5 พิกัดทุ่งดอกไม้ เชียงใหม่
สำหรับใครที่หลงใหลในดอกไม้ หรือชอบเที่ยวสถานที่ที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้ ขุนเขา และอากาศที่บริสุทธิ์ต้องพลาดไม่ได้กับจังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทยเรานั่นเอง ซึ่งเรารับรองว่าไม่ว่าคุณจะมากี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อเลยทีเดียว เพราะที่เที่ยวธรรมชาตินั้นมีมากมายระรานตา ในวันนี้เรามีพิกัดทุ่งดอกไม้สวยๆ 5 ทุ่งดอกไม้เชียงใหม่มาแชร์กัน รับรองว่ามาแล้วต้องติดใจแน่นอน ที่สำคัญถ่ายรูปลงโซเชี่ยลได้แบบปังๆ ยอด like พุ่งพรวดอย่างแน่นอน ใครชอบที่ไหนก็ตามไปโดนกันได้เลย
1.ไอเลิฟฟลาวเวอร์ฟาร์ม (I Love Flower Farm) เรียกได้ว่าเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตที่ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ จะต้องไปเยือนทุ่งดอกไม้แห่งนี้ I Love Flower Farm เพราะช่วงที่ผ่านมามีดารา ไอดอลมากมายได้ไปเยือนสถานที่แห่งนี้แล้วถ่ายรูปลงโซเชี่ยลทำให้คนตามไปกันเป็นจำนวนมาก และมีอยู่ช่วงหนึ่งถึงกับต้องจองคิวล่วงหน้าเลยทีเดียว
เเละนอกจากจะเป็นทุ่งดอกไม้ที่ตกแต่งสวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีการจัดโต๊ะพร้อมพร็อพกลางสวนให้ถ่ายกันแบบปังๆ ดอกไม้ของที่นี่มี 2 ชนิด คือ ดอกคัตเตอร์และดอกมากาเร็ต ซึ่งจะปลูกตลอดทั้งปีโดยการสลับสับเปลี่ยนตามระยะเวลาของดอกไม้ และสำหรับใครอยากซื้อดอกไม้สำหรับถ่ายรูปเพิ่มเติมหรือว่าจะซื้อกลับไปเป็นของฝาก ที่นี่ก็มีดอกไม้ขายแยกราคาเพียงช่อละ 20 บาทเท่านั้นเอง ส่วนค่าเข้าชม 70 บาท/คน ถือว่าราคาคุ้มค่ากับวิวหลักล้านแบบนี้มากเลยทีเดียว พลาดไม่ได้
2.บ้านนาฟลาวเวอร์ (Bannaflowers) ที่นี่เป็นทุ่งดอกคัตเตอร์สีขาว ถ้ามาเห็นกับตาต้องร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า OMG !! เพราะสวยงามตระการตามาก เรียกได้ว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งทุ่งดอกไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และที่สำคัญคุณไม่ต้องเตรียมพร๊อพหรือแบกรุงรังมาจากบ้านเลยเพราะสถานที่แห่งนี้มีการจัดที่นั่ง
เตรียมพร๊อพต่างๆ ให้เลือกใช้อย่างเต็มที่เรียบร้อยแล้ว รับประกันว่าดอกคัตเตอร์สีขาวที่ล้อมรอบพร้อมวิวที่สวยงามจะเป็นความทรงจำที่ดีมากๆสำหรับทุกคนที่มาท่องเที่ยว และใครที่เป็นสายแชะภาพต้องไม่พลาดกับดอกไม้โทนคลีนๆขาวๆแบบนี้ รับรองสบายตา สวยงาม ปังสุดๆ และค่าเข้าเพียงคนละ50บาท/คน เท่านั้นเอง!
3.ไร่ดอกลมหนาว ไร่ลมหนาวเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินสถานที่ยอดฮิตที่อยู่บนดอยม่อนแจ่ม หรือหมู่บ้านม่อนแจ่มนั่นเอง สำหรับใครที่ได้มาเยือนเชียงใหม่จะต้องแวะขึ้นมาชมวิวด้านบนนี้เพราะการเดินทางมีเส้นทางที่สะดวกและระยะทางที่ไม่ไกลจากตัวเมือง
แถมมีบรรยากาศธรรมชาติความสวยงามหลักล้านขนาดนี้จึงทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมากันโดยเฉพาะจะฮิตมากในช่วงฤดูหนาว ที่สำคัญไร่ดอกลมหนาวนั้นมีทุ่งดอกไม้ให้เข้าชมเกือบทั้งปีเลย ซึ่งมีทั้งดอกเวอร์บีน่า ดอกสแตติสและดอกทานตะวัน เรียกได้ว่าไม่ต้องไปถึงต่างประเทศก็ฟินได้
4.สุรชัยฟาร์ม ทุ่งดอกมากาเร็ต ทุ่งดอกไม้แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ทำเลดีมากเพราะตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาวิวธรรมชาติสวยงามตระการตา เหมาะแก่การมาเดินเล่นตอนเช้ารับอากาศที่บริสุทธิ์และหนาวเย็น หรือจะมาถ่ายรูปตอนเย็นก็จะภาพที่สวยไปอีกแบบกับแสงยามเย็นอบอุ่นถือเป็นเวลาที่แสงสวยที่สุดสำหรับการถ่ายภาพเลยทีเดียว
ซึ่งการปลูกดอกไม้ของที่นี่จะหมุนเวียนปลูก 4 สวนในเวลา 1 เดือน เพื่อนักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกไม้ที่สวยงามอยู่เสมอ และที่พลาดไม่ได้ที่นี่เอาใจสำหรับสาวๆที่ชอบถ่ายภาพมากเพราะมีพร็อพให้ใช้ประกอบการถ่ายภาพเยอะมาก สามารถเลือกใช้กันได้เลย ส่วนค่าเข้าชมนั้นเพียงเเค่ 50บาท/คน เท่านั้นเอง บอกเลยว่าไม่มีอะไรคุ้มกว่านี้อีกแล้ว
5.ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงขุนแปะ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะตั้งอยู่ในตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ตามพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อช่วยเหลือชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและม้งทำให้ชาวเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
และทุ่งดอกไฮเดรนเยียถือเป็นหนึ่งในแปลงปลูกพืชทดลองของโครงการหลวงขุนแปะ(เริ่มบานตั้งแต่เดือนตุลาคม บานเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์) ซึ่งมีความสวยงามหลากสีสันมาก ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศก็ชมทุ่งดอกไม้ วิวธรรมชาติที่อลังการแบบนี้ได้ ที่สำคัญที่นี่สามารถชมวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งและชาวกะเหรี่ยงได้อีกด้วย วิถีชีวิตนั้นค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์มากเลยทีเดียว ซึ่งควรค่ากับการมาสักครั้งในชีวิต
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 พิกัดทุ่งดอกไม้ ใครที่ชื่นชอบหรือโดนใจสถานที่ไหนก็สามารถตามไปเที่ยวเช็กอินแบบฟินๆกันได้เลย รับรองว่าราคาค่าเข้าหลักสิบหลักร้อยแต่วิว ธรรมชาติและบรรยากาศนั้นหลักล้านแน่นอน ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศก็สามารถชมบรรยากาศ feel like
ต่างแดนได้ แถมเดินทางสะดวก ยิ่งใครสายถ่ายภาพต้องไม่พลาดควรค่าแก่การไปท่องเที่ยวสักครั้งในชีวิต ยิ่งช่วงนี้ปลดล็อกดาวน์แล้วถือเป็นช่วงเวลาที่ดีในปลายปีที่จะไปพักผ่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมดูแลตัวเอง ใส่แมสก์ พกเจลแอลกอฮอล์เพื่อความปลอดภัยกันด้วยน้า
ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ที่ Focus on travel
เวปไซด์ focusontour.com และติดตามต่อกันได้ที่ FB: กิน นอน เที่ยว