Categories
focus on travel

อับเดตที่เที่ยวไต้หวันอับเดตที่เที่ยวไต้หวันสวยๆ

               รู้หรือไม่ว่าที่ ไต้หวัน นอกจากในตัวเมือง ไทเป (Taipei) จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว ที่นี่ยังมีที่เที่ยวสวยอื่นๆ อีกมากมายเลย ใครที่กำลังหาที่เที่ยวในไต้หวัน ลองตามเรามาปักหมุดที่เที่ยวอับเดต กันดูได้ จะได้รู้ว่ามีที่ไหนน่าไปชมกันบ้าง

Laomei Green Reef
เลาเหมย ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวธรรมชาติบริเวณชายฝั่งไต้หวัน เป็นแนวปะการังหินสีเขียวที่เกิดจากหินลาวาภูเขาไฟ ที่ถูกคลื่นกัดเซาะจนทำให้มีรูปร่างแปลกตา เกิดเป็นภาพอันน่าอัศจรรย์และสวยงามไม่ซ้ำกัน ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวที่ถ่ายรูปสวยมากๆ

Houtong Cat Village
ทาสแมวทั้งหลาย หากได้ไปเที่ยวไต้หวัน คงมุ่งตรงไปที่เมืองหูต่ง (Houtong) เพราะที่นี่คือหมู่บ้านแมวในไต้หวัน ที่มีแมวมากมายกำลังรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ นอกเหนือจากเจ้าเหมียวกว่าร้อยตัวแล้ว ที่นี่ก็ยังมีการตกแต่งอย่างน่ารัก ประดับด้วยสินค้ารูปแมว รวมถึงมีร้านกาแฟให้นั่งชิลล์อีกมากมาย

Sun Moon Lake
ทะเลสาบสุริยันจันทราเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ซึ่งมีเอกลักษณ์ คือ ทิศเหนือของทะเลสาบมีรูปร่างคล้ายดวงอาทิตย์ ส่วนทิศใต้ก็คล้ายกับจันทร์เสี้ยว สวยงามแปลกตา จนเป็นที่มาของชื่อ “ทะเลสาบสุริยันจันทรา” นั่นเอง นับเป็นที่เที่ยวที่เหมาะกับคนรักธรรมชาติ ชอบเดินเล่น ถ่ายรูป สูดอากาศ หรือจะเช่าจักรยานมาปั่นชมวิวรอบๆ ทะเลสาบก็ยังได้

Penghu Islands
หมู่เกาะเผิงหูเป็นหมู่เกาะทางทิศตะวันตกของไต้หวัน ซึ่งมีเกาะน้อยใหญ่อยู่รวมกันมากถึง 64 เกาะ มีชายหาดที่สวยงาม น้ำทะเลใสสีเขียว ดึงดูดในนักท่องเที่ยวอย่างมาก และยังมีความสร้างสรรค์ของธรรมชาติ คือ Twin Heart Stone Weir หรือ ฝายหินหัวใจคู่ ซึ่งมองดูคล้ายกับก้อนหินเรียงเป็นรูปหัวใจสองดวงซ้อนกัน

Taroko National Park
อุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดฮิตของไต้หวัน และยังเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 อีกด้วย ที่นี่มีภูเขาหินแกรนิตจำนวนมาก และหน้าผาสูงชันที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำเป็นเวลานาน ทำให้มีทิวทัศน์ที่สวยงาม คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาด

Huashan 1914 Creative Park
อดีตโรงงานผลิตไวน์และบุหรี่ ที่ตอนนี้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตในไต้หวัน ภายในมีทั้งมีลานกิจกรรม มีการโชว์ผลงานศิลปะ และการแสดงต่างๆ รวมถึงร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆ มากมาย ส่วนไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ อาคารหลังเก่าที่มีใบไม้สีเขียวปกคลุม ใครมาที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปกันตรงนี้

                ใครที่กำลังจะไปเที่ยวไต้หวัน ก็อย่าลืมจดลิสต์รายชื่อสถานที่เด็ดๆ เหล่านี้กันไว้นะ จะได้ไม่พลาดเช็คอินที่เที่ยวสุดฟินยังไงล่ะ

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว

Categories
focus on travel

“รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์” เมืองกลางน้ำสไตล์ล้านนา

              จันทบุรี ถือเป็นจังหวัดหนึ่งที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีทั้งทะเล น้ำตก และโฮมสเตย์พักผ่อนชิลล์ๆ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีที่พักใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเยอะมาก ใครอยากไปพักผ่อน กินปู ดูเหยี่ยว ก็ต้องลองไปเที่ยวเมืองจันท์กันสักครั้ง และถ้าใครยังไม่รู้จะพักที่ไหนดี วันนี้เราจะมาแนะนำ ‘รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์’ ที่พักสวยมาแรงแซงทางโค้ง ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นในรูปแบบของเมืองกลางน้ำ เก็บกระเป๋าแล้วตามเราไปเช็คอินพร้อมกันได้เลย

               รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์ ตั้งอยู่ที่ ต.หนองชิ่ม อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี มีที่จอดรถส่วนตัวอยู่ด้านหน้าที่พักเรียกได้ว่าสะดวกสบายสุดๆ ความโดดเด่นของที่นี่ คือ ตัวที่พักตกแต่งด้วยไม้ สอดรับกับหลังคาสไตล์ล้านนา ได้บรรยากาศแบบศิลปะล้านนาอย่างแท้จริง อีกทั้งยังล้อมรอบด้วยน้ำ มีสะพานไม้เป็นทางเดินทอดไปสู่จุดต่างๆ เหมือนเป็นเมืองกลางน้ำเลยทีเดียว

              เมื่อเช็คอินแล้ว จะได้รับคูปองกาแฟตามจำนวนผู้เข้าพัก สำหรับแลกซื้อเครื่องดื่มได้ฟรีที่ คาเฟ่รัตนะบุรี แถมเขายังเพิ่มความปลอดภัยด้วยสายรัดข้อมือ ที่ใช้เข้าออกไปยังโซนพักผ่อน ซึ่งถ้าใครไม่มีสายรัดข้อมือจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังพื้นที่ด้านใน ภายในคาเฟ่มีโซนนั่งเล่นหลากหลายมุม ท่ามกลางการตกแต่งร้านสไตล์ล้านนา ที่มีตุงหลากสีสัน ได้บรรยากาศแบบเมืองเหนือ รวมถึงการเปิดเพลงบรรเลงคลอๆ ให้ได้เพลิดเพลินระหว่างจิบเครื่องดื่มด้วย

             ในส่วนของห้องพักที่นี่ จะมีทั้งหมด 67 ห้อง แบ่งเป็นหลังๆ เน้นการพักรวมกันแบบโฮมสเตย์ทั่วไป ซึ่งเราสามารถจองเป็นหลังเพื่อพักเป็นส่วนตัวได้ เริ่มต้นตั้งแต่ 3 ไปจนถึง 11 คน มีอาหารให้ 2 มื้อ คือ บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า และอาหารเย็นที่เน้นอาหารทะเลแบบเติมไม่อั้นทุกเมนู

             นอกจากนี้ ก็ยังมีห้องประชุมขนาดใหญ่ ซึ่งรองรับได้ถึง 150 คน ภายในห้องมีอุปกรณ์ทันสมัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ไมโครโฟน โปรเจคเตอร์ และจอมอนิเตอร์ บริษัทไหนอยากมาจัดสัมมนา ที่นี่ก็เป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว

            ไม่ใช่แค่บรรยากาศดี แต่เรื่องกิจกรรม และอาหารการกินของที่นี่ก็จัดว่าเด็ด โดยตอนบ่ายสามโมงของทุกวัน จะมีกิจกรรมล่องแพเปียก ซึ่งจุดลงแพจะอยู่ติดที่พักเลย โดยเส้นทางในการล่องแพ จะเป็นการชมป่าโกงกางอันอุดมสมบูรณ์ ชมเหยี่ยวแดง และวิถีชาวบ้าน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

             เมื่อตะวันลับฟ้า ก็ได้เวลาอาหารเย็น ซึ่งมื้อเย็นที่นี่จะเริ่มกันตั้งแต่ 18.00 – 22.00 น. โดยมีไฮไลท์ คือ อาหารทะเลเติมไม่อั้น!! จัดมาแบบจุกๆ มาในที่บรรยากาศดีๆ แถมยังได้กินของอร่อยด้วย มันเป็นอะไรที่ดีต่อใจมากๆ เลยว่าไหม?

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว 

Categories
focus on travel

“แกรนด์ ไฮแอท กัวลาลัมเปอร์” เปิดห้องพักในฝันสำหรับผู้ชื่นชอบบาร์บี้

              มีข่าวน่ายินดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบตุ๊กตาบาร์บี้ เมื่อ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท กัวลาลัมเปอร์ (Grand Hyatt Kuala Lumpur) ที่พักหรูในมาเลเซีย ซึ่งขึ้นชื่อในด้านที่พักหรูหรา และบริการไร้ที่ติ ได้เพิ่มความประหลาดใจให้กับผู้เข้าพัก โดยสร้างห้องพักในธีมตุ๊กตาบาร์บี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของแฟนคลับบาร์บี้ทุกวัย และสร้างประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน กับเสน่ห์เหนือกาลเวลาของตุ๊กตาบาร์บี้อันโด่งดัง

             ห้องธีมบาร์บี้ที่ว่านี้ เปรียบเสมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับแฟนๆ ของตุ๊กตาบาร์บี้อย่างแท้จริง เพราะตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเข้ามาในห้อง ก็จะได้รับการต้อนรับด้วยสีสัน แฟชั่น และสไตล์ที่สะท้อนถึงบุคลิกที่สดใสของบาร์บี้ การตกแต่งห้องเน้นเฉดสีชมพูอันเป็นเอกลักษณ์ของบาร์บี้ เต็มไปด้วยประกายแวววาว และความเย้ายวนใจทั่วทั้งห้อง โดยทุกมุมห้องได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยงานศิลปะ เครื่องประดับ และของที่ระลึกในธีมตุ๊กตาบาร์บี้

              ภายในห้องนี้ยังมีคอลเลกชันตุ๊กตาบาร์บี้รุ่นลิมิเต็ด ซึ่งโชว์ให้เห็นถึงชุดที่เป็นสัญลักษณ์ของตุ๊กตาจากยุคต่างๆ ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับห้อง จุดประกายจินตนาการ และความคิดถึงของทุกคนที่เติบโตมาพร้อมกับตุ๊กตาบาร์บี้ได้เป็นอย่างดี แถมยังสามารถแต่งตัวเป็นบาร์บี้ และใช้ชีวิตเลียนแบบบาร์บี้ในห้องนี้ได้ตามอำเภอใจ

            นอกจากการตกแต่งที่ดึงดูดใจแล้ว ห้องพักธีมบาร์บี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้แน่ใจว่าการเข้าพักของทุกคนจะเป็นการพักผ่อนที่น่าจดจำ เช่น มีเตียงขนาดคิงไซส์หรูหรา พร้อมเครื่องนอนธีมตุ๊กตาบาร์บี้ มีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง เหมาะสำหรับการผ่อนคลายในขณะชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามของเมือง ทั้งยังมีพื้นที่ทำงานให้สำหรับผู้ที่ต้องการ ในขณะที่ห้องน้ำก็สวยงามและทันสมัยไม่แพ้กัน

             และเพื่อเป็นการยกระดับประสบการณ์ในธีมตุ๊กตาบาร์บี้ ทางโรงแรมยังได้คัดสรรกิจกรรม และบริการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตุ๊กตาบาร์บี้ เพื่อให้แขกได้เพลิดเพลินในระหว่างการเข้าพัก เช่น สปาทรีตเมนต์ในธีมบาร์บี้ เป็นต้น ทั้งยังมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญของโรงแรมที่พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง และร้านอาหารที่เข้ากับธีมบาร์บี้ให้ด้วย

             รับประกันได้เลยว่า ห้องพักธีมตุ๊กตาบาร์บี้ ที่แกรนด์ ไฮแอท กัวลาลัมเปอร์ แห่งนี้ จะทำให้การเข้าพักของทุกคนเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ เสมือนได้ก้าวเข้าสู่จักรวาลที่มีเสน่ห์ของบาร์บี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนพันธุ์แท้มาตลอดชีวิต หรือแค่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย ห้องธีมบาร์บี้จะสร้างความสุข และแรงบันดาลใจได้อย่างแน่นอน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว 

Categories
focus on travel

พาเที่ยวนครนายกชิลล์ๆ สำหรับคนเวลาน้อย

              ใครมีเวลาน้อย ไม่สามารถไปเที่ยวแบบพักค้างคืนตามป่าเขา หรือแบกเป้แคมป์ปิ้งไกลๆ แต่ชอบเที่ยวใกล้ชิดธรรมชาติ วันนี้เราจะพาไปทัวร์นครนายกชิลล์ๆ ตามแบบฉบับคนมีเวลาน้อย มาดูกันว่าใน 1 วัน เราสามารถไปเที่ยวที่ไหนกันได้บ้าง

  1. อุโมงค์ป่าไผ่
    อุโมงค์ป่าไผ่ จุดเช็กอินถ่ายรูปสวยๆ ของ วัดจุฬาภรณ์วนาราม เป็นต้นไผ่ที่เรียงรายกันยาวกว่า 800 เมตร และมีลักษณะเอียงเข้าหากันสวยงาม จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้ที่จะมาถ่ายรูปสวยๆ เหมือนได้วาร์ปไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว
  • เขื่อนขุนด่านปราการชล
    เขื่อนขุนด่านปราการชล ถือเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในประเทศไทย สามารถขึ้นไปชมวิวสวยๆ เดินเล่นถ่ายรูปสวยๆ และสูดอากาศบริสุทธิ์บนสันเขื่อนกันได้แบบไม่มีอะไรกั้น ถ้าใครพอมีเวลา แนะนำให้ไปนั่งเรือชมบรรยากาศภายในเขื่อน จะได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งบริเวณรอบๆ เขื่อน ก็ยังมีร้านอาหารเด็ดๆ มากมายให้แวะไปอร่อยกันด้วย
  • น้ำตกสาริกา
    น้ำตกสาริกา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ของนครนายกที่คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาดเช่นกัน ด้วยความงดงามของสายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอดๆ ถึง 9 ชั้น แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำซึ่งไม่ลึกมาก สามารถลงเล่นน้ำได้แบบสบายๆ แถมด้านล่างของน้ำตกยังมีร้านอาหาร และร้านสินค้าที่ระลึก รวมถึงห้องอาบน้ำให้บริการด้วย
  • อุทยานพระพิฆเนศ
    อุทยานพระพิฆเนศ เป็นที่ประดิษฐาน พระพิฆเนศปูนปั้นองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีขนาดหน้าตักกว้างถึง 9 เมตร นอกจากนี้ด้านหลังยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวม องค์พระพิฆเนศ 108 ปาง ที่ครบสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยให้ได้ชมนอกจากนั้นยังมี พระบรมสารีริกธาตุจาก 9 ประเทศ ให้เราได้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย
  • เอเดนฟาร์ม (Aden Farm)
    เอเดนฟาร์ม นับเป็นที่เที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ ที่นอกจากจะเน้นธรรมชาติและเกษตรอินทรีย์แล้ว ยังเป็นคาเฟ่สุดชิคที่ตั้งอยู่ท่ามกลางร่มสวยๆ มากมายที่ถูกนำมาห้อยตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม พูดได้เลยว่า มาเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้เครื่องดื่มอร่อยๆ ไว้จิบคลายร้อนแล้ว ยังได้รูปสวยๆ กลับไปอีกเพียบแน่นอน

              เห็นด้วยไหมล่ะว่า นครนายก เป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพที่มีที่เที่ยวหลากหลายจริงๆ ซึ่งนอกจากที่ได้แนะนำไปแล้วก็ยังมีที่เที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าใครมีเวลาเที่ยวน้อย ก็ลองมาชิลล์ตามสถานที่เหล่านี้กันดูก่อนได้ แล้วค่อยตามเก็บที่อื่นๆ ทีหลัง เพราะที่นี่มีทั้งธรรมชาติสวยๆ ร้านอาหารและคาเฟ่ดีๆ ในราคาเบาๆ เยอะเลย วันหยุดก็ลองปักหมุดมากันได้

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว 

Categories
focus on travel

พาเที่ยวดินแดนแห่งปราสาท “สาธารณรัฐเช็ก”

                สาธารณรัฐเช็ก ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป และไม่มีเขตแดนติดทะเลเลย แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาก และมีปราสาทอยู่มากมายทั่วประเทศ รวมแล้วมากกว่า 1000 แห่ง เลยทีเดียว โดยกระจายอยู่ทั้งตามเมืองใหญ่ เมืองเล็ก รวมถึงในป่าเขาก็ยังมีปราสาทพระราชวังสวยงาม ที่ยังคงความสมบูรณ์แบบมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็มีปราสาทที่เหลือแต่ซากปรักหักพังอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน โดยวันนี้เราจะมานำเสนอประสาทที่สวยงาม และมีความโดดเด่นให้ได้ชม

ปราสาทปราก
ตั้งอยู่ที่กรุงปราก เมืองของหลวงของประเทศ โดยอยู่บนเนินเขาฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ Vltava ปัจจุบันเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และยังเป็นที่ทำงานของประธานาธิบดีเช็กอีกด้วย โดยภายในปราสาทยังมีโบสถ์ และมหาวิหารขนาดใหญ่ที่สวยงามมากอีกด้วย

ปราสาทเชสกี้ คลุมลอฟ
เป็นปราสาทใจกลางเมืองมรดกโลกที่โด่งดังอย่าง เชสกี้ คลุมลอฟ มีสภาพแวดล้อมและธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้ปราสาทแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากมาย อีกทั้งยังได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ในปี 1992 ด้วย ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศเช็กเลยทีเดียว

ปราสาท Loket
ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ชื่อ Loket มีแม่น้ำล้อมรอบทั้ง 3 ด้าน มองดูคล้ายเป็นเกาะขนาดเล็ก โดยชื่อ Loket เป็นภาษาเช็กที่แปลว่า ข้อศอก หรือ ความโค้งงอ เนื่องจากปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ซึ่งหากมองลงมาจากบนฟ้าจะเห็นแม่น้ำเป็นรูปเหมือนกับงอข้อศอกอยู่ จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง

ปราสาท Lednice
ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างเมืองใหญ่ 2 เมือง คือ Brno(Czech republic) และ Vienna(Austria) ปราสาทแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดของประเทศเช็ก โดยบริเวณด้านหลังปราสาทมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่และร่มรื่น และยังมีบึงขนาดใหญ่อยู่ภายในสวนด้วย ส่วนด้านหน้าปราสาทก็เป็นสวนดวกไม้ที่สวยงามมากๆ ซึ่งหากใครอยากมาเยี่ยมชมปราสาทนี้ ขอแนะนำให้มาในช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน เพราะสวนดอกไม้จะออกดอกสวยงามเต็มสวนให้ได้ชื่นชม

ปราสาท Mikulov
อยู่ทางตอนใต้ของแคว้นโมราเวีย โดยตัวปราสาทตั้งอยู่บนยอดเนินใจกลางเมือง และที่เมืองแห่งนี้ก็โด่งดังเรื่องไวน์เป็นอย่างมาก เนื่องจากพื้นที่โดยรอบของปราสาทนี้เหมาะสมต่อการปลูกองุ่นและทำไวน์มากๆ คล้ายกับพื้นที่ที่ผลิตแชมเปญของฝรั่งเศสเลยทีเดียว

               และนี่ก็เป็นเพียง 5 ปราสาท ที่มีความสวยงามโดดเด่น และมีคนไปเยี่ยมชมกันเป็นมาก ซึ่งเราได้คัดเลือกมาจากทั้งหมดกว่า 1000 แห่งในประเทศสาธารณรัฐเช็ก แต่ก็ต้องบอกเลยว่าที่ประเทศนี้ยังมีปราสาทอื่นที่สวยงามน่าชมอีกเยอะมาก ใครได้ไปเที่ยวเช็ก จะต้องฟินแน่นอน

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว 

Categories
focus on travel

วัดสวยอ่างทอง ที่เที่ยวฉบับสายบุญ

              เป็นที่รู้กันดีว่า หากจะมาเที่ยว อ่างทอง ใครๆ ก็ต้องมาทัวร์ไหว้พระตามวัดสวยๆ ซึ่งมีอยู่มากมาย แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าที่นี่มีวัดไหนน่าเที่ยวบ้าง เราขอแนะนำวัดสวยวัดดังในจังหวัดอ่างทอง พิกัดเที่ยวของสายบุญ ที่สวยดั่งสวรรค์สร้าง ใครชอบเที่ยววัด ตามเรามาได้เลยจ้า

วัดม่วง เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา มีความโดดเด่น คือ องค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นามว่าพระพุทธมหานมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวโรกาสที่ครองสิริราชครบ 50 ปี ทั้งยังมีโบสถ์ที่สวยงาม ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติ รวมถึงรูปปั้นจำลองแดนนรก แดนสวรรค์ ที่แฝงคติสอนใจ

วัดฝาง เป็นอีกหนึ่งวัดสวยที่ไม่ธรรมดาของอ่างทอง เพราะที่นี่มีโบสถ์มหาอุตม์ทรงเรือสำเภา แกะสลักจากหินทราย ถือเป็นศิลปะร่วมสมัยที่ใช้เวลาสร้างนานกว่า 20 ปีเลยทีเดียว โดยภายในโบสถ์ได้ประดิษฐานพระศรีอริยเมตไตรย อายุราวๆ 200-300 ปี

วัดบ้านพราน นับเป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ แต่ไม่มีหลักฐานปรากฏว่าสร้างขึ้นเมื่อใด โดยจากคำบอกเล่าน่าจะสร้างในช่วงปลายสมัยสุโขทัย ภายในมีวิหารที่ประดิษฐานหลวงพ่อไกรทอง พระพุทธรูปปางสมาธิที่ชาวบ้านนับถือ และเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก ทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ศรีบ้านพรานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ให้ได้ชมกันด้วย

วัดขุนอินทประมูล เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ประดิษฐานพระศรีเมืองทอง พระนอนองค์ใหญ่ หรือที่เรียกว่า พระพุทธไสยาสน์ ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย โดยมีความยาวถึง 50 เมตร คาดว่าน่าจะสร้างในสมัยเดียวกับพระนอนจักรสีห์ ที่จังหวัดสิงห์บุรี อีกทั้งมีซากโบราณสถานวิหารหลวงพ่อขาว และศาลรูปปั้นขุนอินทประมูล รวมถึงโครงกระดูกมนุษย์ ที่เชื่อกันว่าเป็นของขุนอินทประมูลอีกด้วย

วัดสังกระต่าย เป็นเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี โดยคาดว่าน่าจะถูกสร้างตั้งแต่ก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยาโน่นเลยทีเดียว วัดนี้แตกต่างจากวัดอื่นๆ เพราะมีไฮไลท์ คือ ตัวโบสถ์ซึ่งจะมีต้นโพธิ์เก่าแก่ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุมโดยรอบถึง 4 ต้นด้วยกัน ภายในยังประดิษฐานหลวงพ่อแก่น หลวงพ่อวันดี หลวงพ่อศรี และ หลวงพ่อสุข ให้สายมูได้สักการะขอพรกันอย่างจุใจ

          ได้พิกัดวัดสวยๆ และเก่าแก่ในจังหวัดอ่างทองกันไปแล้ว ใครที่เป็นสายบุญ หรือสายมู ก็อย่าลืมหาเวลาไปเที่ยวไหว้พระขอพรให้สบายใจกันนะ ไม่ใกล้ไม่ไกล เดินทางไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องมีวันหยุดยาวๆ ก็ไปได้

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว 

Categories
focus on travel

เที่ยวไทยสไตล์วิถีชุมชน กับคนท้องถิ่น 4 จังหวัด

             นอกจากเมืองท่องเที่ยวหลักในประเทศไทยจะได้รับความนิยมแล้ว เมืองรองก็ยังดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติด้วยเช่นกัน เนื่องจากเมืองรองนั้นมีมุมน่าสนใจที่แตกต่างออกไปจากเมืองท่องเที่ยวหลักๆ นั่นก็คือ การท่องเที่ยวในสไตล์โลคอล และการเรียนรู้วิถีชีวิต รวมถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นของคนในชุมชนต่างๆ วันนี้เราเลยจะพามาดูตัวอย่าง 4 ชุมชนที่น่าสนใจ จะมีที่ไหนบ้างลองตามมาดูกันเลย

ฟังดนตรี “ม้งไซเบอร์” ที่พิษณุโลก
โรงเรียนบ้านน้ำจวง เป็นโรงเรียนแห่งเดียวของหมู่บ้านใน จ.พิษณุโลก ซึ่งปัญหาใหญ่ของโรงเรียนนี้คือ เด็กขาดทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพในยุคปัจจุบัน เมื่อถึงวัยทำงานจึงต้องไปเป็นแรงงานต่างถิ่น ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้เยาวชน จึงได้มีการสอนหลักสูตรการแสดงดนตรีและละครเวที โดยออกแบบให้เหมาะสมกับบริบทของชุมชนที่เป็นหมู่บ้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

และได้มีงานเทศกาลดนตรี Hmong Cyber Music Festival เพื่อให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่แสดงออก และสามารถนำมาต่อยอดทำงาน สร้างรายได้เสริมในชุมชนของตนเอง โดยไม่ต้องละถิ่นไปทำงานที่อื่น ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะรู้สึกได้ถึงความสวยงามของธรรมชาติ อากาศดี อาหารอร่อยแล้ว ยังได้สัมผัสวัฒนธรรมที่ผสานไปกับนวัตกรรมอย่างลงตัว

เวิร์ค & ทราเวล ที่แม่ฮ่องสอน
เนื่องจากคนหนุ่มสาวในปัจจุบันต้องการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศ หรือสถานที่ทำงานมากขึ้น เพื่อลดภาวะหมดไฟในการทำงาน ดังนั้นเราจึงได้เห็นหลายๆ คน พาตัวเองพร้อมโน้ตบุ๊คไปทำงานยังต่างจังหวัดที่ห่างไกลผู้คน และได้พักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติไปด้วยในเวลาเดียวกัน “เครือข่ายการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน” จึงได้มีการปรับรูปแบบการท่องเที่ยว

ให้มีพื้นที่อำนวยความสะดวกสำหรับการทำงาน เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่อยากเปลี่ยนที่ทำงานจาก Work From Home เป็น Work From Anywhere รวมถึงดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ต้องการมาพักผ่อนและเรียนรู้วิถีชีวิตไปพร้อมกับคนพื้นเมืองแม่ฮ่องสอน เช่น การดริปกาแฟ การทอผ้า และอื่นๆ ซึ่งผู้ที่มาเยือนไม่เพียงแต่สามารถนั่งทำงานได้อย่างมีความสุข แต่ในช่วงพักหรือเลิกงาน ก็ยังสามารถลงไปสัมผัสวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ได้

สโลว์ไลฟ์กับวิถีประมง ที่พัทลุง
พัทลุง
เป็นจังหวัดที่มีวิถีชีวิตสะท้อนถึงความเป็นลุ่มน้ำ ไม่ว่าจะเป็น “ทะเลน้อย” แหล่งน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ และ “คลองปากประ” แหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่เกิดจากการไหลมารวมกันของลำน้ำหลายสาย ชาวบ้านที่นี้จึงประกอบอาชีพเกษตรกรรมและประมงเป็นหลัก โดยมีวิถีพื้นบ้านที่สืบทอดต่อกันมายาวนาน นั่นคือการใช้ “ยอยักษ์” ดักจับปลา

เมื่อมาเยือนชุมชนปากประ กิจกรรมที่ถือเป็นเสน่ห์ คือ การล่องเรือจากคลองปากประสู่ทะเลน้อย เพื่อชมแสงแรกของวัน และเมื่อล่องเรือไปตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ก็จะได้ชมวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านที่ใช้ยอยักษ์จับปลา รวมถึงระบบนิเวศทางธรรมชาติที่งดงาม ทั้งทุ่งดอกบัว ควายน้ำ และนกน้ำหลากหลายพันธุ์

พิชิตยอดเขาดอยหลวงเชียงดาว ที่เชียงใหม่
ดอยหลวงเชียงดาว เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย มีลักษณะเป็นป่ากึ่งอบอุ่นเหมือนต่างประเทศ รวมถึงวัฒนธรรมชุมชนที่น่าสนใจ ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องการเดินทางมาศึกษาธรรมชาติในพื้นที่ ซึ่งหากขาดความรู้ที่ถูกต้องก็อาจทำให้

ทรัพยากรธรรมชาติ และวิถีชีวิตดั้งเดิมถูกทำลายได้ จึงเปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่สนใจเข้ามาร่วมเป็นอาสาสมัครพิทักษ์ดอยหลวงเชียงดาว เช่น อาสาสมัครทำแนวกันไฟ และปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่ป่า เพื่อเป็นการต่อยอด และรักษาความมหัศจรรย์ของดอยหลวงเชียงดาวให้คงอยู่สืบไป

ใครหลงใหลการท่องเที่ยวในรูปแบบวิถีชุมชน ก็ลองปักหมุดไปเที่ยวกันได้นะ

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว 

Categories
focus on travel

หนาวนี้ อย่าพลาดมาชิลล์ที่ “กิ่วแม่ปาน”

               หนาวนี้ อยากจะชวนทุกคนมาสูดอากาศสะอาดกันให้เต็มปอดท่ามกลางขุนและป่าไม้กันที่ กิ่วแม่ปาน บอกเลยว่าฟินแน่ๆ เพราะที่นี่เค้าได้ชื่อว่าวิวสวยมาก แถมอากาศก็ยังหนาวติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยทีเดียว

            กิ่วแม่ปาน ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ถือเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้นที่นักท่องเที่ยวมักจะชอบขึ้นไปเพื่อชมพระอาทิตย์และทะเลหมอกสุดอลังการ ยิ่งถ้าใครตื่นเช้าหน่อยซักตีห้า ก็จะได้ชมทะเลหมอกสวยๆ พร้อมกับแสงแรกของวันที่สวยงามเป็นที่สุด

               สำหรับการเดินเที่ยวชมกิ่วแม่ปานนั้นจะมีไกด์ชาวบ้านนำเดินชม และคอยแนะนำไปตลอดทาง โดยมีระยะทางรวมประมาณ 5 กิโลเมตรนิดๆ ไม่ไกลเท่าไหร่ เดินชิลล์สบายๆ

              เมื่อเดินเข้ามาด้านในป่าจะรู้สึกชุ่มชื่นมากๆ เพราะถูกปกคลุมด้วยสีเขียวขจีไปทั่วบริเวณ แม้อากาศจะหนาว และชื้นมากๆ แต่ก็ให้ความรู็สึกดีสุดๆ แถมยังได้เดินผ่าน น้ำตกลานเสด็จ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เริ่มเดินเข้ามา ตรงนี้เล่นน้ำไม่ได้ แต่ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมากๆ

                และไฮไลท์ของเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานแห่งนี้ก็คือ จุดชมวิวที่ 9 ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่ต้องเช็คอินให้ได้เพราะเป็นจุดที่เราสามารถมาถ่ายรูปสวยๆ กับทะเลหมอก รวมถึงชมพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยสุดๆ นั่นเอง ตรงนี้จึงถือเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม เลยอาจต้องใช้เวลาค่อนข้างนานหน่อย เพราะมีคนรอต่อคิวถ่ายรูปกันเยอะจริงๆ

               ต่อจากจุดชมวิวทะเลหมอกก็จะเป็นการเดินตามแนวสันเขา ซึ่งจะไม่อันตรายเลยถ้าปฏิบัติตัวตามที่ไกด์ชาวบ้านบอก คือให้เดินเป็นแถวเรียงหนึ่งลงไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็แวะชมธรรมชาติตามทางไปด้วย รับรองว่าจะเพลิดเพลินจนลืมเหนื่อยแน่นอน เพราะมีแต่สิ่งน่าตื่นตาตื่นใจให้ได้ชม อย่างกุหลาบพันปีที่ชูดอกสีแดงสวยรับลมหนาว เป็นต้น

               จากนั้นเดินต่อไปเรื่อยๆ ก็จะถึงจุดชมวิวอีกแห่งที่มองเห็น พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ตั้งอยู่คู่กันสวยงามมากๆ หลังจากชมพระธาตุทั้ง 2 แล้ว ก็จะเป็นทางเดินสลับขึ้นลงเขา โดยระหว่างทางก็ยังคงมีป่าเขียวให้ได้รับอากาศดีๆ เข้าปอดเช่นเดิม และจะมีจุดนั่งพักอยู่เป็นระยะ การเดินขึ้นๆ ลงๆ เขาเลยไม่ได้ยากลำบากมาก เหนื่อยก็พักไปเรื่อยๆ ได้

                สำหรับใครที่สนใจ และยังไม่เคยเดินป่ามาก่อน ขอบอกว่าทางเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานนี้ค่อนข้างเดินง่าย ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก แค่ต้องระวังในเรื่องของรองเท้า ควรเป็นรองเท้าผ้าใบที่ยึดเกาะพื้นได้ดี เพราะด้วยความชื้นของป่าอาจทำให้ลื่น และอากาศด้านบนค่อนข้างหนาว จึงควรใส่เสื้อกันหนาว ถุงเท้า และหมวก รวมถึงอย่าลืมพกน้ำขวดเล็กๆ ไว้ดื่มระหว่างทางด้วย

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว 

Categories
focus on travel

“เขาพะเนินทุ่ง” จุดชมทะเลหมอกสุดปังในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

                ถ้าพูดถึงที่เที่ยวหน้าหนาวที่มีทะเลหมอก หลายคนก็มักจะนึกถึงจังหวัดทางภาคเหนือเป็นที่แรกๆ แต่รู้หรือไม่ว่าจังหวัดภาคกลางใกล้กรุงเทพอย่าง เขาพะเนินทุ่ง ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ก็ถือเป็นจุดชมทะเลหมอกสุดปังด้วยเหมือนกัน ทั้งยังมีจุดกางเต็นท์ให้สามารถมานอนดูวิวสวยๆ ของธรรมชาติแบบไม่มีอะไรมากั้นอีกด้วย ใครอยู่ภาคกลาง ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงภาคเหนือแล้วนะขอบอก

                เขาพะเนินทุ่ง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 2 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ จึงเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำสายสำคัญอย่าง แม่น้ำเพชรบุรี และ แม่น้ำปราณบุรีที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้มีความหลากหลายของธรรมชาติที่น่าสนใจ ทั้งทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ และหน้าผาที่สวยงาม รวมถึงเขาพะเนินทุ่งเอง ก็ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอุทยานฯ แห่งนี้ด้วยเช่นกัน

               ตัวเขาพะเนินทุ่ง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ไปประมาณ 50 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าและป่าดิบ จึงทำให้เกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงามของทะเลหมอกที่ก่อตัวขึ้นอย่างหนาแน่นในช่วงตั้งแต่ปลายฤดูฝน ไปจนถึงฤดูหนาว และมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่ 2 จุดด้วยกันที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดเด็ดขาด นั่นก็คือ จุดชมวิวพะเนินทุ่ง และ ยอดเขาพะเนินทุ่ง

                มาเริ่มกันที่ จุดชมวิวพะเนินทุ่ง ซึ่งเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมากๆ ตั้งอยู่ตรงกิโลเมตรที่ 30 ทั้งยังเป็นจุดกางเต็นท์สำหรับคนที่สนใจขึ้นมานอนพักบนนี้ โดยทางอุทยานฯ จะมีบริการเต็นท์ให้เช่า รวมถึงร้านอาหาร และเครื่องดื่ม ในช่วงเวลาเช้าที่แสงอาทิตย์ค่อยๆ สาดส่องลงบนขุนเขาผ่านทะเลหมอก จะเกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงามตราตรึงใจเป็นที่สุด แถมอากาศก็เย็นสบายตลอดปี แต่ถ้ามาช่วงหน้าหนาวก็ต้องขอเตือนไว้เลยว่า คือหนาวจับขั้วหัวใจเลยทีเดียว

                 แล้วก็ไปลุยกันต่อกันที่ ยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งเป็นแหล่งดูนกป่า และเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จะต้องเดินทางเท้าจากจุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง โดยใช้เส้นทางสายวังวน – พะเนินทุ่ง ไปประมาณ 4 ชั่วโมง เพราะต้องข้ามเนินเขาหลายลูกจึงจะถึงยอดเขาพะเนินทุ่ง

                  สำหรับใครที่สนใจจะเดินทางไป เขาพะเนินทุ่ง มีกฎว่าต้องติดต่อกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานฯ ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เพื่อรับใบอนุญาตในการเดินทางก่อน จากนั้นก็สามารถขับรถขึ้นเขาพะเนินทุ่งได้ด้วยตัวเอง แต่แนะนำให้ใช้รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อและมีสมรรถนะที่ดี เพราะทางค่อนข้างชัน ส่วนใครที่ไม่อยากเอารถขึ้นไปเองก็สามารถติดต่อกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อใช้บริการรถรับจ้างพาขึ้นไปได้

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel 
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว 

Categories
focus on travel

แนะนำภูเขาสวยๆ เหมาะเที่ยวหน้าฝน สำหรับคนหลงรักเขา

             วันนี้จะมาว่ากันด้วยเรื่องของคน รัก “เขา” โดยเฉพาะ เข้าหน้าฝนแล้วแบบนี้ ที่เที่ยวหน้าฝนสวยๆ ให้เราได้กอดสายหมอกกันแบบใกล้ๆ ก็ต้องภูเขาเลยจ้า ใครชอบบรรยากาศของการเดินเขา อยากขึ้นไปสูดอากาศดีๆ บนยอดเขา และตื่นเต้นกับการได้เจอ สายหมอกยามเช้าแล้วล่ะก็ ตามเราเช็คอินที่เที่ยวภูเขาเหล่านี้กันได้เลย

ดอยอินทนนท์ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี และที่นี่ยังเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ไม่ว่าคนไทย หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากได้มาถึงเชียงใหม่แล้ว จะต้องไม่พลาดไปขึ้นดอยอินทนนท์กัน เพื่อรับโอโซน สูดอากาศดีๆ และเดินชมป่าเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์กันสักครั้งในชีวิต

เขาค้อ ถือเป็นอีกหนึ่งภูเขาชื่อดัง ตั้งอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แม้แต่ในฤดูร้อน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี เพียง 18-25 องศาเซลเซียสเท่านั้น และก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมายให้ได้มาพักผ่อน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งชมทะเลหมอกที่สวยงามมากๆ อีกแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน และหน้าหนาว จะมีทะเลหมอกให้ชมกันแทบทุกวันเลยทีเดียว

ภูทับเบิก อีกหนึ่งภูเขาในจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มียอดเขาสูงที่สุดจากระดับน้ำทะเล ทำให้ที่นี่ค่อนข้างมีอากาศที่เย็นตลอดปี ลักษณะเด่น คือ บนภูเขาจะรายล้อมไปด้วยกะหล่ำปลีลูกกลม ในช่วงหน้าฝน นอกจากเราจะได้กอดทะเลหมอกอย่างจุใจแล้ว ก็ยังได้เห็นความ amazing ของภูทับเบิกอีกอย่างหนึ่งก็คือ แม้จะเป็นหน้าฝน แต่ก็จะมีหมอกตลอดทั้งวัน

ภูสอยดาว ภูสวยในจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกหญ้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ใครที่รักดอกไม้ ใบหญ้า แนะนำว่าให้มาเที่ยวที่นี่ในหน้าฝน และสำหรับใครที่เป็นนักท่องเที่ยวสายลุย ชอบสไตล์ผจญภัยเบาๆ ได้เดินป่า ลุยฝน นอนเต็นท์ สูดไอหมอกสวยๆ ต้องไม่พลาดมาชิลล์ที่นี่ให้ได้

ภูลังกา นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวภูเขาในจังหวัดพะเยา ที่สวยงามมากๆ ในทุกฤดู จึงสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงช่วงหน้าฝน ที่จะเต็มด้วยความเขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำของต้นไม้น้อยใหญ่ทั่วทั้งภูเขา และก็ยังมีหมอกให้เราได้เห็นในช่วงเช้าๆ อีกด้วย ซึ่งข้อดีของการเที่ยวภูลังกาหน้าฝนก็คือ ไม่ต้องแย่งกันเที่ยวกับคนเยอะๆ เหมือนในช่วงหน้าหนาวนั่นเอง

             ใครหลงรักเขาอยู่ ก็อย่าได้รอช้า รีบไปจัดกระเป๋า แล้วไปตามหาเขาเหล่านี้กันด่วนๆ นะจ๊ะ

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว