ที่เป็นไฮไลท์ของร้านนี้ก็คือ โซน outdoor ทางร้านจะมีโต๊ะที่นั้งพื้นเหมือนนั่งอยู่ในบ้านคนญี่ปุ่น และตกแต่งสวนด้วยสะพานข้ามน้อยๆและต้นซากุระตามแบบฉบับญี่ปุ่น ไม่เพียงแค่นี้ยังมีโซนสวยอีกเพียบสำหรับเพื่อนๆที่ชอบถ่ายรูปให้ได้เก็บบรรยากาศ ก็พอช่วยให้เรารู้สึกเหมือนเราไปญี่ปุ่นจริงๆ

Sugoi Cafe'
Sugoi Cafe'
Sugoi Cafe'
Sugoi Cafe'

สุโก้ย คาเฟ่ มีบริการทั้งอาหารคาว อาหารหวานและเครื่องดื่ม ช่วงวันจันทร์-พฤหัสเปิดบริการเช้าถึงเย็น เมนูแนะนำที่ได้กล่าวข้างต้นแล้วว่าเป็นวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่นก็คือ

  • ไดฟูกุ แล้วทานคู่กับเซตอูจิ มัทฉะ ร้อน อร่อยมาก
  • ดังโงะ คินาโกะ
  • ดังโงะ ทีรามิซึ
  • ดังโงะชาเขียว
  • ไดฟูกุ สตอเบอรี่ขาว

    ส่วนของอาหารคาวก็จะมี
  • สเต๊กหมู
  • สเต๊กไก่
  • สเต๊กปลา
  • ผักโขมอบชีส
  • มันบดและอีกมายมาย

ส่วนวันศุกร์-อาทิตย์ เปิดให้บริการจนถึง 21.00 น. ตอนช่วงเย็นก็มีชาบูบริการและทางร้านมีโฟลค์ซองเพราะๆให้ได้ฟังด้วย กินชาบูไปฟังเพลง
เพราะๆไปชิลล์มาก

Sugoi Cafe'
คาเฟ่สุโก้ย

ขอบคุณรูปสวยๆจาก สุโก้ย คาเฟ่
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดตามได้ที่ Facebook: すごい カフェ Sugoi Cafe’

Categories
focus on travel

คลายร้อนไปกับธรรมชาติที่ “น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น”

         “กาญจนบุรี” นับเป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้แบบครบรส เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ศิลปะ ประวัติศาสตร์ หรือแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอย่าง ภูเขา และล่องแพ แต่ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้เลย คือกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีน้ำตกสวยงามอลังการอยู่มากที่สุดจังหวัดหนึ่ง ทั้งน้ำตกเอราวัณ น้ำตกไทรโยค และที่เรากำลังจะพูดถึง นั่นคือ “น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น”

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

        “น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น”  ตั้งอยู่ใน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี บริเวณที่ทำการอุทยาน ริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นน้ำตกหินปูน ที่ได้ชื่อว่าสวยงามมากรองจากน้ำตกเอราวัณเลยทีเดียว ทั้งยังมีความร่มรื่น เพราะแวดล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้ป่าสารพัดชนิด เป็นน้ำตกสูง 7 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นก็มีเอกลักษณ์และความสวยงามแตกต่างกันไป นอกจากนี้ ทางเดินขึ้นไปยังน้ำตกแต่ละชั้น ทางอุทยานยังทำให้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วย

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น


       
การเดินทางไปยังน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนั้น หากเป็นเมื่อก่อน จะค่อนข้างลำบากเพราะเป็นทางลูกรัง และต้องเดินทางหลายต่อ ทำให้มีนักท่องเที่ยวน้อย แต่ปัจจุบันนี้สะดวกขึ้นมาก เพราะมีถนนลาดยางไปจนถึงน้ำตกเลย แถมบริเวณที่จอดรถยังอยู่ใกล้ทางเข้าของน้ำตกชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นที่สวยที่สุดอีกด้วย

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการแคมปิ้ง ก็มีจุดกางเต็นท์ให้ด้วยเช่นกัน โดยจะอยู่บริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 และชั้นที่ 4 ซึ่งทั้งสองจุดจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน โดยชั้นที่ 1 จะอยู่ติดกับน้ำตกเลย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนฟังเสียงน้ำตก สงบๆ ชิลๆ ส่วนชั้นที่ 4 จะเป็นจุดชมวิว มองเห็นภูเขา รวมทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้อย่างสวยงาม ก็สามารถเลือกจุดกางเต็นท์ได้ตามความชอบของแต่ละคนได้เลย

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น มีน้ำมากตลอดปี สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู แต่แนะนำว่ามาช่วงเดือนตุลาคมถึงเมษายนจะดีที่สุดเพราะเป็นช่วงฝนน้อย น้ำจะไม่ขุ่นมาก แต่ถึงแม้น้ำด้านบนจะขุ่น แต่น้ำตกที่ไหลลงมาก็ยังคงใส และสวยงามอยู่มาก
          สิ่งสำคัญของการเที่ยวอุทยานฯ คือ การรักษาความสะอาด ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้นำอาหารมากินบริเวณน้ำตกโดยเด็ดขาด แต่จะมีจุดบริการไว้ให้ เพื่อไม่ให้เกิดขยะ ที่อาจส่งผลเสียต่อธรรมชาติและสัตว์ป่าได้

Categories
focus on travel

ลานน้ำเข็ก สถานที่เล็กแต่ให้ความสุขที่ยิ่งใหญ่

เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคม สภาพอากาศในหลายๆที่ รวมถึง จังหวัดพิษณุโลก พบว่า มีอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นมากในภาคบ่าย ได้รับความร้อนกันถ้วนหน้า

ลานน้ำเข็ก

ทางจังหวัดพิษณุโลกจึงได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวคลายร้อน น้องใหม่ ที่มีขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เป็นสถานที่ไว้สำหรับผ่อนคลาย คลายร้อนได้ดี เหมาะกับการพักผ่อนเป็นครอบครัว ไม่ว่าจะมาเป็นคู่ หรือมาเป็นกลุ่มเพื่อนก็สนุกสนานได้เต็มที่

ลานน้ำเข็ก

สถานที่น้องใหม่แห่งนี้ คือ ลานน้ำเข็ก หรือเรียกอีกอย่างว่า น้ำตกแก่งซาง เป็นพื้นที่เอกชนแต่เจ้าได้ดูแลจัดสรรพื้นได้เป็นอย่างดี เจ้าของคือ
นายสราวุธ คนใหญ่ อายุ 45 ปี ข้าราชการหนุ่ม เดิมทีได้ทำสวนเกษตรอินทรีกว่า 50 ไร่ แต่ด้วยความงดงามของธรรมชาติในพื้นที่ของตัวเอง จึงอยากแนะนำให้ผู้คนได้พบเจอความสวยงามเหมือนตนเอง จึงได้ปรับ ได้ปรับปรุงพื้นที่ เปลี่ยนภูมิทัศน์ให้สวยงามมากขึ้น จนกลายเป็น ลานน้ำเข็ก-น้ำตกแก่งซาง

ลานน้ำเข็ก

จุดที่ดึงดูดความสนใจของที่นี่ มีหลายจุด จุดเรียก เรียกได้ว่า เป็นจำอำนวยการ เพราะ เป็นส่วนของการร้านอาหาร ที่เมนูพร้อมเสิร์ฟอย่างมากมาย รสชาติก็ใช้ได้เลยทีเดียว อีกทั้งส่วนด้านบนนี้ ยังเป็นที่สำหรับนักแคมป์ปิ้ง สามารถนอนพักริมน้ำ พร้อมให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนได้ดี โดยที่คุณสามารถวางใจได้ถึงความปลอดภัย เพราะ พื้นที่ส่วนนี้อีกฝากหนึ่งจะเป็นในส่วนการดูแลของกรมป่าไม้ เรียกได้ว่าเป็นการดูแลร่วมกันและยังคงไว้ซึ่งความสวยงามด้วย

ลานน้ำเข็ก

ถัดลงมาอีกนิด จุดนี้ เรียกว่า จุดเด็กหรือจุดปลอดภัย เป็นบริเวณที่เป็นตัวน้ำตก จะพบกับจุดเล่นน้ำพร้อมแคร่นั่งสีเหลือง จุดนี้เหมาะสำหรับเด็ก สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย เพราะจะเป็นลานน้ำขนาดใหญ่ ที่เป็นแผ่นหินมีน้ำไหลผ่านประมาณ 30 ซม.

ลานน้ำเข็ก

ถัดลงมาอีกนิด  จุดนี้เรียกได้ว่า เป็น จุดธรรมชาติบำบัด จะเป็นน้ำตกเล็กๆ เหมาะกับการทำสปาธรรมชาติ เนื่องจากเป็นน้ำที่ไหลลงจากโขดหินเป็นลานกว้าง เหมาะสำหรับการนั่งผ่อนคลาย เหมือนได้มาทำสปา แต่เป็นสปาในธรรมชาติที่ทำให้จิตใจสงบ ร่มเย็นขึ้นมา

ลานน้ำเข็ก

ขอบอกว่า ที่นี่น้ำมีทั้งปี เพราะสถานที่นี้เป็นตาน้ำจากธรรมชาติที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ผิวดิน  น้ำจึงไม่มีวันแห้ง สำหรับใครที่สนใจอยากจะมาสัมผัสธรรมชาติ เล่นน้ำคลายร้อน ที่ลานน้ำเข็ก-น้ำตกแก่งซาง หรือมาตั้งแคมป์ปิ้ง ก็สามารถมาได้ตลอดทั้งปี 

ลานน้ำเข็ก

การเดินทางก็สะดวกสบาย หากมีรถส่วนตัวสามารถขับมาเองตาม อยู่ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลกเพียง 49 กิโลเมตร เส้นทางถนนหมายเลข 12 (มุ่งหน้านครไทย) กลับรถตรงตลาดทรัพย์ไพรวัลย์จะเจอลานน้ำเข็ก-น้ำตกแก่งซางอยู่ทางซ้ายมือ หรือหากนั่งรถประจำทางก็ขึ้นสาย พิษณุโลก-นครไทย ลงตลาดทรัพย์ไพรวัลย์แล้วเดินต่อไปอีกไม่ไกล

สอบถามเพิ่มเติม ที่ 081-8326555


Categories
focus on rest

บ้านพักหาดส่วนตัว@บ้านริมทราย รีสอร์ท

บ้านริมทราย
บ้านริมทราย
บ้านริมทราย

บ้านริมทราย รีสอร์ท ระยองตั้งอยู่ที่อำเภอแกลง ห่างจากกรุงเทพฯเพียงแค่200กิโลเมตรเท่านั้น โดยบ้านพักจะเป็นบ้านพักแบบติดทะเลมีชายหาดเป็นโซนส่วนตัว แต่ว่าไม่มีสระว่ายน้ำไม่มีห้องสัมมนาใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้บ้านริมทรายรีสอร์ทเหมาะสำหรับที่จะมาเป็นครอบครัว หมู่คณะเพราะทางรีสอร์ทมีการจัดกิจกรรมฟุตบอล วอลเลย์บอลชายหาด บานาน่าโบ๊ทและมีบริการนั่งเรือชมปะการังอีกด้วย ซึ่งบ้านพักที่ว่าอยู่ติดทะเลนั้น เดินออกมาจากตัวบ้านไม่กี่ก้าวก็ถึงทะเลแล้ว สำหรับบ้านพักที่บ้านริมทราย รีสอร์ทมีไว้สำหรับรองรับแขกที่มาเข้าพักนั้นจะมีรองรับอยู่

บ้านริมทราย beachfront
บ้านริมทราย beachfront

บ้านริมทะเล Beach frontบ้านหลังนี้มีราคา5,000บาทต่อคืนสามารถเข้าพักได้6ท่าน แต่ราคานี้ยังไม่รวมอาหารเช้า โดยมี 2ห้องนอน 2ห้องน้ำ 1ห้องนั่งเล่น สิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านพักมีทีวี2เครื่อง เตียงคิงไซส์2เตียง ตู้เย็น2ตู้ ทางรีสอร์ทไม่อนุญาตให้ทำอาหารภายในรีสอร์ท บริเวณบ้านพักหลังนี้ นอกจากการทำแบบปิ้งย่างเท่านั้นและไม่ให้นำเครื่องเสียงขนาดใหญ่มาเล่นภายในรีสอร์ทด้วย

บ้านริมทรายA
บ้านริมทรายA
บ้านริมทรายA
  • บ้านหลัง Aมีราคา4,000บาทต่อคืนสามารถเข้าพักได้6ท่านมีเตียงคิงไซส์2เตียง ตู้เย็น1ตู้และทีวี1เครื่อง ภายในรีสอร์ทนั้นจะเน้นย้ำว่าไม่ให้นำ

ปล.เครื่องเสียงขนาดใหญ่มาเปิดภายในบริเวณรีสอร์ทเด็ดขาด ราคานี้ไม่รวมกับอาหารเช้า

บ้านริมทราย
บ้านริมทราย

บ้านใหญ่ 1ราคา 8,000บาทต่อคืนสามารถเข้าพักได้สูงสุดถึง15ท่าน มี4ห้องนอน 3ห้องน้ำ 1ห้องนั่งเล่น โดยภายในห้องนั่งเล่นนั้นจะมีทีวีและพัดลมให้ ซึ่งบ้านใหญ่1นี้จะมีห้องครัวแยกโซนไว้ต่างหากและในห้องครัวจะมีเตาแก๊สและตู้เย็น สำหรับบ้านพักหลังนี้จะสามารถปรุงอาหารทำกับข้าวได้ตามปกติ

บ้านริมทรายขาว
บ้านริมทรายขาว
บ้านริมทราย
  • บ้านใหญ่ 2 ราคา7,000บาทต่อ1คืนสามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง10ท่าน มี3ห้องนอน 2ห้องน้ำ 1ห้องนั่งเล่น ภายในห้องนั่งเล่นนั้นจะมีทีวีและ

เครื่องปรับอากาศ โดยห้องครัวจะมีการแยกโซนและมีเตาแก๊สสำหรับปรุงอาหารกันภายในบ้านพักได้

ร้านอาหารบ้านริมทราย
ร้านอาหารบ้านริมทราย
ร้านอาหารบ้านริมทราย

ในส่วนของร้านอาหารทางรีสอร์ทจะมีแพ็คเกจให้เลือกอยู่3แบบ

  • แบบที่1 จะเป็นอาหารทะเลสดๆซึ่งได้นำมาทำการปรุงอาหารพร้อมเสิร์ฟให้กับแขกที่มาเข้าพัก
  • แบบที่2 มีอาหารแบบชุดเซ็ทและเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ไว้รองรับแขกที่มาเข้าพักและ
  • แบบที่3 จะเป็นเตาปิ้งย่างให้แขกที่มาเข้าพักนั้นได้ทำกันเอง
  •  สำหรับบ้านริมทราย รีสอร์ทเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา8.30-17:30น. สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 084-437-5505 หรือ www.banrimsai.com

Tag: #ที่พักติดหาด, #ที่พักระยอง, #รีสอร์ทติดทะเล,#บ้านริมทรายรีสอร์ท, #focusontour.com, #focusonrest

Categories
focus on rest

นอนริมแก่ง เล่นน้ำ ล่องเรือ @ แบมบู ริเวอร์ เฮาส์

แบมบู ริเวอร์ เฮาส์เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรีโดยเป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากเขื่อนแก่งกระจานที่มีความคดโค้งไปมาซึ่ง ณ จุดนี้มีความเชื่อกันว่าจะมีส่วนโค้งช่วงหนึ่งอยู่ริมท่าน้ำของแบมบูนั้นจะเรียกว่าเป็นจุดมงคลอย่างมาก เป็นแหล่งรวมของพลังซี่ซึ่งเป็นพลังที่จะส่งผลให้กับผู้ที่พักอาศัยนั้นได้รับมงคลด้วย น้ำของที่นี่เย็นและใสสะอาดเป็นบรรยากาศธรรมชาติ

แบมบู ริเวอร์ เฮาส์
แบมบู ริเวอร์ เฮาส์

แบมบู ริเวอร์ เฮาส์ รีสอร์ทแห่งนี้มีที่จอดรถที่สามารถจอดได้อย่างสะดวกสบาย รองรับรถทัวร์ได้ถึง5คันและแยกโซนระหว่างรถยนต์กับรถมอเตอร์ไซค์อย่างเป็นระเบียบ เอกลักษณ์เฉพาะตัวของรีสอร์ทแห่งนี้คือมีกิจกรรมต่างๆที่ทางรีสอร์ทมีไว้บริการแขกที่มาเข้าพักซึ่งแต่เดิม แบมบู ริเวอร์ เฮาส์ รีสอร์ทนั้นมีชื่อว่าบ้านภูมิพฤกษ์รีสอร์ทที่สำคัญเลยคือที่นี่จะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี

ขอบคุณรูปภาพจากBamboo River House Resort

แบมบู ริเวอร์ เฮาส์ รีสอร์ทจะมีที่พักเป็นลักษณะเป็นบ้านพักส่วนตัวรองรับแขกที่มาเข้าพักได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะมาคนเดียว มาเป็นคู่ ครอบครัวและหมู่คณะ ซึ่งภายในที่พักนั้นจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
โดยนอกจากจะมีกิจกรรมกลางแจ้งแล้วภายในตัวรีสอร์ทนั้นก็มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งเช่นเดียวกัน โดยบ้านพักนั้นมีรับรองถึง18หลัง ค่าเช่าที่พักต่อคืนนั้นเริ่มต้นที่1,600-12,000บาท สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้แขกที่มาเข้าพัก อาทิ แอร์ ทีวี ตู้เย็น น้ำอุ่น บริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย บ้านแต่ละหลังรองรับแขกได้4-20ท่าน และยังมีลานกว้างสำหรับกางเต๊นท์ด้วย

แบมบู ริเวอร์ เฮาส์
แบมบู ริเวอร์ เฮาส์
ขอบคุณรูปภาพจากBamboo River House Resort

ในส่วนของห้องอาหารนั้นจะตั้งอยู่ริมน้ำ อาหารของรีสอร์ทแห่งนี้รับประกันความอร่อยแทบจะทุกอย่าง เมนูเด็ดของที่นี่คือ

  • ต้มยำปลาคัง
  • ทอดมันปลากราย
  • ผัดเผ็ดหมูป่า
  • ปลากระพงราดพริก
    โดยภายในร้านจะมีโต๊ะและเก้าอี้ไม้ไว้รองรับแขกอยู่หลายโต๊ะ สามารถมานั่งกินกันได้ตามอัธยาศัย
อาหารแบมบู ริเวอร์ เฮาส์
ขอบคุณรูปภาพจากBamboo River House Resort

กิจกรรมของแบมบู รีสอร์ท เฮาส์นั้นมีรองรับแขกนักท่องเที่ยวมากมาย อาทิเช่น

  • ล่องแก่งแพยาง
  • สไลเดอร์
  • โดดหอลงน้ำ
  • ขึ้นเขาพะเนินทุ่งเพื่อไปชมผีเสื้อในป่านานาพันธุ์
  • ล่องเรือหางยาว ชมเขื่อนแก่งกระจานอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
  • ไหว้พระสักการะเจ้าแม่กวนอิม
  • ส่องนกแม่น้ำ
    เรียกได้ว่ามาทั้งทีก็เอาให้มันสนุกสุดเหวี่ยงกันจริงๆ
แบมบู ริเวอร์ เฮาส์
แบมบู ริเวอร์ เฮาส์


สำหรับกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์โดยราคาค่าเช่าที่พักนั้นก็ไม่ได้มีราคาสูงมากจนเกินไปแถมยังมีหลากหลายราคาให้เลือกอีกด้วยยิ่งถ้าเกิดว่าเป็นช่วงเทศกาลแล้วแล้วก็ทาง Bamboo River House Resort จะมีโปรโมชั่นสำหรับแขกที่จะมาเข้าพักให้ได้เล่นกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยงหากท่านใดสนใจติดต่อขอจองที่พักอยากทราบรายละเอียดสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 081-838-9751 หรือช่องทางเว็บไซค์ www.bambooriverhouse.com

Categories
focus on travel

ลัดเลาะหาของอร่อย ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน

ตลาดบางระจัน

เมื่อพูดถึงจังหวัดสิงห์บุรีหลายคนต้องนึกถึง วีรชนค่ายบางระจัน นักรบผู้กล้าหาญในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ที่มีความสามัคคีปกป้องแผ่นดินไทย ด้วยกลุ่มคนเล็ก ๆ ที่เป็นชาวบ้านธรรมดาแต่มีใจรักชาติสามารถต้านข้าศึกรุกรานอย่างพม่าได้ถึง 7 ครั้ง แต่น่าเสียดายต้องมาพ่ายแพ้ในครั้งที่ 8 อย่างไรก็ตามเราคนไทยก็ยังรำลึกถึงคุณงามความดีของเหล่าวีรชนจวบจนทุกวันนี้

    เพื่อเป็นการรำลึกบรรยากาศเก่า ๆ ของบ้านระจัน ทางวัดโพธิ์เก้าต้น จึงจัดสร้างตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจันขึ้นมา เพื่อให้ชาวชุมชนในจังหวัดสิงห์บุรีได้มาออกร้านขายสินค้าต่าง ๆ โดยแต่ละร้านจะมีหลังคามุงด้วยจาก ส่วนโครงจะเป็นไม้ไผ่อย่างแน่นหนา เรียงรายกันเป็นทิวแถว น่าเดิน สะอาด ส่วนพ่อค้า แม่ค้า จะสวมใส่ชุดชาวบ้านสมัยโบราณ ออกมาขายอาหารและขนมโบราณที่หารับประทานได้ยากในยุคนี้

ตลาดบางระจัน6

หากใครได้มาเยือนตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน จะขอแนะนำอาหารอร่อยรับรองจะไม่ผิดหวัง เริ่มจาก
– ผัดไทยโบราณเป็นร้านของนายเบี้ยว รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยว หวาน เค็ม ครบทุกรส โดยมีภาชนะใบตองใส่ผัดไทยดูน่ารับประทาน ส่วนถัดมาน่าสนใจมากดูเหมือนหยาบคาย แต่จริง ๆ เป็นชื่อขนมโบราณอีกชนิด นั่นคือ

– ขนมควยลิง อ่านแล้วก็ตกใจ รีบเดินไปถามแม่ค้า ปรากฏว่าเป็นชื่อขนมจริง ๆ มีลักษณะเป็นวงกลมทำจากแป้งเคลือบด้วยน้ำตาลด้านบน ตัวขนมนั้นเหนียวนุ่ม หวานด้วยน้ำตาล ไม่ไกลกันนักจะมี


– ร้านขายขนมหม้อแกงปลาช่อน ใส่ในกะลามะพร้าว ที่เดียวในจังหวัดสิงห์บุรีเท่านั้น ต้องห้ามพลาดลองซื้อมาชิมดู ให้รสชาติหอมหวานไม่มีกลิ่นคาวของปลาเลยสักนิด เป็นการผสมผสานระหว่างของคาวกับของหวานได้ดี และเมื่อเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงริมคลอง จะสังเกตเห็น

– ร้านขายเมี่ยงใบบัว เห็นคนต่อคิวยาวน่าสนใจ ไม่รอช้าจึงมุ่งหน้าไปต่อคิวกับเขา เห็นเมี่ยงใบบัวถูกจัดวางอย่างสวยงาม จัดเป็นคำ ๆ ให้รับประทานอย่างสะดวก

อาหารตลาดบางระจัน

   ถัดมาร้านติดกับเมี่ยงใบบัว จะเห็น

  • ร้านขายปลาร้าป้าชีพ เขามีทั้งปลาร้าสับสมุนไพรที่ปรุงสุกแล้ว สามารถชิมได้ก่อนซื้อ และปลาร้าเป็นตัว ๆ ต้องนำไปปรุงเอง เมื่อลองชิมปลาร้าสับแล้ว ต้องบอกเลยว่าหอมกลิ่นสมุนไพรมาก ทั้งข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก คลุกเคล้าอย่างลงตัว
ที่นั่งริมน้ำตลาดบางระจัน

   สำหรับตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ยังมีอีกหลายร้านให้เลือกซื้อ ต้องมาเดินให้เห็นกับตา ของกินมากมายหลายชนิด เดินทั้งวันไม่มีเบื่อ หากเหนื่อยเมื่อยล้า มานั่งรับลมเย็น ๆ บริเวณริมคลอง พร้อมชมการแสดงในช่วงกลางวัน หากวันหยุดนี้ยังไม่มีแพลนจะไปเที่ยวที่ไหน ขอแนะนำมาเดินเล่นตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน อำเภอค่ายบางจัน จังหวัดสิงห์บุรี ทางตลาดเขาเปิดบริการทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดราชการ รับรองได้ของอร่อย ของแปลก ๆ ติดไม้ติดมือฝากคนที่บ้านแน่นอน

Facebook: ตลาดไทยย้อนยุคบ้านบางระจัน

Categories
focus on rest

บ้านบาหลี รีสอร์ท นครนายก

บ้านบาหลี2
บ้านบาหลี4

วันนี้เราอยากจะพาไป focus on rest กับ “บ้านบาหลีรีสอร์ท นครนายก” ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครนายกใกล้กับกรุงเทพฯบ้านเรานี่เอง โดยอยู่ตรง ตำบลหินตัง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายกโดย เป็นสถานที่พักที่เหมาะกับการมาพักแบบครอบครัว หมู่คณะ อยู่ละแวกเดียวกันกับเขื่อนขุนด่านปราการชลเพียง 800 เมตร อีกทั้งสถานที่ที่อยู่ใกล้ๆจะมีวัดหลวงพ่อปากแดง ตลาดโรงเกลือนครนายก น้ำตกวังตะไคร้ เป็นต้น

บ้านบาหลี1
บ้านบาหลี5

โดยบ้านพักนั้นจะเป็นลักษณะคล้ายบังกะโลอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่พาให้คุณได้สูดอากาศแบบสดชื่นเต็มปอด ซึ่งพิเศษสุดๆเลยสำหรับสถานที่พักแห่งนี้ก็คือสามารถพาสุนัขเข้าพักได้แถมยังไม่มีการคิดค่านำสัตว์เลี้ยงเข้าพักอีกด้วย เรียกได้ว่าเข้าใจคนรักสัตว์จริงๆ สำหรับการเดินทางมาบ้านบาหลีรีสอร์ท จังหวัดนครนายก นี้ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งบอกได้เลยว่าสำหรับใครที่ต้องการหาที่พักที่มีความสงบและมีความเป็นส่วนตัวสูง สถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดีๆสำหรับคุณก็เป็นได้

บ้านบาหลี6

บ้านบาหลีรีสอร์ท นครนายกนั้นในส่วนของห้องพักจะมีทั้งห้องและบ้านรวมกันทั้งหมด 13 ห้อง สามารถรองรับลูกค้าผู้เข้าพักได้ทั้งหมด 60 – 80ท่าน  มีทั้งบ้านพักสำหรับ 2 ท่านจนไปถึงแบบหมู่คณะเลยก็ว่าได้ โดยจะแบ่งเป็นลักษณะดังนี้

บ้านบาหลี8
บ้านบาหลี9
บ้านบาหลี10
บ้านบาหลี11

ห้องพักของบ้านพักบาหลี รีสอร์ทจะมีทั้งหมด 6 ประเภท

  • ห้องพักเรือนแถว จะมี 4 ห้อง  ราคา900-1,200 บาท
  • บ้านริมบ่อ จะมี 2 หลัง  ราคา1,200 – 1,500 บาท
  • บ้านทรงเอ จะมี 2 หลัง  ราคา 1,200-1,500 บาท
  • บ้านพัก 3 ท่าน จะมี 3 หลัง ราคา1,200-1,500 บาท
  • บ้านพัก 4 ท่าน จะมี 2 หลัง ราคา1,200-1,500 บาท
  • ห้องพักใหญ่ 1 ห้อง รับแขกได้ 8 ท่าน ราคา 2,200-2,500 บาท
บ้านบาหลี12
บ้านบาหลี13
บ้านบาหลี14

บ้านบาหลี รีสอร์ท นครนายกมีกิจกรรมสนุกๆที่โซนด้านนอกของรีสอร์ทเพื่อต้อนรับแขกและนักท่องเที่ยวมากมาย อาทิ Paint Ball ,Rafting ล่องแก่ง , ATV ,Tree Top โรยตัว ,หน้าผาจำลอง ,walk and really&team buliding โดยทุกๆกิจกรรมนั้นจะมีรถมารับส่งถึงที่พักของโรงแรม
สำหรับคนที่ต้องการความเงียบและเรียบง่าย มีร่องลำธาร ขี่จักรยาน เล่นน้ำตก เป็นต้น

หากท่านใดที่มีความสนใจอยากจะขอทราบรายละเอียดรวมทั้งช่องทางการติดต่อเกี่ยวกับบ้านบาหลีรีสอร์ท นครนายกแห่งนี้สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 094-481-7112 หรือ 082-414-8080และอีกหนึ่งช่องทางคือ https://www.facebook.com/Banbaliresortnaknayok โดยสามารถสอบถามได้ทุกวันภายในช่วงเวลาทำการ