แอ่ว 5 จุดชมทะเลหมอกภาคเหนือสุดฟิน
ปลดล็อกดาวน์กันแล้ว ออกไปผ่อนคลายและใช้ชีวิตเที่ยวธรรมชาติกัน รับรองว่าเหมาะกับการเที่ยวแบบ Social distancing ในยุคโควิดมาก เพราะที่ธรรมชาติเป็นที่ที่ทำให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริงและที่สำคัญคนไม่แน่นเหมือนเที่ยวในเมืองอีกด้วย วันนี้เราจึงอยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวธรรมจุดชมวิวทะเลหมอกสุดอลังการที่ภาคเหนือของประเทศไทยเรา รับรองว่าเมื่อคุณได้เห็นความสวยงามอลังการของทะเลหมอกภาคเหนือแล้วนั้นคุณจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว
1.ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน เป็นจุดชมดาวยามค่ำคืนที่สูงมากสมชื่อเลย คุณสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอลังการจากที่แห่งนี้ได้เลย ที่สำคัญยังเป็นจุดชมทะเลหมอกยามเช้าอีกด้วยรับรองว่าถ้ามีกาแฟร้อนๆสักแก้วจิบพร้อมชมทะเลหมอกไปเพียงเท่านี้บรรยากาศจะโรแมนติกขึ้นคูณร้อยเลยทีเดียว และบริเวณใกล้เคียงก็ยังมีผาหัวสิงห์ที่สามารถชมทะเลหมอกและวิวธรรมชาติได้แบบรอบ 360 องศาเลย ยังไม่เท่านั้น คุณยังสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำน่านและตัวอำเภอนาน้อยได้อีกด้วย เรียกได้ว่าควรมาสักครั้งในชีวิตจริงๆ
2.ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ดอยหลวงเชียงดาว หรือดอยเชียงดาว เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยเลยทีเดียว ที่สูงรองจากดอยอินทนนท์ และดอยฟ้าห่มปก ที่นี่สามารถเดินทางมาพักผ่อนกันได้ง่ายๆเลยโดยการมาตามเส้นทางหลวงสายเชียงใหม่-ฝางประมาณหลักกิโลเมตรที่ 72 หากผ่านไปตามเส้นทางดังกล่าว คุณจะสังเกตเห็นเทือกเขาสูงชันทางด้านซ้ายมือนั่นแหละถึงแล้วนั้นก็คือ ดอยหลวงเชียงดาว นั่นเอง เมื่อถึงยอดดอยหลวงเชียงดาว คุณจะสามารถมองเห็นวิวที่ตระการตามากๆกับอีก 2 ดอยอยู่เบื้องหน้าก็คือ ดอยสามพี่น้อง และดอยพีรามิด ซุ่งบอกเลยว่าควรค่าแก่การมาฮีลใจตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะบรรยากาศด้านหน้าเหมือนภาพวาดที่หลุดออกมาจากเทพนิยายเลยทีเดียว
3.ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง ตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี จัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ดอยอ่างขางมีอากาศเย็นเกือบตลอดทั้งปี มีอุณหภูมิประมาณ 17องศาโอ้พระเจ้าคืออากาศเย็นขั้นสุด เราจึงสามารถไปเที่ยวดอยอ่างขางได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว ส่วนในช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อนก็ไม่ร้อนจัด ส่วนหน้าฝนถือเป็นช่วง Low season ไม่หนาวมากแถมยังได้ชมความอลังการของทะเลหมอกอีกด้วย และช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมเป็นช่วงไฮไลท์ของที่นี่ คนนิยมมาเที่ยวกันดูปรากฎการณ์แม่คะนิ้งหรือน้ำค้างแข็งกันเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากอากาศที่หนาวเย็นแล้ว ยังได้ชมความงามของธรรมชาติและบรรยากาศรอบๆอีกด้วย คุ้มค่ามากเลย
4.ดอยผาตั้ง จังหวัดเชียงราย
เป็นยอดดอยในเทือกเขาหลวงพระบางที่สำคัญเป็นเส้นแบ่งเขตไทย-ลาว อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณ 30 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ใครที่จะมาเที่ยวสามารถมาชมความงามของทั้งสองสถานที่กันได้เลย ขอบอกว่าดอยผาตั้งแห่งนี้ถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย ชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้าที่อาศัยอยู่บริเวณนี้มีอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล และชา ถือว่าเป็นสีสันแห่งวัฒนธรรมชนเผ่า ใครที่สนใจมาสัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตกันได้เลย
5.ห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่
จุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากในประเทศไทยเลยทีเดียว นอกจากชมทะเลหมอกในยามเช้าได้แล้วนั้นยังสามารถชมความงดงามของดวงอาทิตย์ขึ้นที่ทอแสงในยามเช้าอีกด้วย ที่สำคัญยังมองเห็นดอยเชียงดาว นอกจากนี้ช่วงปลายฤดูหนาวจะเต็มไปด้วยดอกไม้ที่มีสีสันสวยงาม
และใครที่มาที่นี่ยังสามารถไปเที่ยวดอยสามหมื่น อำเภอเชียงดาว จะมีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลีซออาศัยอยู่ กิจกรรมก็จะมีการชมการปลูกกาแฟอาราบิกาและไม้ผลเมืองหนาว เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับการมามากๆ
ใครที่มีความหลงใหล หลงรักในธรรมชาติต้องไม่พลาดกับจุดชมวิวทะเลหมอกภาคเหนือ เพราะนอกจากความสวยงามอลังการของทะเลหมอกและบรรยากาศ วิวธรรมชาติแบบ 360 องศาแล้วนั้น ยังมีกไฮไลท์เด็ดคือการชมแสงแรกของวันยามที่พระอาทิตย์ทอแสงขึ้นมา เรียกได้ว่ามาแล้วทุกคนจะไม่ผิดหวังแน่นอน มาให้ธรรมชาติเติมพลังชีวิตให้คุณกันเถอะ
ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ page facebook กิน นอน เที่ยวไหน